The EU was established in 1958 by t

The EU was established in 1958 by the Treaty of Rome. The six original members,
France,West Germany, Italy, Holland, Belgium and Luxembourg were joined in 1972 by
the UK, Ireland and Denmark. Greece joined in 1981, followed by Spain and Portugal in
1986 and Austria, Finland and Sweden on 1 January 1995. The EU was further enlarged
on 1 May 2004 with the accession of the Czech Republic, Cyprus, Estonia, Hungary,
Latvia, Lithuania, Malta, Poland, Slovakia and Slovenia. These countries, along with the
former East Germany, currently constitute the EU’s 25 member states, a number which
is likely to grow further in the next few years. Two countries – Romania and Bulgaria –
are negotiating to join in 2007, while Turkey and Croatia have applied to join but are not
yet negotiating membership. The accession of these countries will undoubtedly bring
fundamental changes to the nature of Europe.
The primary aim of the Treaty of Rome was to create a common market in which
member states were encouraged to trade freely and to bring their economies closer
together, ultimately culminating in the creation of a single market within the community.
To bring this about, a protected free trade area or customs union was established
which involved the removal of tariff barriers between member states and the institution
of a common external tariff (CET) on goods from outside the community. Institutional
structures and community policies – most notably the Common Agricultural Policy
(CAP) – also contributed to this end and to the creation of a trading bloc of immense
proportions. Within this bloc, member states were expected to gain numerous advantages
including increased trade and investment, huge economies of scale and
improvements in productivity and cost reductions. To support the goal of increased
trade and cooperation between community members, a European monetary system was
established in 1979 in which a majority of member states undertook to fix their
exchange rates within agreed limits (see below).
A major step towards the creation of a single market – capable of competing effectively
with the USA and Japan – was taken in 1986 when the then 12 community
members signed the Single European Act. This Act established 31 December 1992 as the
target date for the creation of a Single European Market: an area (comprising the 12 EU
member states) without internal frontiers, in which the free movement of goods, services,
people and capital was to be ensured within the provisions contained in the treaty.
Amongst the measures for making the single market a reality were agreements on:
● the removal or reduction in obstacles to cross-border travel and trade (e.g. customs
checks);
● the harmonisation or approximation of technical and safety standards on a large
number of products;
● closer approximation of excise duties and other fiscal barriers (e.g.VAT);

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สหภาพยุโรปได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1958 โดยสนธิสัญญากรุงโรม สมาชิกทั้งหกคนเดิม
ฝรั่งเศสเยอรมนีตะวันตกอิตาลี, ฮอลแลนด์, เบลเยียมและลักเซมเบิร์กได้เข้าร่วมในปี 1972 โดย
สหราชอาณาจักรไอร์แลนด์และเดนมาร์ก กรีซเข้าร่วมในปี 1981 ตามด้วยสเปนและโปรตุเกสในปี 1986 และ
ออสเตรีย, ฟินแลนด์และสวีเดนเมื่อ 1 มกราคม 1995 สหภาพยุโรปกำลังขยายต่อไป
เมื่อ 1 พฤษภาคม 2004 กับการภาคยานุวัติของสาธารณรัฐเช็ก, ไซปรัส,เอสโตเนีย, ฮังการี,
ลัตเวียลิทัวเนีย, มอลตา, โปแลนด์, สโลวาเกียและสโลวีเนีย ประเทศเหล่านี้พร้อมกับ
อดีตเยอรมนีตะวันออกขณะนี้เป็นของสหภาพยุโรป 25 ประเทศสมาชิกจำนวน
ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปในไม่กี่ปีถัดไป ทั้งสองประเทศ - โรมาเนียและบัลแกเรีย -
มีการเจรจาต่อรองที่จะเข้าร่วมในปี 2007 ในขณะที่ไก่งวงและโครเอเชียได้นำมาประยุกต์ใช้ในการเข้าร่วม แต่ไม่
แต่การเจรจาต่อรองเป็นสมาชิก การเพิ่มขึ้นของประเทศเหล่านี้ไม่ต้องสงสัยจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน
ธรรมชาติของยุโรป.
จุดมุ่งหมายหลักของสนธิสัญญากรุงโรมคือการสร้างตลาดร่วมที่
สมาชิกฯ ได้รับการสนับสนุนการค้าเสรีและการที่จะนำเศรษฐกิจของพวกเขาใกล้ชิดกัน
ในท้ายที่สุดสูงสุดในการสร้างตลาดเดียวภายในชุมชน.
