Chromosome testsNormal human cells

Chromosome tests
Normal human cells have 23 pairs of chromosomes (strands of DNA), each of which is a
certain size and looks a certain way under the microscope. But in some types of
leukemia, the cells have changes in their chromosomes.
For instance, sometimes 2 chromosomes swap some of their DNA, so that part of one
chromosome becomes attached to part of a different chromosome. This change, called a
translocation, can usually be seen under a microscope. Other types of chromosome
changes are also possible. Recognizing these changes can help identify certain types of
acute leukemias and can help determine prognosis (outlook).
Some types of leukemia have cells with an abnormal number of chromosomes (instead of
the usual 46) – they may be missing some chromosomes or have extra copies of some.
This can also affect a patient’s outlook. For example, in ALL, chemotherapy is more
likely to work if the cells have more than 50 chromosomes and is less likely to work if
the cells have fewer than 46 chromosomes.
Finding these types of chromosome changes with lab tests can be very helpful in
predicting a person’s outlook and response to treatment.
Cytogenetics: For this test, leukemia cells are grown in a lab dish and the chromosomes
are looked at under a microscope to detect any changes, including missing or extra
chromosomes. (Counting the number of chromosomes by cytogenetics provides similar
information to measuring the DNA index by flow cytometry, as described above.)
Cytogenetic testing usually takes about 2 to 3 weeks because the leukemia cells must
grow in lab dishes for a couple of weeks before their chromosomes are ready to be looked
at under the microscope.
Not all chromosome changes can be seen under a microscope. Other lab tests can often
help detect these changes.
Fluorescent in situ hybridization (FISH): This is another way to look at chromosomes
and genes. It uses pieces of DNA that only attach to specific parts of particular
chromosomes. The DNA is linked to fluorescent dyes that can be seen with a special
microscope. FISH can find most chromosome changes (such as translocations) that are
visible under a microscope in standard cytogenetic tests, as well as some changes too
small to be seen with usual cytogenetic testing.
FISH can be used to look for specific changes in chromosomes. It can be used on blood
or bone marrow samples. It is very accurate and can usually provide results within a
couple of days.
Polymerase chain reaction (PCR): This is a very sensitive test that can also find some
chromosome changes too small to be seen under a microscope, even if there are very few
leukemia cells in a sample. This test can be very useful in looking for small numbers of
leukemia cells (minimal residual disease, or MRD) during and after treatment that might
not be detected with other tests.
Other blood tests
Children with leukemia will have tests to measure certain chemicals in the blood to check
how well their body systems are working.
These tests aren’t used to diagnose leukemia, but in children already known to have it,
they can help find damage to the liver, kidneys, or other organs caused by the spread of
leukemia cells or by certain chemotherapy drugs. Tests are also often done to measure
blood levels of important minerals, as well as to make sure the blood is clotting properly.
Children might also be tested for blood infections. It’s important to diagnose and treat
infections in children with leukemia quickly because their weakened immune systems
can allow infections to spread.
Imaging tests
Imaging tests use x-rays, sound waves, magnetic fields, or radioactive particles to make
pictures of the inside of the body. Leukemia doesn’t usually form tumors, so imaging
tests aren’t as useful as they are for other types of cancer. But if leukemia is suspected or
has been diagnosed, your child’s doctor may order some of these tests to get a better idea
of the extent of the disease or to look for other problems, such as infections. (For more
details on imaging tests, see Imaging (Radiology) Tests.)
Chest x-rays
A chest x-ray can help detect an enlarged thymus or lymph nodes in the chest. If the test
result is abnormal, a computed tomography (CT) scan of the chest may be done to get a
more detailed view.
Chest x-rays can also help look for pneumonia if your child might have a lung infection.
Computed tomography (CT) scan
The CT scan uses x-rays to make detailed, cross-sectional images of the body. Unlike a
regular x-ray, CT scans can show the detail in soft tissues such as internal organs.
This test isn’t usually needed to diagnose leukemia, but it might be done if the doctor
suspects the leukemia is growing in lymph nodes in the chest or in organs like the spleen
or liver. It is also sometimes used to look at the brain and spinal cord, but an MRI scan
may also be used for this.
