A number of robust results have bee

A number of robust results have been developed from event studies of financing decisions by corporations. When a corporation announces that it will raise capital in external markets there is, on average, a negative abnormal return depends on the source of external financing. Asquith and Mullins (1986) find for a sample of 266 firms announcing an equity issue in the period 1963 to 1981 the two day average abnormal return is -2.7 percent and on a sample of 80 firms for the period 1972 to 1982 Wayne Mikkelson and Megan Partch (1986) find the two day average abnormal return is -3.56 percent. In contrast, when firms decide to use straight debt financing, the average abnormal return is closer to zero. Mikkelson and Partch (1986) find the average abnormal return for a sample of 171 issues. Findings such as these provide the fuel for the development of new theories. For example, in this case, the findings motivate the pecking order theory of capital structure developed by Stewart Myers and Nicholas Majluf (1984).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำนวนผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้รับการพัฒนาจากการศึกษาเหตุการณ์ของการตัดสินใจทางการเงิน โดยบริษัท เมื่อบริษัทประกาศว่า จะเพิ่มทุนในตลาดภายนอกไม่มี เฉลี่ย การส่งคืนปกติลบขึ้นอยู่กับแหล่งของเงินภายนอก Mullins (1986) และ Asquith หาตัวอย่างของบริษัท 266 ประกาศประเด็นหุ้นในช่วง 1963-1981 วันที่สองเที่ยวกลับผิดปกติเฉลี่ยมี-2.7 เปอร์เซ็นต์ และตัวอย่างของบริษัท 80 สำหรับ 1972 รอบระยะเวลาการ 1982 Wayne Mikkelson และเมแกน Partch (1986) ค้นหาส่งคืนผิดปกติเฉลี่ยวันที่สองเป็น-3.56 เปอร์เซ็นต์ ในทางตรงกันข้าม เมื่อบริษัทตัดสินใจใช้เงินหนี้ตรง คืนปกติเฉลี่ยได้ใกล้ชิดกับศูนย์ Mikkelson และ Partch (1986) ค้นหาส่งคืนผิดปกติเฉลี่ยสำหรับตัวอย่างของปัญหาที่ 171 ผลการวิจัยลักษณะนี้ให้เชื้อเพลิงสำหรับการพัฒนาทฤษฎีใหม่ ตัวอย่าง ในกรณีนี้ พบการจูงใจทฤษฎีสั่งจิกของโครงสร้างเงินทุนที่พัฒนา โดยสจ๊วตเยอร์สและ Majluf นิโคลัส (1984)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำนวนของผลที่มีประสิทธิภาพได้รับการพัฒนาจากการศึกษากรณีที่มีการตัดสินใจทางการเงินโดย บริษัท เมื่อ บริษัท ประกาศว่าจะระดมทุนในตลาดภายนอกมีโดยเฉลี่ยผลตอบแทนที่ผิดปกติในแง่ลบขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของเงินทุนภายนอก สควิทและ Mullins (1986) พบตัวอย่างของ 266 บริษัท ประกาศปัญหาส่วนในช่วงเวลา 1963-1981 วันที่สองผลตอบแทนที่ผิดปกติเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ -2.7 และตัวอย่างจาก 80 บริษัท สำหรับรอบระยะเวลาปี 1972 1982 เวย์นและเมแกน Mikkelson Partch (1986) พบว่าในวันที่สองผลตอบแทนที่ผิดปกติเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ -3.56 ในทางตรงกันข้ามเมื่อ บริษัท ตัดสินใจที่จะใช้ชำระหนี้ตรงผลตอบแทนที่ผิดปกติเฉลี่ยอยู่ใกล้กับศูนย์ Mikkelson และ Partch (1986) พบว่าผลตอบแทนที่ผิดปกติเฉลี่ยสำหรับตัวอย่าง 171 ปัญหา ผลการวิจัยเช่นนี้ให้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการพัฒนาทฤษฎีใหม่ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีนี้การค้นพบทฤษฎีแรงจูงใจเพื่อจิกของโครงสร้างเงินทุนที่พัฒนาโดยสจ๊วร์ตไมเออร์และนิโคลั Majlu​​f (1984)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จำนวนของผลลัพธ์ที่แข็งแกร่งได้รับการพัฒนาจากงานศึกษาของการตัดสินใจทางการเงิน โดยบริษัท เมื่อ บริษัท ประกาศว่า จะเพิ่มทุนในตลาดภายนอกมี เฉลี่ยติดลบผลตอบแทนที่ผิดปกติขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาของเงินทุนจากภายนอกแอสควิท และ มัลลินส์ ( 1986 ) หาจำนวน 266 บริษัทประกาศหุ้นออกในช่วงปี 1963 ปี 1981 สองวันเฉลี่ยผลตอบแทนที่ผิดปกติคือ - 2.7 เปอร์เซ็นต์ และในกลุ่มตัวอย่างจำนวน 80 บริษัทสำหรับงวดในปี 1982 และเวย์น mikkelson เมแกน partch ( 1986 ) หา 2 วันเฉลี่ยผลตอบแทนที่ผิดปกติคือ -3.56 เปอร์เซ็นต์ . ในทางตรงกันข้าม เมื่อ บริษัท ตัดสินใจที่จะใช้ตรงการเงินหนี้อัตราผลตอบแทนผิดปกติเฉลี่ยอยู่ใกล้กับศูนย์ mikkelson partch ( 1986 ) และหาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนที่ผิดปกติสำหรับจำนวน 171 เรื่อง ผลการวิจัยดังกล่าวจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับการพัฒนาทฤษฎีใหม่ ตัวอย่างเช่น ในกรณีนี้ผลกระตุ้น pecking ทฤษฎีโครงสร้างเงินทุนพัฒนาโดย สจ๊วต เมเยอร์ส และ นิโคลัส majluf ( 1984 )