4.2 Cost and Profit EfficiencyThe m

4.2 Cost and Profit Efficiency
The mean cost and profit efficiency measures are reported in Table 4. The overall mean cost efficiency is 1.784, while that of profit efficiency is 0.753. This means that the average banks could reduce its costs by 78.4 percent to improve its profits by 24.7 percent to match its performance to the level of the most efficient bank in the test: of course such an achievement for all banks may not be feasible, but it is an average figure. This finding confirms the earlier findings of previous studies of Bos and Kool (2005) for Netherlands. They also found that, in general, banks experienced higher profit efficiency than cost efficiency. Based on the study of small cooperative Dutch banks, they found that the banks needed to improve cost efficiency by 39.3 percent, compared to 8.7 percent room for improving their profit efficiency. Hence, compared to the scores in a developed banking system, the Indonesian banking efficiency is lot worse, in fact about twice as bad as in that case.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

4.2 ต้นทุนและกำไรประสิทธิภาพหมายถึงต้นทุนและกำไรประสิทธิภาพมาตรการรายงานในตาราง 4 ค่าเฉลี่ยโดยรวมต้นทุนประสิทธิภาพเป็น 1.784 ในขณะที่กำไรประสิทธิภาพ 0.753 หมายความ ว่า ธนาคารเฉลี่ยสามารถลดต้นทุนเป็นร้อยละ 78.4 ปรับปรุงกำไรเป็นร้อยละ 24.7 ให้ตรงกับผลการดำเนินงานในระดับของธนาคารมีประสิทธิภาพสูงสุดในการทดสอบ: แน่นอนเช่นความสำเร็จสำหรับธนาคารทั้งหมดอาจไม่มี แต่ก็มีตัวเลขเฉลี่ย ค้นหานี้ยืนยันผลการวิจัยก่อนหน้านี้ศึกษาก่อนหน้านี้ของบอสและคูล (2005) สำหรับประเทศเนเธอร์แลนด์ พวกเขายังพบว่า ทั่วไป ธนาคารมีกำไรมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ขึ้นอยู่กับการศึกษาของธนาคารดัตช์สหกรณ์ขนาดเล็ก พวกเขาพบว่าธนาคารที่จำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุนร้อยละ 39.3 การเปรียบเทียบกับร้อยละ 8.7 ห้องปรับปรุงประสิทธิภาพของกำไร ดังนั้น เมื่อเทียบกับคะแนนในระบบธนาคารพัฒนา ประสิทธิภาพธนาคารอินโดนีเซียได้มากเลว ในความเป็นจริงเกี่ยวกับสองครั้งประทับใจในกรณีที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

4.2 ค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพและกำไร
ค่าใช้จ่ายค่าเฉลี่ยและมาตรการที่มีประสิทธิภาพกำไรจะมีการรายงานในตารางที่ 4. ประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายเฉลี่ยโดยรวมเป็น 1.784 ในขณะที่ประสิทธิภาพของกำไร 0.753 ซึ่งหมายความว่าธนาคารเฉลี่ยสามารถลดค่าใช้จ่ายร้อยละ 78.4 ในการปรับปรุงผลกำไรที่ได้ร้อยละ 24.7 เพื่อให้ตรงกับประสิทธิภาพการทำงานในระดับของธนาคารมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทดสอบ: แน่นอนเช่นความสำเร็จสำหรับทุกธนาคารไม่อาจเป็นไปได้ แต่ มันเป็นตัวเลขเฉลี่ย การค้นพบนี้ยืนยันผลการวิจัยก่อนหน้านี้จากการศึกษาก่อนหน้านี้บอสและคูล (2005) เนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังพบว่าโดยทั่วไปธนาคารมีประสบการณ์อย่างมีประสิทธิภาพกำไรที่สูงกว่าค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ จากการศึกษาของธนาคารขนาดเล็กดัตช์สหกรณ์ที่พวกเขาพบว่าธนาคารที่จำเป็นในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ค่าใช้จ่ายร้อยละ 39.3 เมื่อเทียบกับร้อยละ 8.7 ห้องพักสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพกำไรของพวกเขา ดังนั้นเมื่อเทียบกับคะแนนในระบบธนาคารพัฒนาที่มีประสิทธิภาพธนาคารอินโดนีเซียเป็นจำนวนมากที่เลวร้ายยิ่งในความเป็นจริงเกี่ยวกับสองครั้งที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เป็นในกรณีที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

4.2 ต้นทุนและประสิทธิภาพ
กำไรต้นทุนและกำไรประสิทธิภาพหมายถึงมาตรการจะมีการรายงานในตารางที่ 4 โดยรวมหมายถึงต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ 1.784 ในขณะที่ประสิทธิภาพกำไร 0.753 . ซึ่งหมายความว่า ธนาคารสามารถลดต้นทุนโดยเฉลี่ยของร้อยละ 78.4 เพิ่มผลกำไรโดย 24.7 เปอร์เซ็นต์ให้ตรงกับประสิทธิภาพในระดับของธนาคารที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการทดสอบแน่นอนเช่นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสำหรับทุกธนาคารไม่อาจเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นรูปทั่วๆไป การค้นพบนี้ยืนยันก่อนหน้านี้ ผลของการศึกษาก่อนหน้านี้ของบอส และ คูล ( 2005 ) ในเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังพบว่าโดยทั่วไป ธนาคารที่มีประสิทธิภาพกำไรสูงกว่าประสิทธิภาพค่าใช้จ่าย จากการศึกษาของธนาคารดัตช์ขนาดเล็กสหกรณ์พวกเขาพบว่า ธนาคารต้องการที่จะปรับปรุงประสิทธิภาพค่าใช้จ่ายโดย 39.3 เปอร์เซ็นต์ , เมื่อเทียบกับร้อยละ 8.7 ห้องพักสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพ กำไรของพวกเขา ดังนั้น เมื่อเทียบกับคะแนนในการพัฒนาระบบการเงินการธนาคาร ภาษาไทย เป็น ประสิทธิภาพมาก เลวร้าย ในความเป็นจริงเกี่ยวกับสองครั้งเท่าที่ในคดีนั้น