Article 4 deals with the scope of a

Article 4 deals with the scope of application and article 5 with the criminalisation.
4. The Protocol shall apply, except as otherwise stated herein, to the prevention,
investigation, and prosecution of the offences as established in accordance with article 5 of this
Protocol, where those offences are transnational in nature and involve an organised criminal group,
as well as to the protection of victims of such offences.
The application of article 4 establishes who can be prosecuted and what is the scope of the crime.
The crime should be transnational and should involve an organised criminal group10.
However, article 4 should be read together with article 5, defining the scope of criminalisation.
5.1 Each State Party shall adopt such legislative and other measures as may be necessary to
establish as criminal offences the conduct set forth in article 3 of this Protocol, when committed
intentionally.
Although article 4 covers only offences that are transnational in nature and involve an organised
criminal group, article 5 does not include these two links. Thus national law can criminalise trafficking
regardless of whether the conditions of transnationality and involvement of criminal organisations are met. In interpreting the Protocol States can ask for international assistance and co-operation from
other State Parties with reference to the Protocol only in cases that involve transnational elements and
organised crime groups. However, States may commit themselves to a broader scope of criminalisation
and also include crimes committed by a single perpetrator within the borders of that nation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทความ 4 ข้อเสนอที่ มีขอบเขตของการประยุกต์ใช้และบทความ 5 กับ criminalisation ที่4. โพรโทคอลที่ใช้ ยกเว้นว่าจะเป็น ตน้ ป้องกันตรวจสอบ และการดำเนินคดีการกระทำผิดตามที่จัดตั้งขึ้นตามบทที่ 5 นี้โพรโทคอล ที่ผู้กระทำผิดข้ามชาติในธรรมชาติ และเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรที่จัดกับการคุ้มครองเหยื่อของการกระทำผิดดังกล่าวบทที่ 4 การประยุกต์สร้างที่สามารถดำเนินคดีและอะไรคือขอบเขตของอาชญากรรมอาชญากรรมข้ามชาติควร และควรเกี่ยวข้องกับ group10 อาญาผิดระเบียบอย่างไรก็ตาม ควรอ่านบทความ 4 บทที่ 5 การกำหนดขอบเขตของ criminalisation ร่วมกับ5.1 แต่ละรัฐภาคีจะใช้กฎหมายดังกล่าวและมาตรการอื่น ๆ ตามที่อาจจำเป็นต้องสร้างเป็นกระทำผิดจรรยาบรรณที่กำหนดไว้ในข้อที่ 3 ของโพรโทคอลนี้ เมื่อความมุ่งมั่นโดยเจตนาแม้ว่าบทความที่ 4 ครอบคลุมการกระทำผิดที่มีลักษณะข้ามชาติ และเกี่ยวข้องกับการจัดกลุ่มอาญา บท 5 ไม่มีเชื่อมโยงเหล่านี้สอง ดังนั้น กฎหมายแห่งชาติ criminalise ค้าโดยไม่คำนึงถึงว่าตามเงื่อนไขของ transnationality และมีส่วนร่วมขององค์กรอาชญากรรม ในการทำนายอเมริกาโพรโทคอลสามารถขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศและความร่วมมือจากฝ่ายรัฐอื่น ๆ โดยอ้างอิงโพรโทคอเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบข้ามชาติ และจัดกลุ่มอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม อเมริกาอาจกระทำตัวเองถึงขอบเขตของ criminalisationและยัง มีความผิดที่กระทำ โดยผู้ต้องหาที่เดียวภายในพรมแดนของประเทศที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ข้อที่ 4 ข้อเสนอที่มีขอบเขตของการใช้และข้อ 5 กับอาชญากรรมที่