Before the scan, your child may be asked to drink a contrast solution and/or get an
intravenous (IV) injection of a contrast dye that helps

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การทดสอบโครโมโซม
เซลล์ปกติมี 23 คู่ของโครโมโซม (เส้นของ DNA) ของแต่ละคนซึ่งเป็น
ขนาดบางและดูวิธีการบางอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์ แต่ในบางชนิดของ
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเซลล์มีการเปลี่ยนแปลงในโครโมโซมของพวกเขา.
เช่นบางครั้ง 2 โครโมโซมสลับบางส่วนของดีเอ็นเอของพวกเขาเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของหนึ่งที่
โครโมโซมจะกลายเป็นที่แนบมากับส่วนหนึ่งของโครโมโซมที่แตกต่างกัน การเปลี่ยนแปลงนี้เรียกว่า
การโยกย้าย, สามารถจะมองเห็นได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ประเภทอื่น ๆ ของโครโมโซม
เปลี่ยนแปลงยังเป็นไปได้ ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สามารถช่วยระบุบางประเภท
. leukemias เฉียบพลันและสามารถช่วยตรวจสอบการพยากรณ์โรค (Outlook)
บางชนิดของโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวมีเซลล์ที่มีจำนวนที่ผิดปกติของโครโมโซม (แทน
ปกติ 46) - พวกเขาอาจจะหายไปโครโมโซมบางส่วนหรือมีสำเนาพิเศษ ของบางส่วน.
นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของผู้ป่วย ยกตัวอย่างเช่นในทุกเคมีบำบัดเป็นอีก
แนวโน้มที่จะทำงานถ้าเซลล์มีมากกว่า 50 โครโมโซมและมีโอกาสน้อยที่จะทำงานถ้า
เซลล์มีน้อยกว่า 46 โครโมโซม.
หาเหล่านี้ประเภทของการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมกับการทดสอบในห้องปฏิบัติการจะมีประโยชน์มากใน
การทำนาย แนวโน้มของบุคคลและการตอบสนองต่อการรักษา.
Cytogenetics: สำหรับการทดสอบนี้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ปลูกในจานทดลองและโครโมโซม
จะมองภายใต้กล้องจุลทรรศน์เพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงใด ๆ รวมทั้งที่หายไปหรือเสริม
โครโมโซม (การนับจำนวนของโครโมโซมจากเซลล์พันธุศาสตร์ให้คล้ายกัน
ข้อมูลจากการวัดดัชนีดีเอ็นเอโดยการไหลภูมิคุ้มกันตามที่อธิบายไว้ข้างต้น.)
การทดสอบทาง cytogenetic จะใช้เวลาประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์เพราะเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวจะต้อง
เติบโตในอาหารห้องปฏิบัติการสำหรับคู่ของสัปดาห์ก่อนของพวกเขา โครโมโซมมีความพร้อมที่จะมอง
ที่ภายใต้กล้องจุลทรรศน์.
ไม่ทั้งหมดการเปลี่ยนแปลงโครโมโซมสามารถมองเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ห้องปฏิบัติการทดสอบอื่น ๆ มักจะสามารถ
ช่วยตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้.
เรืองแสงในแหล่งกำเนิดพันธุ์ (FISH): นี่คือวิธีการที่จะมองไปที่โครโมโซมอีก
และยีน โดยจะใช้ชิ้นส่วนของดีเอ็นเอที่มีเพียงแนบไปเฉพาะส่วนของเฉพาะ
โครโมโซม ดีเอ็นเอเชื่อมโยงกับสีย้อมเรืองแสงที่สามารถมองเห็นได้ด้วยพิเศษ
กล้องจุลทรรศน์ ปลาสามารถพบการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดโครโมโซม (เช่น translocations) ที่มีการ
มองเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์ในการทดสอบทาง cytogenetic มาตรฐานเช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างมากเกินไป
ขนาดเล็กที่จะมองเห็นได้ด้วยการทดสอบทาง cytogenetic ปกติ.
ปลาสามารถใช้ในการมองหาการเปลี่ยนแปลงเฉพาะในโครโมโซม มันสามารถใช้เลือด
หรือกระดูกตัวอย่างไขกระดูก มันมีความถูกต้องมากและมักจะสามารถให้ผลภายใน
สองสามวัน.
