Supply-side economics and the Laffe

Supply-side economics and the Laffer Curve
Advocated by neoliberal economists like Arthur Laffer and
embraced by President Reagan, ‘supply-side economics’ is based
upon the assumption that long-term economic growth depends
on ‘freeing up’ the amount of capital available for private
investment. A crucial theoretical component of supply-side
economics, the ‘Laffer Curve’ is a graphical illustration of the
thesis that increases in taxation rates will not always lead to an
increase in taxation revenue. As tax rates approach 100%, the
curve suggests, revenue will drop as citizens will have no
incentive to work harder. Supply-siders show a single-minded
commitment to reducing taxes on private income. Relying on the
Laffer Curve, they argue that new economic growth produced by
added investment will automatically generate sufficiently large
tax revenue surpluses. These, in turn, could be used by
governments to pay down their debts and ultimately balance
their budgets. Also known as ‘trickle-down economics’, supplyside
economics appealed to Reagan and Republican Party
legislators in the US Congress who, eager to cut taxes, were
nonetheless careful to preserve politically popular social
programmes like Social Security and Medicare

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Supply-side economics และโค้ง Lafferสนับสนุน โดยนักเศรษฐศาสตร์ neoliberal เช่นอาร์เธอร์ Laffer และอ้อมกอดของประธานาธิบดีเรแกน 'supply-side economics' อยู่กับสมมติฐานว่า เศรษฐกิจเติบโตขึ้นบน 'พ้น' เงินทุนสำหรับส่วนตัวการลงทุน ส่วนประกอบทางทฤษฎีสำคัญของ supply-sideเศรษฐศาสตร์ 'โค้ง Laffer' มีภาพประกอบเป็นภาพของการวิทยานิพนธ์ที่เพิ่มขึ้นอัตราภาษีจะไม่นำไปสู่การเพิ่มรายได้จากภาษีอากร เป็นภาษี อัตราเข้า 100% การแนะนำโค้ง รายได้จะลดลง ตามที่ประชาชนจะไม่มีแรงจูงใจในการทำงานหนัก Siders อุปทานแสดงเป็นหลักความมุ่งมั่นในการลดภาษีรายได้ส่วนตัว พึ่งพาการเส้นโค้ง Laffer พวกเขาทะเลาะกันที่เติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ที่ผลิตโดยลงทุนเพิ่มโดยอัตโนมัติจะสร้างขนาดใหญ่ภาษีรายได้เกินดุล เหล่านี้ จะ อาจจะใช้รัฐบาลจ่ายหนี้ลง และสมดุลในที่สุดงบประมาณของพวกเขา เรียกว่า 'เศรษฐศาสตร์หยดลง' supplysideเศรษฐศาสตร์อุทธรณ์เรแกนและพรรคสมาชิกสภานิติบัญญัติในรัฐสภาของเราที่ อยากตัดภาษีกระนั้นความระมัดระวังเพื่อรักษาความนิยมทางการเมืองสังคมโครงการประกันสังคมและเมดิแคร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เศรษฐศาสตร์ด้านอุปทานและ Curve Laffer
สนับสนุนโดยนักเศรษฐศาสตร์เสรีนิยมใหม่เช่นอาร์เธอร์ Laffer และ
กอดโดยประธานาธิบดีเรแกน 'เศรษฐศาสตร์ด้านอุปทาน' มีพื้นฐานอยู่
บนสมมติฐานที่ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวขึ้นอยู่กับ
ที่ 'พ้น' จำนวนเงินของทุนที่มีอยู่สำหรับ เอกชน
ลงทุน องค์ประกอบที่สำคัญของทฤษฎีด้านอุปทาน
เศรษฐศาสตร์ 'Laffer Curve' เป็นภาพกราฟิกของ
วิทยานิพนธ์ที่เพิ่มขึ้นในอัตราภาษีจะไม่นำไปสู่การ
เพิ่มขึ้นของรายได้การจัดเก็บภาษี ในฐานะที่เป็นอัตราภาษีเข้าใกล้ 100% ที่
โค้งแสดงให้เห็นรายได้จะลดลงในฐานะประชาชนจะไม่มี
แรงจูงใจในการทำงานหนัก อุปทาน Siders แสดงใจเดียว
มุ่งมั่นที่จะลดภาษีรายได้ส่วนตัว
อาศัย Curve Laffer พวกเขายืนยันว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ที่ผลิตโดย
การลงทุนเพิ่มจะสร้างขนาดใหญ่พอโดยอัตโนมัติ
ทำบุญรายได้จากภาษี เหล่านี้ในที่สุดก็สามารถนำมาใช้โดย
รัฐบาลจ่ายลงหนี้ของพวกเขาและในที่สุดความสมดุลของ
งบประมาณของพวกเขา หรือที่เรียกว่า 'หยดลงเศรษฐศาสตร์' SupplySide
เศรษฐศาสตร์หันไปเรแกนและพรรครีพับลิ
สมาชิกสภานิติบัญญัติในสภาคองเกรสของสหรัฐฯที่กระตือรือร้นที่จะลดภาษีเป็น
กระนั้นระมัดระวังในการรักษาทางสังคมที่นิยมทางการเมือง
โปรแกรมเช่นประกันสังคมและ Medicare สามารถนำมาใช้โดย รัฐบาลจ่ายลงหนี้ของพวกเขาและในที่สุดความสมดุลของงบประมาณของพวกเขา หรือที่เรียกว่า 'หยดลงเศรษฐศาสตร์' SupplySide เศรษฐศาสตร์หันไปเรแกนและพรรครีพับลิสมาชิกสภานิติบัญญัติในสภาคองเกรสของสหรัฐฯที่กระตือรือร้นที่จะลดภาษีเป็นกระนั้นระมัดระวังในการรักษาทางสังคมที่นิยมทางการเมืองโปรแกรมเช่นประกันสังคมและ Medicare สามารถนำมาใช้โดย รัฐบาลจ่ายลงหนี้ของพวกเขาและในที่สุดความสมดุลของงบประมาณของพวกเขา หรือที่เรียกว่า 'หยดลงเศรษฐศาสตร์' SupplySide เศรษฐศาสตร์หันไปเรแกนและพรรครีพับลิสมาชิกสภานิติบัญญัติในสภาคองเกรสของสหรัฐฯที่กระตือรือร้นที่จะลดภาษีเป็นกระนั้นระมัดระวังในการรักษาทางสังคมที่นิยมทางการเมืองโปรแกรมเช่นประกันสังคมและ Medicare

