1 While some researchers search for

1 While some researchers search for the roots of obesity in our genes, others investigate infections. Scientists have known for two decades that, surprisingly,certain viruses can cause birds or mammals to become fat. Now scientists think they have tracked down a bug that can cause obesity in people.

1 While some researchers search for the roots of obesity in our genes, others investigate infections. Scientists have known for two decades that, surprisingly,certain viruses can cause birds or mammals to become fat. Now scientists think they have tracked down a bug that can cause obesity in people.
2 The alleged culprit is human adenovirus-36, or AD-36. A study published in 2002 showed that AD-36 injected into monkeys causes dramatic weight gain. In some animals, the injected virus caused body fat to triple. It‘s unethical to inoculate people with viruses, of course. But in an analysis of 1,000 people, the scientists found that those with AD-36 antibodies a sign that they have been infected are significantly more likely to be overweight.
3 How could a virus make you fat? When fat cells are exposed to AD-36,
they begin to multiply. We are not saying all obesity is caused by a virus.
Genes, metabolism, and habits all play a role, the scientists acknowledge. But at least one other possibility appears to be infection.
4 As yet, no one knows how widespread AD-36 may be, or how big a role it might play in the current obesity epidemic. If the scientists‘ suspicions prove correct, the next step would be to develop a vaccine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1 ขณะที่นักวิจัยบางหารากของโรคอ้วนในยีนของเรา ผู้ตรวจสอบการติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้ทราบสำหรับสองทศวรรษที่ จู่ ๆ ไวรัสบางอย่างอาจทำให้นกหรือเลี้ยงลูกด้วยนมจะกลายเป็น ไขมัน ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่า พวกเขาได้ติดตามลงเป็นปัญหาที่สามารถทำให้เกิดโรคอ้วนในคน1 ขณะที่นักวิจัยบางหารากของโรคอ้วนในยีนของเรา ผู้ตรวจสอบการติดเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้ทราบสำหรับสองทศวรรษที่ จู่ ๆ ไวรัสบางอย่างอาจทำให้นกหรือเลี้ยงลูกด้วยนมจะกลายเป็น ไขมัน ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่า พวกเขาได้ติดตามลงเป็นปัญหาที่สามารถทำให้เกิดโรคอ้วนในคน2 ถูกกล่าวหาผู้ร้ายเป็นมนุษย์ adenovirus-36 หรือ AD-36 การศึกษาเผยแพร่ในปี 2545 พบว่า ฉีดเข้าไปในลิง 36 AD ทำให้น้ำหนักอย่างมาก ในสัตว์บาง ฉีดไวรัสเกิดจากไขมันในร่างกายถึงสาม ศีลธรรมปลูกฝีกับไวรัส ของหลักสูตรได้ แต่ในการวิเคราะห์ของ 1000 คน นักวิทยาศาสตร์ที่พบว่า ผู้ที่ มีแอนตี้ AD-36 เครื่องว่า จะมีการติดเชื้อมักมากเป็นภาวะ3 วิธีจะไวรัสทำให้คุณอ้วน เมื่อมีสัมผัสกับ AD-36 เซลล์ไขมันพวกเขาเริ่มต้นคูณ เราไม่ได้พูดทั้งหมดโรคอ้วนเกิดจากไวรัสยีน เผาผลาญ และนิสัยเล่นบทบาท นักวิทยาศาสตร์ที่ยอมรับ แต่เป็นไปได้อื่น ๆ ที่ปรากฏจะ ติดเชื้อ4 เป็นยัง ไม่มีใครรู้ วิธีแพร่ AD-36 อาจจะ หรือวิธีการใหญ่บทบาทมันจะเล่นในปัจจุบันโรคอ้วนระบาดได้ ถ้าสงสัยความนักวิทยาศาสตร์พิสูจน์ถูกต้อง ขั้นตอนถัดไปจะมีการ พัฒนาวัคซีนเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 ขณะที่นักวิจัยบางค้นหารากของโรคอ้วนในยีนของเรา คนอื่นสืบเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้รู้จักสำหรับสองทศวรรษที่ผ่านมานั้น จู่ ๆบางไวรัสสามารถก่อให้เกิด นก หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะกลายเป็นไขมัน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกเขามีการติดตามข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดโรคอ้วนในคน

1 ขณะที่นักวิจัยบางค้นหารากของโรคอ้วนในยีนของเราคนอื่นสืบเชื้อ นักวิทยาศาสตร์ได้รู้จักสำหรับสองทศวรรษที่ผ่านมานั้น จู่ ๆบางไวรัสสามารถก่อให้เกิด นก หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะกลายเป็นไขมัน ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกเขามีการติดตามข้อผิดพลาดที่อาจทำให้เกิดโรคอ้วนในคน .
2 ผู้ต้องหาทำผิด adenovirus-36 , มนุษย์หรือ ad-36 . การศึกษาที่เผยแพร่ในปี 2002 พบว่า ad-36 ฉีดเข้าไปในละครลิงทำให้น้ำหนักเพิ่ม ในสัตว์บางชนิดฉีดไวรัสที่เกิดจากไขมันในร่างกายสาม มันผิดจรรยาบรรณให้แก่ผู้ที่มีไวรัส แน่นอน แต่ในการวิเคราะห์ของ 1 , 000 คน นักวิทยาศาสตร์พบว่า ผู้ที่มี ad-36 แอนติบอดีเป็นสัญญาณว่าพวกเขาได้รับการติดเชื้อเป็นอย่างมีนัยสำคัญมีแนวโน้มที่จะอ้วน
3 ทำไมไวรัสให้คุณไขมัน ? เมื่อเซลล์ไขมันถูก ad-36
, พวกเขาเริ่มที่จะคูณเราไม่พูดเรื่องโรคอ้วนเกิดจากไวรัส .
ยีน เมแทบอลิซึม และนิสัย ทั้งหมด เล่น บทบาท นักวิทยาศาสตร์ยอมรับ . แต่อย่างน้อยก็มีความเป็นไปได้ในการติดเชื้อ .
4 ยังไม่มีใครรู้ว่าวิธีการที่แพร่หลาย ad-36 อาจ หรือใหญ่แค่ไหนก็อาจจะเล่นในบทบาทโรคระบาดโรคอ้วนในปัจจุบัน ถ้านักวิทยาศาสตร์สงสัยพิสูจน์ที่ถูกต้อง ขั้นตอนถัดไปจะพัฒนาวัคซีน