ที่จะนำเรื่องนี้,เขตการค้าเสรีหรือการป้องกันสหภาพศุลกากรที่ก่อตั้งขึ้น
ที่เกี่ยวข้องกับการกำจัดอุปสรรคภาษีระหว่างประเทศสมาชิกและ
สถาบันของภาษีภายนอกทั่วไป (CET) เมื่อสินค้าจากนอกชุมชน โครงสร้าง
สถาบันและนโยบายของชุมชนที่สะดุดตาที่สุด - นโยบายเกษตรร่วมกัน
(หมวก) - ส่วนร่วมด้วยเพื่อการนี​​้และการสร้างพันธมิตรการค้าของสัดส่วนอันยิ่งใหญ่
ภายในกลุ่มนี้สมาชิกฯ คาดว่าจะได้รับประโยชน์มากมาย
รวมทั้งการค้าที่เพิ่มขึ้นและการลงทุนเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของขนาดและการปรับปรุง
ในการผลิตและลดต้นทุน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของการค้า
ที่เพิ่มขึ้นและความร่วมมือระหว่างสมาชิกในชุมชน,ระบบการเงินยุโรป
ก่อตั้งขึ้นในปี 1979 ซึ่งในส่วนใหญ่ของสมาชิกฯ รับหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาอัตราแลกเปลี่ยน
ของพวกเขาภายในวงเงินที่ตกลงกัน (ดูด้านล่าง)
ขั้นตอนที่สำคัญต่อการสร้างตลาดเดียว -. ความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น - ถูกนำในปี 1986 แล้วเมื่อ 12 ชุมชนสมาชิก
ลงนามในการกระทำเดี่ยวยุโรปการกระทำนี้เป็นที่ยอมรับ 31 ​​ธันวาคม 1992 เป็นวันที่
เป้าหมายสำหรับการสร้างตลาดยุโรปเดียว: พื้นที่ (ที่ประกอบไปด้วย 12 eu
สมาชิกฯ ) โดยไม่มีพรมแดนภายในซึ่งในการเคลื่อนไหวของสินค้าบริการคน
และเป็นเมืองหลวง . ที่จะทำให้มั่นใจได้ภายในบทบัญญัติที่มีอยู่ในสนธิสัญญา
ท่ามกลางมาตรการสำหรับการทำตลาดเดียวในความเป็นจริงมีข้อตกลงเมื่อ:
●การกำจัดหรือลดอุปสรรคในการเดินทางข้ามพรมแดนและการค้า (เช่นการตรวจสอบศุลกากร
);
●สอดคล้องหรือใกล้เคียงกับมาตรฐานทางเทคนิคและความปลอดภัยกับจำนวน
ขนาดใหญ่ของผลิตภัณฑ์;
ประมาณ●ใกล้ชิดหน้าที่ภาษีสรรพสามิตและอื่น ๆ การคลัง อุปสรรค (egvat);

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

EU ก่อตั้งขึ้นใน 1958 โดยสนธิสัญญากรุงโรม สมาชิกเดิม 6,
เข้าร่วมกับฝรั่งเศส สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี อิตาลี ฮอลแลนด์ เบลเยียม และลักเซมเบิร์กในปี 1972 โดย
สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ และเดนมาร์ก กรีซเข้าร่วมในปี 1981 ตาม ด้วยประเทศสเปนและโปรตุเกสใน
1986 และออสเตรีย ฟินแลนด์ และสวีเดนในวันที่ 1 1995 มกราคม EU มีขยายเพิ่มเติม
วันที่ 1 2547 พฤษภาคมมีทะเบียนของสาธารณรัฐเช็ก ไซปรัส ประเทศเอสโตเนีย ประเทศฮังการี,
ลัตเวีย ลิทัวเนีย มอลต้า โปแลนด์ สโลวะเกีย และสโลวีเนีย ประเทศเหล่านี้ พร้อมการ
อดีตเยอรมนีตะวันออก ปัจจุบันเป็นของ EU 25 รัฐสมาชิก หมายเลขที่
น่าจะเติบโตต่อไปในไม่กี่ปีถัดไป ทั้งสองประเทศ –โรมาเนียและบัลแกเรีย –
เจรจาการเข้าร่วมในปี 2007 ในขณะที่ตุรกีและโครเอเชียใช้เข้า แต่ไม่
ยัง เจรจาเป็นสมาชิก ภาคยานุวัติของประเทศเหล่านี้จะทำให้ไม่ต้องสงสัย
พื้นฐานเปลี่ยนธรรมชาติของยุโรป
จุดมุ่งหมายหลักของสนธิสัญญากรุงโรมคือการ สร้างตลาดร่วมที่
รัฐสมาชิกมีกำลังใจ เพื่อค้าได้อย่างอิสระ และนำเศรษฐกิจของพวกเขาใกล้ชิด