วิธี Polymerase chain reaction (PCR): นี่คือการทดสอบที่สำคัญมากที่ยังสามารถหาบางอย่างที่
เปลี่ยนแปลงโครโมโซมเล็กเกินไปที่จะมองเห็นได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์แม้ว่ามีน้อยมาก
เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวในตัวอย่าง การทดสอบนี้จะมีประโยชน์มากในการมองหาตัวเลขเล็ก ๆ ของ
เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว (โรคที่เหลือน้อยที่สุดหรือ MRD) ในระหว่างและหลังการรักษาที่อาจ
ไม่ได้รับการตรวจพบว่ามีการทดสอบอื่น ๆ .
การทดสอบเลือดอื่น ๆ
เด็กที่มีโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวจะมีการทดสอบการวัดสารเคมีบางอย่างใน เลือดเพื่อตรวจสอบ
วิธีการที่ดีระบบร่างกายของพวกเขากำลังทำงาน.
การทดสอบเหล่านี้จะไม่ได้ใช้ในการวินิจฉัยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่ในเด็กที่รู้จักกันอยู่แล้วที่จะมีมัน,
พวกเขาสามารถช่วยค้นหาความเสียหายต่อตับไตหรืออวัยวะอื่น ๆ ที่เกิดจากการแพร่กระจายของ
โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เซลล์หรือยาเคมีบำบัดบางอย่าง การทดสอบก็มักจะทำเพื่อวัด
ระดับเลือดของแร่ธาตุที่สำคัญเช่นเดียวกับเพื่อให้แน่ใจว่าเลือดจะแข็งตัวได้อย่างถูกต้อง.
เด็กยังอาจได้รับการทดสอบสำหรับการติดเชื้อในเลือด มันเป็นสิ่งสำคัญในการวินิจฉัยและการรักษา
โรคติดเชื้อในเด็กที่มีโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันลดลงของพวกเขา
สามารถช่วยให้การติดเชื้อจะแพร่กระจาย.
การทดสอบการถ่ายภาพ
การทดสอบการถ่ายภาพใช้รังสีเอกซ์คลื่นเสียงสนามแม่เหล็กหรืออนุภาคกัมมันตรังสีที่จะทำให้
ภาพของภายในของร่างกาย . โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวไม่ได้แบบปกติเนื้องอกเพื่อให้การถ่ายภาพ
การทดสอบจะไม่เป็นประโยชน์ที่พวกเขาเป็นมะเร็งชนิดอื่น ๆ แต่ถ้าโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเป็นผู้ต้องสงสัยหรือ
ได้รับการวินิจฉัยแพทย์ของบุตรของท่านอาจมีคำสั่งบางส่วนของการทดสอบเหล่านี้จะได้รับความคิดที่ดี
ของขอบเขตของการเกิดโรคหรือที่จะมองหาปัญหาอื่น ๆ เช่นการติดเชื้อ (สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบการถ่ายภาพให้ดูที่การถ่ายภาพ (รังสีวิทยา) การทดสอบ.)
รอบอก x-ray
หน้าอก X-ray สามารถช่วยตรวจสอบขยายไธมัสหรือต่อมน้ำเหลืองในหน้าอก หากการทดสอบ
ผลเป็นความผิดปกติของการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) ของหน้าอกอาจจะทำเพื่อให้ได้
มุมมองรายละเอียดเพิ่มเติม.
รอบอก x-ray ยังสามารถช่วยให้คุณมองหาปอดบวมถ้าลูกของคุณอาจมีการติดเชื้อปอด.
ตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT ) สแกน
สแกน CT ใช้รังสีเอกซ์เพื่อให้รายละเอียดของภาพตัดขวางของร่างกาย ซึ่งแตกต่างจาก
ปกติ X-ray, CT สแกนสามารถแสดงรายละเอียดในเนื้อเยื่ออ่อนเช่นอวัยวะภายใน.
การทดสอบนี้จะมักจะไม่จำเป็นต้องใช้ในการวินิจฉัยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว แต่มันอาจจะทำถ้าแพทย์
สงสัยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวที่มีการเติบโตในต่อมน้ำเหลืองใน หน้าอกหรือในอวัยวะเช่นม้าม
ตับ นอกจากนี้ยังใช้ในบางครั้งจะมองไปที่สมองและไขสันหลัง แต่ MRI สแกน
อาจจะใช้สำหรับการนี้.
ก่อนที่จะสแกนบุตรหลานของคุณอาจถูกขอให้ดื่มแก้ปัญหาความคมชัดและ / หรือได้รับการ
ฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ (IV) การฉีด สีความคมชัดที่จะช่วยให้