The purpose of this paper was to co

The purpose of this paper was to contribute to the limited body of knowledge concerning the ways in which management accounting practices and management techniques combine to enhance performance, under various strategic priorities. Hypotheses were used to isolate relevant variables and instruments were developed to measure these variables. These measures demonstrated acceptable levels of construct validity and internal reliability and may be useful in further research.
The application of a systems approach, employing cluster analysis, provided a basis to test hypotheses concerning the extent to which a wide range of variables affected organizational performance. While not without methodological limitations, relating clusters to organizational performance provided insights that may be used to direct future research into the reasons underlying the effectiveness of different combinations of variables. It is likely that case studies examining how the identified variables developed and interrelated over time may provide valuable explanations into causal connections. Additionally, further survey-based research could target more focused combinations of strategy, management techniques and management accounting. For example, a conclusion of this study is the importance of a holistic approach to developing management techniques and management accounting practices. Research targeting the most effective ways of developing management accounting systems to assist in achieving holistic change would be a useful extension to the current study.
In interpreting the results of this study, certain limitations must be acknowledged. First, a major criticism of research into the way contemporary management accounting enhances organizational performance is the lack of strong theory to explain observations. This may be due, in part, to a tendency to explain management accounting by relating it to concurrent developments in areas such as manufacturing, human resource management and strategy. These disciplines provide arguments based on the insights of researchers and practitioners more often than tightly argued theories founded in core disciplines such as economics or psychology. Given the exploratory nature of this study and the range of variables examined, the hypotheses placed considerable reliance on the insights of authorities reporting on contemporary management accounting. Where the analysis did not support the expected effects, reasons were identified to explain results, thereby providing the basis to extend or modify theory. Also, it is recognized that the only way to validate the findings of exploratory research, such as this study, is by a process of replication.
A further limitation is that the study did not examine the moderating effects of other environmental and organizational variables, except size and industry category. While it is possible that other variables (such as manufacturing technology) are implicated in the relationships examined, there is no reason to believe that the exclusion of contextual variables represents a misspecification of the model. As is common in management accounting research, future studies can add to our understanding of the research problem by considering the role of additional relevant variables.
Despite these limitations, the study provides evidence on the way in which a selection of variables related to strategy, management techniques and management accounting practices combine to affect performance. In particular, it provides a demonstration of how a systems approach, using cluster analysis, may be applied to management accounting research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการมีส่วนร่วมในร่างกายที่ จำกัด ของความรู้เกี่ยวกับวิธีการที่การจัดการการบัญชีและเทคนิคการจัดการรวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานภายใต้การจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่างๆ สมมติฐานที่ใช้ในการแยกตัวแปรที่เกี่ยวข้องและได้รับการพัฒนาเครื่องมือที่ใช้ในการวัดตัวแปรเหล่านี้ มาตรการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงระดับที่ยอมรับได้ของความถูกต้องและความน่าเชื่อถือสร้างภายในและอาจจะมีประโยชน์ในการวิจัยต่อไป.
การประยุกต์ใช้วิธีการระบบการจ้างงานการวิเคราะห์กลุ่มให้เป็นประจำเพื่อทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับขอบเขตที่หลากหลายของตัวแปรที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานขององค์กร ขณะที่ไม่ได้โดยไม่มีข้อ จำกัด วิธีการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานกลุ่มองค์กรให้ข้อมูลเชิงลึกที่อาจนำมาใช้ในการวิจัยในอนาคตตรงเข้าไปในเหตุผลพื้นฐานความมีประสิทธิภาพของการรวมกันของตัวแปร มันอาจเป็นกรณีศึกษาที่ตรวจสอบว่าตัวแปรที่ระบุการพัฒนาและความสัมพันธ์ในช่วงเวลาอาจให้คำอธิบายที่มีคุณค่าในการเชื่อมต่อสาเหตุ นอกจากนี้การวิจัยตามการสำรวจต่อไปสามารถกำหนดเป้าหมายมุ่งเน้นมากขึ้นรวมกันของกลยุทธ์เทคนิคการบริหารจัดการและการบัญชีการจัดการ ยกตัวอย่างเช่นข้อสรุปของการศึกษาครั้งนี้คือความสำคัญของวิธีการแบบองค์รวมเพื่อการพัฒนาเทคนิคการจัดการและการจัดการการปฏิบัติการบัญชี วิจัยกำหนดเป้าหมายวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการพัฒนาระบบการจัดการการบัญชีที่จะให้ความช่วยเหลือในการบรรลุการเปลี่ยนแปลงแบบองค์รวมจะเป็นประโยชน์ในการขยายการศึกษาในปัจจุบัน.