กัน จบที่สุด ในการสร้างตลาดเดียวในชุมชน
ก่อนี้, เขตการค้าเสรีได้รับการป้องกันหรือสหภาพศุลกากรก่อ
ซึ่งเกี่ยวข้องกับการกำจัดอุปสรรคภาษีระหว่างรัฐสมาชิกและสถาบัน
ของแบบทั่วไปภายนอกภาษี (cet โดย) สินค้าจากภายนอกชุมชน สถาบัน
โครงสร้างและนโยบายชุมชน – ส่วนใหญ่ทั่วไปเกษตรนโยบาย
(CAP) – ส่วนนี้สิ้นสุด และการสร้างของค่ายค้าของเวิ้งว้าง
สัดส่วน ภายในค่ายนี้ รัฐสมาชิกคาดว่าจะได้รับประโยชน์มากมาย
รวมถึงเพิ่มการค้าและการลงทุน เศรษฐกิจขนาดใหญ่ของขนาด และ
ปรับปรุงในการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเพิ่ม
ค้าและความร่วมมือระหว่างสมาชิกในชุมชน ระบบการเงินยุโรป
ก่อตั้งในปีค.ศ. 1979 ซึ่งส่วนใหญ่ของรัฐสมาชิก undertook แก้ไขของ
อัตราแลกเปลี่ยนภายในวงเงินที่ตกลง (ดูด้านล่าง) .
ขั้นตอนสำคัญต่อการสร้างตลาดเดียว – ความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กับสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น – ถูกนำในปี 1986 เมื่อชุมชนแล้ว 12
สมาชิกลงนามบัญญัติยุโรปเดียว ตามพระราชบัญญัติก่อตั้ง 31 1992 ธันวาคมเป็นการ
วันเป้าหมายการสร้างยุโรปตลาดเดียว: พื้นที่ (ประกอบด้วย 12 EU
รัฐสมาชิก) โดยไม่มีขอบเขตภายใน ในการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ,
คนและทุนจะมั่นใจได้ภายในบทบัญญัติที่ระบุในสนธิสัญญา
ท่ามกลางมาตรการสำหรับการทำตลาดเดียวเป็นจริงมีข้อตกลงใน:
●กำจัดหรือลดอุปสรรคการข้ามแดนเดินทาง และค้า (เช่นศุลกากร
เช็ค);
● harmonisation หรือมาตรฐานทางด้านเทคนิคและความปลอดภัยในขนาดใหญ่ประมาณ
จำนวนผลิตภัณฑ์;
●ใกล้ชิดประมาณหน้าที่สรรพสามิตและอุปสรรคทางการเงินอื่น ๆ (e.g.VAT);

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สหภาพ ยุโรปที่ได้ถูกสร้างขึ้นในปี 1958 โดยสนธิสัญญาของ Rome หกคนเดิมที่
ประเทศฝรั่งเศสเยอรมนี,อิตาลี,ฮอลแลนด์, West เบลเยียมลักเซมเบิร์กและได้เข้าร่วมในปี 1972 โดยอังกฤษไอร์แลนด์เหนือ
และเดนมาร์ก. กรีซเข้าร่วมในปี 1981 ตามมาด้วยประเทศสเปนและโปรตุเกสใน
1986 และออสเตรีย,ฟินแลนด์และสวีเดนในวันที่ 1 มกราคม 1995 สหภาพ ยุโรปที่เป็น
ซึ่งจะช่วยขยายใหญ่ขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม 2004 พร้อมด้วย ภาค ยานุวัติของสาธารณรัฐเช็กที่ไซปรัสเอสโตเนียฮังการี
,ลัตเวีย,ลิทัวเนีย,มอลตาโปแลนด์สโลวาเกีย,สโลวีเนียและ. ประเทศเหล่านี้พร้อมด้วยอดีตเยอรมันตะวันออกที่
อยู่ในขณะนี้เป็นของ สหภาพ ยุโรป 25 ประเทศสมาชิกจำนวนหนึ่งซึ่ง
มีโอกาสที่จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ทั้งสองประเทศ - โรมาเนียและบัลแกเรีย -
อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าร่วมในปี 2007 ในขณะที่ประเทศตุรกีและโครเอเชียได้นำไปใช้ในการเข้าร่วมแต่ไม่ได้ตอบแทน
แต่การเจรจาต่อรองการเป็นสมาชิก. ที่การ ภาค ยานุวัติของประเทศเหล่านี้จะไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุใดจึงเป็นนำ
ซึ่งจะช่วยขั้นพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงที่ธรรมชาติของยุโรป.