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เศรษฐศาสตร์ด้านอุปทานและโค้ง แลฟเฟอร์สนับสนุนโดยนักเศรษฐศาสตร์ neoliberal ชอบอาเธอร์ แลฟเฟอร์ และกอดโดยประธานาธิบดีเรแกน ' เศรษฐศาสตร์ ' ด้านอุปทานจากตามสมมติฐานที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาวขึ้น' พ้น ' จํานวนของทุนของเอกชนการลงทุน องค์ประกอบสำคัญของทฤษฎีอุปทานเศรษฐศาสตร์ , ' โค้ง ' แลฟเฟอร์เป็นภาพประกอบกราฟิกของวิทยานิพนธ์ ที่ เพิ่มขึ้นในอัตราภาษีจะไม่เสมอนำไปสู่เพิ่มรายได้ในการจัดเก็บภาษี ขณะที่อัตราภาษีแบบ 100 เปอร์เซ็นต์โค้งแนะนำ รายได้จะลดลง ในขณะที่ประชาชนก็จะไม่มีแรงจูงใจที่จะทำงานให้หนักขึ้น Siders จัดหาแสดงเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่นที่จะลดภาษีรายได้ส่วนบุคคล อาศัยแลฟเฟอร์ โค้ง พวกเขาโต้เถียงว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ที่ผลิตโดยเพิ่มการลงทุนโดยอัตโนมัติจะสร้างขนาดใหญ่เพียงพอภาษี แต่มีรายได้ เหล่านี้ในการเปิดอาจจะถูกใช้โดยรัฐบาลจะจ่ายลงหนี้ของพวกเขาและความสมดุลในที่สุดงบประมาณของพวกเขา หรือที่เรียกว่า ' ' supplyside หยดลงเศรษฐศาสตร์ ,เศรษฐศาสตร์ยื่นอุทธรณ์ เรแกน และพรรคสมาชิกสภานิติบัญญัติในรัฐสภาสหรัฐที่กระตือรือร้นที่จะตัดภาษีคืออย่างไรก็ตามระมัดระวังเพื่อรักษาความนิยมทางการเมือง สังคมโปรแกรมเช่นประกันสังคมและประกันสุขภาพ