In October 2000, Ilocos Sur governo

In October 2000, Ilocos Sur governor Luis "Chavit" Singson, a close friend of the President, alleged that he had personally given Estrada P400 million as payoff from jueteng hidden in a bank account known as "Jose Velarde" – a grassroots-based numbers game, as well as P180 million from the government price subsidy for the tobacco farmers' marketing cooperative after Estrada ordered a full blown investigation into Chavit Singson's alleged misuse of millions of pesos in public funds. Singson's allegation caused controversy across the nation, which culminated in the House of Representatives' filing of an impeachment case against Estrada on November 13, 2000. House Speaker Manny Villar fast-tracked the impeachment complaint. The impeachment suit was brought to the Senate and an impeachment court was formed, with Chief Justice Hilario Davide, Jr. as presiding officer. Estrada, pleaded “not guilty”.

This was the first time the Filipino public witnessed, through radio and television, an elected president stand in trial and face possible impeachment with full media coverage. During the trial, the prosecution presented witnesses and alleged evidences to the impeachment court regarding Estrada's alleged involvement in jueteng. The existence of secret bank accounts which he allegedly uses for receiving payoffs was also brought to the fore.

In the 2004 Global Transparency Report, Estrada made into the list of the World's All-Time Most Corrupt Leaders in the World. He was listed tenth and he was said to have amassed between $78 million to $80 million.[22][23] Also making it to the list from the Philippines is Ferdinand Marcos,who ended up second in the list as he was said to have embezzled between $5 billion to $10 billion during his 21 years as President from 1965-1986.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในตุลาคม 2000, Ilocos ซูผู้ว่าราชการจังหวัด luis "ชวิต" singson, เพื่อนสนิทของประธานาธิบดีถูกกล่าวหาว่าเขาได้รับดาส่วนตัว p400 ล้านเป็นผลตอบแทนจาก jueteng ที่ซ่อนอยู่ในบัญชีธนาคารที่เป็นที่รู้จักในฐานะ "jose velarde" - ตัวเลขรากหญ้าตาม เกมเช่นเดียวกับที่ P180 ล้านบาทจากราคาเงินอุดหนุนของรัฐบาลสำหรับเกษตรกรยาสูบ 'ความร่วมมือด้านการตลาดหลังจากดาสั่งสอบสวนเป่าเต็มเป็น singson ชวิตที่ถูกกล่าวหาว่าผิดล้านเปโซในกองทุนสาธารณะ ข้อกล่าวหาของ singson ทำให้เกิดความขัดแย้งทั่วประเทศซึ่ง culminated ในบ้านยื่นตัวแทนของกรณีฟ้องร้องกับเอสตราดาที่ 13 พฤศจิกายน 2000 ลำโพงบ้าน manny Villar อย่างรวดเร็วติดตามการร้องเรียนฟ้องร้อง เหมาะกับการฟ้องร้องถูกนำไปวุฒิสภาและศาลฟ้องร้องได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยมีหัวหน้าผู้พิพากษา Hilario davide, jr เป็นประธานเจ้าหน้าที่ ดาอ้อนวอน "ไม่ผิด".

นี่เป็นครั้งแรกที่ประชาชนเห็นฟิลิปปินส์ผ่านวิทยุและโทรทัศน์ได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดียืนอยู่ในการทดลองและเผชิญการฟ้องร้องเป็นไปได้ที่มีความคุ้มครองสื่อเต็มรูปแบบ ระหว่างการพิจารณาคดีการฟ้องร้องที่นำเสนอพยานหลักฐานและข้อกล่าวหาในการฟ้องร้องศาลเกี่ยวกับเอสตราดาที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมใน juetengการดำรงอยู่ของบัญชีธนาคารลับที่เขาถูกกล่าวหาว่าใช้สำหรับการรับสินบนยังถูกนำไปข้างหน้า.

ในปี 2004 ทั่วโลกรายงานความโปร่งใสดาทำลงในรายชื่อของทุกครั้งที่ผู้นำเสียหายมากที่สุดของโลกในโลก เขาถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในสิบและเขาก็บอกว่าจะมี amassed ระหว่าง $ 78,000,000 ไป $ 80,000,000[22] [23] นอกจากนี้ยังทำให้มันไปยังรายการจากฟิลิปปินส์เป็นเฟอร์ดินานด์มาร์กอสที่จบลงด้วยการที่สองในรายการในขณะที่เขาก็บอกว่าจะยักยอก $ 5 พันล้านเพื่อ 10000000000 $ ในระหว่าง 21 ปีของเขาเป็นประธาน 1965-1986

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในเดือน 2000 ตุลาคม เซออิผู้ว่า Luis " Chavit " Singson เพื่อนสนิทของประธานาธิบดี ถูกกล่าวว่า เขามีตัวให้เอสตราดา P400 ล้านเป็นผลตอบแทนจาก jueteng ที่ซ่อนอยู่ในบัญชีธนาคารเป็น "Jose Velarde" – เกมหมายเลขพื้นฐานรากหญ้า เช่นเดียว กับ P180 ล้านจากรัฐบาลราคาเงินสมทบสำหรับสหกรณ์การตลาดของเกษตรกรยาสูบหลังจากเอสตราดาสั่งสอบสวนเต็มเป่าเป็น Chavit Singson ล้าน pesos ถูกกล่าวหานำเงินรัฐ ในกรณีของ Singson ทำให้เกิดการถกเถียงทั่วประเทศ ที่ culminated ในราษฎรยื่นการ impeachment คดีเอสตราดาบน 13 พฤศจิกายน 2000 บ้านร้อง impeachment ลำโพง Villar แมนนี่ติดตามอย่างรวดเร็ว ชุด impeachment ถูกนำไปยังวุฒิสภา และศาลการ impeachment ก่อ กับประธานศาล Hilario เดวิด จูเนียร์เจ้าหน้าที่เป็น presiding เอสตราดา pleaded "ไม่ผิด"