หลักเป้าหมายของสนธิสัญญาของ Rome เป็นการสร้างตลาดร่วมที่
ซึ่งจะช่วยรัฐสมาชิกเป็นการส่งเสริมให้การค้าได้อย่างอิสระและจะนำของเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น
ซึ่งจะช่วยกัน,การจุดสูงสุดในการสร้างตลาดเดียวของที่อยู่ในชุมชน.
เพื่อนำนี้เกี่ยวกับ,สหภาพ ศุลกากรหรือเขตการค้าเสรีแบบไม่เสียค่าบริการที่ได้รับการป้องกันได้ถูกสร้างขึ้น
ซึ่งจะช่วยที่เกี่ยวข้องกับการขจัดอุปสรรคทาง ภาษี ศุลกากรระหว่างประเทศสมาชิกและสถาบันที่
ของทั่วไป ภายนอก ภาษี ศุลกากร( CET )ในสินค้าจากทางด้านนอกชุมชน สถาบัน
นโยบายชุมชนและโครงสร้าง - มากที่สุดคือสินค้าเกษตรนโยบาย
ตามมาตรฐานทั่วไป(ฝาครอบ) - นอกจากนั้นยังมีส่วนร่วมในการนี้และเพื่อการสร้างกลุ่มการค้าของขนาดใหญ่
สัดส่วน ภายใน กลุ่มนี้บางรัฐสมาชิกว่าจะต้องได้รับประโยชน์จำนวนมากรวมถึงการค้า
ซึ่งจะช่วยเพิ่มการลงทุนและเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของตะกรันและ
ซึ่งจะช่วยในการลดต้นทุนการปรับปรุงและเพิ่ม ประสิทธิภาพ การทำงาน ในการสนับสนุนเป้าหมายของเพิ่มขึ้น
การค้าและความร่วมมือระหว่างสมาชิกในชุมชนระบบการเงินที่ยุโรปเป็น
ซึ่งจะช่วยสร้างขึ้นในปี 1979 ในที่ที่คนส่วนใหญ่ของประเทศสมาชิกได้ทำในการแก้ไขปัญหาของเขา
อัตราแลกเปลี่ยน ภายใน ได้ตกลงกันไว้จำกัด(ดูด้านล่าง)..
ที่สำคัญไปยังที่จะสร้างตลาดเดียวซึ่งมีความสามารถของคู่แข่ง
ซึ่งจะช่วยได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ด้วยที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น - ก็ถูกยึดไปในปี 1986 เมื่อได้แล้ว 12 ชุมชน
ซึ่งจะช่วยสมาชิกได้ลงนามเดียวในยุโรปการกระทำ.พระราชบัญญัตินี้สร้างขึ้น 31 ธันวาคม 1992 เป็นวันที่กลุ่มเป้าหมายที่
ซึ่งจะช่วยในการสร้างตลาดยุโรปที่เดียว:พื้นที่(ซึ่งประกอบด้วย 12 สหภาพ ยุโรป
ซึ่งจะช่วยรัฐสมาชิก)โดยไม่ต้อง ภายใน พรมแดน,ในที่ที่ไม่เสียค่าบริการการเคลื่อนไหวของสินค้า,การบริการ,
ผู้คนและเงินทุนก็จะสร้างความมั่นใจให้อยู่ในบทบัญญัติที่อยู่ในสนธิสัญญา.
อยู่ในมาตรการในการทำการตลาดเดียวที่ความเป็นจริงเป็นข้อตกลงใน:
●การลดหรือการถอดอุปสรรคในการค้าและการเดินทางข้ามพรมแดน(เช่นด่านศุลกากร
เช็ค)
●อ ภิรมย์ หรือ harmonisation และมาตรฐานความ ปลอดภัย ทางด้านเทคนิคในขนาดใหญ่
หมายเลขของ ผลิตภัณฑ์
●ประมาณใกล้ของอุปสรรคด้านงบประมาณและหน้าที่สรรพสามิต(เช่น VAT )