You may not be able to see the wind

You may not be able to see the wind, but you can see the effects of wind on the things around you. You can feel it blowing across your face on a chilly day. You can see the leaves blowing down the street and see the sail on the sailboat puff up when the wind catches it. So why does the air move? The simple answer is that the sun heats Earth unevenly, causing different amounts of air pressure in different areas
The simple explanation does not really give you much of an idea about what causes the wind to blow. You have to look a little deeper Convection currents are loops of moving air or water that transfer energy from one location to another. When convection currents occur in the air, they cause wind
Local winds, like mountain breezes and valley breezes, stay in a fairly small area. Mountains absorb more heat during the day than the valleys do, so warm air rises off the mountainside. The cooler air from the valley rushes in to take its place. During the night, the mountains cool faster than the valleys, so the whole process happens in reverse A cool breeze blows down from the mountains
In areas that are near the ocean, sea breezes blow from the water toward the land during the day and from the land to the water at night. During the day, the land heats faster than the ocean. When the warm air rises over the land, cool air rushes in from the ocean to take its place. Once the water finally warms up, it holds onto the warmth longer than the land. When the warm air rises off of the ocean, the cooler air from the land rushes out to take its place over the ocean Global winds cover larger areas. Uneven heating of certain parts of the planet results in planetary winds. These are long-lasting wind patterns that circle the globe in predictable patterns. They curve to the right in the Northern Hemisphere and to the left in the Southern Hemisphere. Fast-moving currents called jet streams blow up to 149 miles per hour in the atmosphere surrounding Earth. All of these wind patterns influence the weather. Winds blow clouds from one area to another, and clouds carry precipitation Understanding the patterns of the wind can help you know what kind of weather expect

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณอาจไม่สามารถดูลม แต่คุณสามารถดูผลของลมในสิ่งรอบตัว คุณสามารถรู้สึกว่ามันพัดผ่านใบหน้าของคุณในวันหนาวเย็น คุณสามารถดูใบพัดลงถนนและแล่นเรือบนเรือพัฟขึ้นเมื่อลมจับมันดู ดังนั้น ทำไมไม่อากาศย้าย คำตอบง่าย ๆ คือ ว่า แดดอุ่นโลกคร้ง ก่อให้เกิดจำนวนที่แตกต่างของความดันอากาศในพื้นที่ต่าง ๆ คำอธิบายง่าย ๆ ไม่จริง ๆ ให้มากของความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ลมเป่า