ในการแปลผลการศึกษาครั้งนี้มีข้อ จำกัด บางอย่างที่จะต้องได้รับการยอมรับ ครั้งแรกที่วิจารณ์ที่สำคัญของการวิจัยในการบัญชีการจัดการวิธีร่วมสมัยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กรคือการขาดของทฤษฎีที่แข็งแกร่งในการอธิบายการสังเกต นี้อาจจะเป็นเพราะในส่วนที่จะมีแนวโน้มที่จะอธิบายการบัญชีการจัดการโดยเกี่ยวข้องกับมันเพื่อการพัฒนาพร้อมกันในด้านต่างๆเช่นการผลิต, การจัดการทรัพยากรมนุษย์และกลยุทธ์ สาขาวิชาเหล่านี้มีข้อโต้แย้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลเชิงลึกของการวิจัยและผู้ปฏิบัติบ่อยกว่าทฤษฎีที่ถกเถียงกันอยู่แน่นก่อตั้งขึ้นในสาขาวิชาหลักเช่นเศรษฐกิจหรือจิตวิทยา กำหนดลักษณะของการศึกษาสำรวจและช่วงของตัวแปรการตรวจสอบนี้สมมติฐานที่วางอยู่ความเชื่อมั่นมากในเชิงลึกของหน่วยงานการรายงานเกี่ยวกับการบัญชีการจัดการร่วมสมัย ในกรณีที่การวิเคราะห์ไม่สนับสนุนผลกระทบที่คาดว่าจะมีการระบุเหตุผลที่จะอธิบายผลจึงให้พื้นฐานที่จะขยายหรือปรับเปลี่ยนทฤษฎี นอกจากนี้ก็เป็นที่ยอมรับว่าวิธีเดียวที่จะตรวจสอบผลการวิจัยสำรวจเช่นการศึกษาครั้งนี้คือโดยกระบวนการของการจำลองแบบ.
ข้อ จำกัด ต่อไปคือว่าการศึกษาไม่ได้ตรวจสอบบรรเทาผลกระทบของตัวแปรด้านสิ่งแวดล้อมและองค์กรอื่น ๆ ยกเว้น ขนาดและประเภทอุตสาหกรรม ในขณะที่มันเป็นไปได้ว่าตัวแปรอื่น ๆ (เช่นเทคโนโลยีการผลิต) จะมีส่วนเกี่ยวข้องในการตรวจสอบความสัมพันธ์มีเหตุผลที่จะเชื่อว่าการยกเว้นของตัวแปรที่แสดงให้เห็นถึงบริบท misspecification ของรูปแบบที่ไม่มี ในฐานะที่เป็นเรื่องธรรมดาในการจัดการงานวิจัยการบัญชี, การศึกษาในอนาคตสามารถเพิ่มความเข้าใจของเราของปัญหาการวิจัยโดยพิจารณาบทบาทของตัวแปรที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม.