4. พิธีสารใช้ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้เพื่อการป้องกันการ
สืบสวนและการดำเนินคดีความผิดตามที่จัดตั้งขึ้นตามมาตรา 5 ของ
พิธีสารที่ผู้ที่มีความผิดข้ามชาติในธรรมชาติและเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรจัด
เป็น รวมทั้งเพื่อการป้องกันของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการกระทำผิดดังกล่าว
การประยุกต์ใช้ข้อ 4 กำหนดว่าใครจะถูกดำเนินคดีและสิ่งที่เป็นขอบเขตของอาชญากรรม
อาชญากรรมข้ามชาติควรจะเป็นและควรเกี่ยวข้องกับการจัด group10 ความผิดทางอาญา
อย่างไรก็ตามบทความ 4 ควรอ่านประกอบกับมาตรา 5 กำหนดขอบเขตของอาชญากรรม
5
1 รัฐภาคีแต่ละรัฐจะนำมาใช้มาตรการทางกฎหมายและอื่น ๆ เช่นอาจจะจำเป็นต้อง สร้างเป็นความผิดทางอาญาการดำเนินการที่กำหนดไว้ในมาตรา 3 ของพิธีสารนี้เมื่อความมุ่งมั่นที่
จงใจ
แม้ว่าบทความ 4 ครอบคลุมความผิดเพียงข้ามชาติที่มีในธรรมชาติและเกี่ยวข้องกับการจัด
กลุ่มความผิดทางอาญามาตรา 5 ไม่รวมถึงการเชื่อมโยงทั้งสอง ดังนั้นกฎหมายระดับชาติที่สามารถเอาผิดทางอาญากับการค้ามนุษย์
โดยไม่คำนึงว่าเงื่อนไขของ transnationality และมีส่วนร่วมขององค์กรอาชญากรรมที่จะพบ ในการตีความสหรัฐอเมริกาพิธีสารสามารถขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศและความร่วมมือจาก
รัฐภาคีอื่น ๆ ที่มีการอ้างอิงถึงพิธีสารเฉพาะในกรณีที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบข้ามชาติและ
การจัดกลุ่มอาชญากรรม อย่างไรก็ตาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ข้อที่ 4 ที่เกี่ยวข้องกับขอบเขตของการใช้และข้อ 5 กับ criminalisation .4 . โปรโตคอลที่ใช้บังคับ ยกเว้นที่ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในที่นี้ เพื่อการป้องกันการสอบสวนและดำเนินคดีในความผิดฐานที่จัดตั้งขึ้นตามข้อที่ 5 นี้โพรโทคอลที่ความผิดนั้นข้ามชาติในธรรมชาติ และเกี่ยวข้องกับการจัดกลุ่มอาชญากรตลอดจนการคุ้มครองเหยื่อ เช่น ความผิดการประยุกต์ใช้มาตรา 4 กำหนดที่สามารถดำเนินคดีได้ และอะไรคือขอบเขตของอาชญากรรมอาชญากรรมข้ามชาติ และควรจัดควรเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม group10 .อย่างไรก็ตาม ข้อที่ 4 ควรอ่านประกอบกับมาตรา 5 กำหนดขอบเขตของ criminalisation .แต่ละรัฐภาคีจะใช้ 5.1 เช่นการออกกฎหมายและมาตรการอื่นๆ ที่อาจเป็นสร้างเป็นความผิดทางอาญาความประพฤติที่กำหนดไว้ในข้อ 3 ของระเบียบนี้ เมื่อความมุ่งมั่นโดยเจตนาแม้ว่าบทความ 4 ครอบคลุมเฉพาะความผิดที่ข้ามชาติในธรรมชาติ และเกี่ยวข้องกับการจัดกลุ่มอาชญากรข้อที่ 5 ไม่รวมสองลิงก์ ดังนั้นกฎหมายแห่งชาติสามารถ criminalise ค้าไม่ว่าเงื่อนไขของ transnationality และการมีส่วนร่วมขององค์กรอาชญากรรมได้ ในการตีความตามระเบียบสามารถขอความช่วยเหลือและความร่วมมือจากนานาชาติรัฐภาคีอื่น ๆอ้างอิงโปรโตคอลเฉพาะในคดีที่เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของข้ามชาติและจัดผิด อย่างไรก็ตาม รัฐอาจยอมรับตัวเองในขอบเขตที่กว้างขึ้นของ criminalisationและยังรวมถึงอาชญากรรมที่กระทำโดยเดี่ยวผู้กระทำผิดภายในเขตของประเทศนั้น