คุณต้องมอง พาลึกเล็กน้อยกระแสมีลูปของอากาศหรือน้ำเคลื่อนที่พลังงานที่ใช้ในการถ่ายโอนจากสถานที่หนึ่งไปยังอีก เมื่อกระแสการพาความร้อนเกิดขึ้นในอากาศ พวกเขาทำให้เกิดลม ลมท้องถิ่น เช่นลมภูเขาและลมหุบเขา ที่พักในพื้นที่ขนาดค่อนข้างเล็ก ภูเขาดูดซับความร้อนในระหว่างวันกว่าหุบเขา เพื่อให้อากาศอุ่นขึ้นปิดภูเขา อากาศเย็นจากหุบเขาวิ่งในจะใช้สถานที่ ในตอนกลางคืน ภูเขาเย็นเร็วกว่าหุบเขา ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นในการย้อนกลับที่สายลมเย็นพัดลงจากภูเขา ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล เป่าลมทะเล จากน้ำไปสู่ดินแดนในระหว่างวัน และ จากที่ดินไปในน้ำเวลากลางคืน ในระหว่างวัน แผ่นดินอุ่นเร็วกว่ามหาสมุทร เมื่ออากาศอุ่นขึ้นเหนือแผ่นดิน อากาศเย็นวิ่งในจากการใช้สถานที่ เมื่อน้ำอุ่นขึ้น สุดท้ายมันจบลงอบอุ่นมากกว่าที่ดิน เมื่ออากาศอุ่นขึ้นจากมหาสมุทร อากาศเย็นจากแผ่นดินวิ่งออกจากการเป็นลมมหาสมุทรทั่วโลกครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เครื่องทำความร้อนไม่สม่ำเสมอบางชิ้นส่วนของดาวเคราะห์ผลในดาวเคราะห์ลม รูปแบบลมนานที่วงโลกในรูปแบบคาดการณ์เหล่านี้ได้ พวกเขาโค้งไปทางขวาในซีกโลกเหนือ และไปทางซ้ายในซีกโลกใต้ กระแสน้ำที่เคลื่อนไหวเร็วเรียกว่าลำธารพัดถึง 149 ไมล์ต่อชั่วโมงในบรรยากาศรอบโลก ทั้งหมดของรูปแบบลมเหล่านี้มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศ ลมพัดเมฆจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีก และเมฆฝนพกที่เข้าใจรูปแบบของลมสามารถช่วยให้คุณทราบชนิดของสภาพอากาศที่คาดว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คุณอาจจะไม่สามารถที่จะเห็นลม แต่คุณสามารถดูผลกระทบของลมในสิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คุณสามารถรู้สึกว่ามันพัดผ่านใบหน้าของคุณในวันที่อากาศหนาวเย็น คุณสามารถดูใบเป่าลงบนถนนและดูเรือบนเรือใบพัฟขึ้นเมื่อลมจับมัน ดังนั้นทำไมอากาศย้าย? คำตอบง่ายๆคือว่าดวงอาทิตย์ร้อนโลกไม่สม่ำเสมอทำให้เกิดความแตกต่างของปริมาณความดันอากาศในพื้นที่ที่แตกต่างกัน
คำอธิบายง่าย ๆ ไม่ได้จริงๆให้คุณมากของความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดลมพัด คุณต้องมองลึกเพียงเล็กน้อยการหมุนเวียนกระแสลูปมีการเคลื่อนย้ายอากาศหรือน้ำที่ถ่ายโอนพลังงานจากสถานที่หนึ่งไปยังอีก เมื่อกระแสการพาความร้อนที่เกิดขึ้นในอากาศที่พวกเขาก่อให้เกิดลม
ลมท้องถิ่นเช่นสายลมภูเขาและลมหุบเขาอยู่ในพื้นที่ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก เทือกเขาดูดซับความร้อนมากขึ้นในช่วงวันกว่าหุบเขาทำอากาศร้อนจึงลุกขึ้นออกจากภูเขา อากาศเย็นจากหุบเขาวิ่งในการใช้สถานที่ ในช่วงกลางคืนภูเขาเย็นเร็วกว่าหุบเขาดังนั้นกระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นในกลับสายลมเย็นพัดลงมาจากภูเขา
ในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเลลมทะเลพัดมาจากน้ำที่มีต่อแผ่นดินในระหว่างวันและจาก ที่ดินให้น้ำในเวลากลางคืน ระหว่างวันที่แผ่นดินร้อนเร็วกว่ามหาสมุทร เมื่ออากาศร้อนเพิ่มขึ้นทั่วแผ่นดินอากาศเย็นวิ่งเข้ามาจากมหาสมุทรจะใช้สถานที่ของมัน เมื่อน้ำในที่สุดก็อุ่นขึ้นก็จบลงความอบอุ่นนานกว่าที่ดิน เมื่ออากาศร้อนเพิ่มขึ้นจากทะเลอากาศเย็นจากดินแดนรีบวิ่งออกไปใช้สถานที่ของตนเหนือมหาสมุทรลมทั่วโลกครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ความร้อนไม่สม่ำเสมอของบางส่วนของโลกส่งผลให้เกิดลมดาวเคราะห์ เหล่านี้เป็นรูปแบบลมยาวนานที่วงกลมโลกในรูปแบบที่สามารถคาดเดาได้ พวกเขาโค้งไปทางขวาในซีกโลกเหนือและไปทางซ้ายในซีกโลกใต้ กระแสการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเรียกว่าเจ็ทสตรีมระเบิดถึง 149 ไมล์ต่อชั่วโมงในบรรยากาศรอบโลก ทุกรูปแบบลมเหล่านี้มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศ ลมพัดเมฆจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกและเมฆดำเนินการเร่งรัดการทำความเข้าใจรูปแบบของลมที่สามารถช่วยให้คุณรู้ว่าสิ่งที่ชนิดของสภาพอากาศที่คาดหวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

คุณอาจจะไม่สามารถมองเห็นลมได้ แต่คุณสามารถดูผลของลมในสิ่งรอบ ๆตัวคุณ คุณสามารถรู้สึกถึงมันได้พัดผ่านใบหน้าของคุณในวันที่อากาศหนาวเย็น ที่คุณสามารถดูใบพัดลงถนนและเห็นใบเรือบนเรือพองขึ้นเมื่อลมจะจับมัน แล้วทำไมอากาศย้าย ? คำตอบง่าย ๆ คือ ดวงอาทิตย์ heats แผ่นดินซึ่งก่อให้เกิดปริมาณของความดันอากาศในพื้นที่ต่าง ๆคำอธิบายง่าย ๆไม่ได้จริงๆให้คุณมากของความคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เกิดลมเป่า คุณต้องมองลึกเพียงเล็กน้อยแบบกระแสจะลูปของการเคลื่อนที่ของอากาศหรือน้ำ การถ่ายเทพลังงานจากสถานที่หนึ่งไปยังอีก เมื่อกระแสการพาความร้อนเกิดขึ้นในอากาศ ทำให้เกิดลมลมท้องถิ่น เช่น ลมภูเขาและหุบเขาสายลมอยู่ในพื้นที่เล็กๆ ภูเขาดูดซับความร้อนมากขึ้นในระหว่างวันกว่าหุบเขาทำให้อากาศอุ่นขึ้นจากไหล่เขา อากาศเย็นจากหุบเขาวิ่งในการใช้สถานที่ของ ในตอนกลางคืน เย็นเร็วกว่า ภูเขา หุบเขา ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นในย้อนกลับ สายลมเย็นพัดลงมาจากภูเขาในพื้นที่ที่อยู่ใกล้ทะเล ลมทะเลพัดจากน้ำไปยังดินแดนในระหว่างวันและจากแผ่นดินสู่น้ำในตอนกลางคืน ในระหว่างวัน แผ่นดินร้อนเร็วกว่ามหาสมุทร เมื่ออากาศอุ่นขึ้น ทั่วแผ่นดิน เย็นอากาศ rushes ในจากมหาสมุทรจะใช้สถานที่ของ พอน้ำก็อุ่นขึ้น มันถือไปยังความอบอุ่นมากกว่าแผ่นดิน เมื่ออากาศอุ่นขึ้นจากมหาสมุทร อากาศเย็นจากพื้นดินวิ่งออกมาเพื่อใช้สถานที่ของตนเหนือมหาสมุทรทั่วโลกลมครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ความร้อนไม่สม่ำเสมอของบางส่วนของผลลัพธ์ในลมดาวเคราะห์ดาวเคราะห์ เหล่านี้จะยาวนานของกระแสลม ที่วงกลมโลกในรูปแบบที่คาดเดาได้ เขาโค้งไปทางขวาในซีกโลกเหนือและซ้ายในซีกโลกใต้ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว กระแสเรียกกระแส jet พัดถึง 149 ไมล์ต่อชั่วโมงในชั้นบรรยากาศรอบโลก ทั้งหมดของรูปแบบเหล่านี้มีอิทธิพลต่อลมสภาพอากาศ ลมได้พัดเมฆจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกและเมฆฝนมีความเข้าใจรูปแบบของลมสามารถช่วยให้คุณทราบชนิดของสภาพอากาศที่คาดว่า