นี้เป็นครั้งแรกที่เห็นประชาชนฟิลิปปินส์ ผ่านวิทยุ และโทรทัศน์ ประธานาธิบดีที่ได้รับเลือกยืนในทดลอง แล้วหน้า impeachment ได้ ด้วยสื่อเต็มรูปแบบครอบคลุม ระหว่างทดลอง โจทก์เสนอพยาน และหลักฐานต่อศาล impeachment เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของเอสตราดาถูกกล่าวหาใน jueteng ถูกกล่าวหา มีบัญชีลับซึ่งเขาใช้รับ payoffs หลังยังถูกนำไปลำเลียงสา

ในปี 2004 ส่วนกลางความโปร่งใสของรายงาน เอสตราดาทำเป็นรายการของโลกสรุปส่วนใหญ่เสียหายนำในโลก เขาได้แสดงที่สิบ และเขาก็บอกจะได้ไว้ด้วยระหว่าง 78 ล้านเหรียญถึง 80 ล้านดอลลาร์[22][23] นอกจากนี้ยัง ทำให้รายการจากฟิลิปปินส์คือ เฟอร์ดินานด์มาร์กอส ที่สิ้นสุดที่สองในรายได้ว่า มียักยอกระหว่าง $5 พันล้านไป 10 ล้านดอลลาร์ในช่วงปี 21 เขาเป็นประธานจาก 1965-1986

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในเดือนตุลาคม 2000 , ilocos sur ผู้ว่า Luis " chavit " singson ,ที่อยู่ใกล้กับเพื่อนของประธาน,กล่าวหาว่าเขามีตัวตนให้ Estrada P 400 ล้านบาทรับผลตอบแทนจาก jueteng ซ่อนอยู่ในบัญชีธนาคารที่รู้จักกันว่า" Jose velarde " - ที่ระดับรากหญ้าซึ่งใช้หมายเลขเกม,และ P 180 ล้านบาทจากที่รัฐบาลอุดหนุนราคาสำหรับที่โรงงานยาสูบเกษตรกรด้านการตลาดสหกรณ์หลังจาก Estrada สั่งซื้อที่ถูกลมพัดปลิวการสอบสวนใน chavit singson ของผู้ต้องหานำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของคนหลายล้านคนของ,เปโซในที่สาธารณะกองทุน. คำกล่าวหาของ singson เกิดจากข้อพิพาททั่วประเทศที่เกี่ยวพันในบ้านที่ยื่นคำขอของผู้แทนของกรณีฟ้อง(รัฐมนตรี)กับ Estrada บนวันที่ 13 พฤศจิกายน 2000 บ้านลำโพง MANNY villar อย่างรวดเร็วสำหรับพิจารณาคดีข้าราชการที่ถูกติดตามการร้องเรียน เหมาะสำหรับพิจารณาคดีข้าราชการที่ถูกนำตัวไปให้ วุฒิสภา และศาลสำหรับพิจารณาคดีข้าราชการที่มาพร้อมกับความยุติธรรม hilario davide Jr .เป็นพนักงานให้ประธาน Joseph Estrada ครวญ"ไม่ผิด"..

โรงแรมแห่งนี้เป็นครั้งแรกที่ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ที่เป็นประจักษ์พยานถึงผ่านทางวิทยุและโทรทัศน์ประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งอยู่ในการทดลองใช้งานและหันหน้าเข้าหาสำหรับพิจารณาคดีข้าราชการเป็นไปได้ด้วยการครอบคลุมสื่อ ในระหว่างการทดลองใช้งานได้การดำเนินคดีที่นำเสนอเป็นพยานและหลักฐานต่างๆถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ศาลสำหรับพิจารณาคดีข้าราชการที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมของ Estrada ใน juetengการมีตัวตนอยู่จริงของบัญชีธนาคารลับซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าใช้ในการได้รับสารพัดรูปแบบตั้งแต่จ่ายถูกนำตัวมายังหน้าที่ยัง.

ในปี 2004 รายงานความโปร่งใสระดับโลกที่ Estrada ทำให้เข้าไปในบัญชีรายการของโลกที่ all-time เสียหายมากที่สุดในโลกที่ผู้นำ เขาได้รับการบันทึกลงในรายการหนึ่งในสิบและเขาก็บอกว่าจะได้รวบรวมระหว่าง$ 78 ล้าน 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ[ 22 ][ 23 ]นอกจากนั้นยังทำให้ในรายการจากฟิลิปปินส์ที่เป็นเฟอร์ดินานด์มาร์กอสที่จบลงที่สองในรายการนั้นตามที่เขาพูดถึง embezzled ระหว่าง$ 5 ล้านเป็น 10 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 21 ปีของเขาเป็นประธานจาก 1965-1986 .