แม้จะมีข้อ จำกัด เหล่านี้การศึกษามีหลักฐานเกี่ยวกับวิธีการที่เลือกของตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การบริหารจัดการ เทคนิคและการจัดการการบัญชีรวมถึงการมีผลต่อประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการสาธิตวิธีใช้วิธีการระบบโดยใช้การวิเคราะห์กลุ่มอาจถูกนำไปใช้ในการจัดการงานวิจัยการบัญชี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ร่างกาย จำกัด มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการที่จัดการบัญชีการปฏิบัติและเทคนิคการจัดการรวมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ภายใต้ความสําคัญเชิงกลยุทธ์ต่าง ๆ สมมุติฐานที่ใช้ในการแยกวิเคราะห์ตัวแปรที่เกี่ยวข้องและพัฒนาวัดตัวแปรเหล่านี้มาตรการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงระดับที่ยอมรับของความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างและภายใน ความน่าเชื่อถือ และอาจเป็นประโยชน์ในการวิจัยต่อไป
โปรแกรมประยุกต์ของวิธีการระบบ โดยใช้การวิเคราะห์แบบกลุ่มให้พื้นฐานสำหรับการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับขอบเขตที่กว้างช่วงของตัวแปรที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์การ ในขณะที่ไม่ตรง ไม่จํากัด ,ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานกลุ่มให้ข้อมูลเชิงลึกที่อาจจะ ที่ใช้โดยตรงในการวิจัยในอนาคตในเหตุผลอ้างอิงประสิทธิผลของชุดค่าผสมที่แตกต่างกันของตัวแปร มันมีแนวโน้มว่า กรณีศึกษาการตรวจสอบว่าระบุตัวแปรและพัฒนาสัมพันธ์เมื่อเวลาผ่านไปอาจจะให้คำอธิบายที่มีคุณค่าในความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ นอกจากนี้การสำรวจวิจัยต่อไป โดยจะเน้นเป้าหมายรวมของกลยุทธ์ เทคนิคการจัดการและการบัญชีเพื่อการจัดการ ตัวอย่างเช่น ข้อสรุปของการศึกษานี้คือความสำคัญของวิธีการแบบองค์รวมเพื่อพัฒนาเทคนิคการจัดการและการปฏิบัติการบัญชีเพื่อการจัดการวิจัย เป้าหมาย วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการพัฒนาการจัดการระบบบัญชีเพื่อช่วยในการบรรลุการเปลี่ยนแปลงที่แบบองค์รวมจะเป็นส่วนขยายที่มีประโยชน์เพื่อการศึกษาปัจจุบัน .
ในการแปลผลการศึกษานี้ ข้อ จำกัด บางอย่างต้องได้รับการยอมรับ ครั้งแรกพันตรีวิจารณ์วิจัยในลักษณะร่วมสมัยบัญชีบริหารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพองค์การคือการขาดทฤษฎีที่แข็งแกร่งเพื่ออธิบายการสังเกต นี้อาจเป็นเพราะ ส่วนหนึ่ง กับ แนวโน้ม ที่ จะ อธิบาย บัญชีบริหาร โดยเกี่ยวข้องกับการพัฒนาพร้อมกันในพื้นที่เช่นการผลิต , การจัดการทรัพยากรมนุษย์และกลยุทธ์ศาสตร์แขนงนี้ให้ข้อคิดจากข้อมูลเชิงลึกของนักวิจัยและผู้ปฏิบัติงานบ่อยกว่าแน่นแย้งทฤษฎีก่อตั้งขึ้นในหลักวินัย เช่น เศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา ให้สำรวจธรรมชาติของการศึกษาและช่วงของตัวแปรตรวจสอบสมมติฐานที่วางไว้ได้อย่างมากในการรายงานข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหน้าที่บัญชีการจัดการร่วมสมัยที่วิเคราะห์ไม่ได้สนับสนุน ผลที่คาดหวัง เหตุผลที่ถูกระบุเพื่ออธิบายผล จึงให้ข้อมูลพื้นฐานเพื่อขยายหรือปรับเปลี่ยนทฤษฎี นอกจากนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นวิธีเดียวที่จะตรวจสอบผลวิจัยเชิงสำรวจ เช่น การศึกษาคือกระบวนการของการทำซ้ำ
ข้อเพิ่มเติมคือ การศึกษาไม่ได้ตรวจสอบควบคุมผลของสิ่งแวดล้อมและองค์กรอื่น ๆ นอกจากขนาด และอุตสาหกรรมประเภท ในขณะที่มันเป็นไปได้ว่า ตัวแปรอื่น ๆ ( เช่นเทคโนโลยีการผลิต ) จะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ที่ตรวจสอบไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อว่า ยกเว้นตัวแปรบริบทหมายถึง misspecification ของแบบจำลอง โดยทั่วไปในทางบัญชีบริหาร , การศึกษาในอนาคตสามารถเพิ่มความเข้าใจของปัญหาการวิจัยโดยพิจารณาบทบาทของตัวแปรเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
แม้จะมีข้อจำกัดเหล่านี้การศึกษามีหลักฐานในทางที่การเลือกตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ เทคนิคการบริหารจัดการบัญชีรวม ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะ และมีการสาธิตวิธีการระบบ โดยใช้การวิเคราะห์แบบกลุ่ม อาจประยุกต์เพื่อการวิจัย
การบัญชีเพื่อการจัดการ