The isolated L. monocytogenes strai

The isolated L. monocytogenes strain demonstrated hemolytic
activity. L
opez et al. (2006) suggested that between 8 and 21% of the
food and environmental isolates of L. monocytogenes have attenuated
virulence or are completely avirulent. In vitro assays that
detect phenotypic markers, such as hemolytic activity, provide information
about virulence. The hemolytic activity found in the
isolated strain evidenced an active virulence. Thus, it represents a
risk for pigs consuming these feeds.
The antimicrobial activity between LAB remains a significant
criteria for the selection of the most promising strains to be
employed in later studies with other microorganisms. Our results
are in agreement with a previous study presented by Oliveira et al.
(2008b). However, different results to those found in this study
were presented by Saidi et al. (2011), who tested homologous
antimicrobial activity between LAB and observed that only 22.93%
of them had an inhibitory effect on the growth of other lactic
bacteria. This percentage is much lower than that observed in this
study with LAB isolated from brewer's grains (59%).
Listeriosis in animals is mainly related to the consumption of
feeds contaminated with L. monocytogenes. Preservation methods
such as drying or using chemical preservatives can prevent microbial
growth. Nevertheless, these types of solutions have many
drawbacks such as the alteration of the organoleptic and nutritional
properties of foods, among other. Currently, alternative methods
are being developed. LAB have been recognized as beneficial microorganisms
and it is well known that produce many antimicrobial
metabolites such as organic acids, bacteriocins, hydrogen peroxide,
among others. The present study shows that LAB isolated from
brewer's grains produce antilisterial compounds which inhibit
L. monocytogenes growth. As in this study, Teixeira de Carvalho et al.
(2006) and Kivanc et al. (2011) found that all tested lactic bacteria
inhibited a strain of L. monocytogenes. However, the number of
indicator strains was higher in our work. On the other hand, Albano
et al. (2007) and Singh and Prakash (2009) obtained results that do
not coincide with those reported in this study. They found that
certain strains of LAB did not inhibit the growth of
L. monocytogenes.
The CFS of all of the LAB strains assayed showed antilisteria
activity on LM1. By comparison, some strains showed a lower
antagonistic effect while others showed none when LAB supernatants
were neutralized. These results agree with those recently
reported by Aguilar and Klotz (2010). They reported antimicrobial
activity of CFS from Lactobacillus species and found a higher
inhibitory effect with untreated supernatants, as compared to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สายพันธุ์แยก L. monocytogenes สาธิต hemolyticกิจกรรมการ L opez et al. (2006) แนะนำว่า ระหว่าง 8 และ 21% ของการอาหารและสิ่งแวดล้อมแยกของ L. monocytogenes มีไฟฟ้าเคร...virulence หรือจะสมบูรณ์ avirulent การเพาะเลี้ยง assays ซึ่งตรวจหาเครื่องหมายของไทป์ เช่นกิจกรรม hemolytic ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ virulence กิจกรรม hemolytic ที่พบในการต้องแยกใช้เป็นหลักฐานมี virulence ใช้งานอยู่ ดังนั้น แทนความเสี่ยงสำหรับสุกรใช้ตัวดึงข้อมูลเหล่านี้กิจกรรมจุลินทรีย์ระหว่างปฏิบัติยังคง เป็นสำคัญเงื่อนไขสำหรับการเลือกสายพันธุ์ว่าจะลูกจ้างในการศึกษาต่อกับจุลินทรีย์อื่น ๆ ผลของเรามีข้อตกลงกับการศึกษาก่อนหน้านี้แสดงโดย Oliveira et al(2008b) . อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่แตกต่างที่พบในการศึกษานี้ถูกนำเสนอโดย Saidi et al. (2011), ผู้ทดสอบ homologousกิจกรรมจุลินทรีย์ระหว่างห้องปฏิบัติการ และสังเกตเท่านั้น 22.93%พวกเขามีลิปกลอสไขผลกระทบการเติบโตของแล็กติกอื่น ๆแบคทีเรีย เปอร์เซ็นต์นี้จะมากน้อยกว่าที่พบในศึกษา มีห้องปฏิบัติการแยกต่างหากจากธัญพืชของ brewer (59%)Listeriosis ในสัตว์ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับปริมาณการใช้เนื้อหาสรุปปน L. monocytogenes วิธีการเก็บรักษาเช่นสามารถป้องกันจุลินทรีย์แห้ง หรือใช้สารกันบูดสารเคมีเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม ชนิดของโซลูชั่นเหล่านี้มีจำนวนมากข้อเสียเช่นเปลี่ยน organoleptic และโภชนาการคุณสมบัติของอาหาร อื่น ๆ ขณะนี้ วิธีการสำรองมีการพัฒนา ห้องปฏิบัติได้ถูกรู้จักว่าเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และก็เป็นที่รู้จักที่ผลิตจุลินทรีย์มากmetabolites bacteriocins กรดอินทรีย์ ไฮโดรเจนเปอร์ ออกไซด์หมู่คนอื่น ๆ การศึกษาปัจจุบันแสดงว่า ห้องปฏิบัติการที่แยกต่างหากจากสาร antilisterial ซึ่งขัดขวางผลิตธัญพืชของ brewerL. monocytogenes เจริญเติบโต ในการศึกษานี้ Teixeira de Carvalho et al(2006) และ Kivanc et al. (2011) พบทั้งหมดทดสอบแบคทีเรียแล็กติกห้ามต้องใช้ของ L. monocytogenes อย่างไรก็ตาม จำนวนตัวบ่งชี้สายพันธุ์สูงในการทำงานของเราได้ ในทางกลับกัน Albanoal. ร้อยเอ็ด (2007) และสิงห์ช (2009) ได้รับผลที่ทำไม่สอดคล้องกับที่รายงานในการศึกษานี้ พวกเขาพบว่าบางสายพันธุ์ของแล็บไม่ได้ยับยั้งการเติบโตของL. monocytogenesCFS ของสายพันธุ์ห้องปฏิบัติการที่ assayed พบ antilisteriaกิจกรรมใน LM1 โดยการเปรียบเทียบ บางสายพันธุ์พบว่าต่ำกว่าที่ผลต่อต้านในขณะที่คนอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าไม่มีเมื่อห้องปฏิบัติการ supernatantsมี neutralized ผลลัพธ์เหล่านี้เห็นด้วยกับผู้ล่ารายงาน โดย Aguilar และ Klotz (2010) พวกเขารายงานจุลินทรีย์กิจกรรมของ CFS จากสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัส และพบมากลิปกลอสไขผลกับไม่ถูกรักษา supernatants เป็น compared เพื่อ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่แยก L. monocytogenes แสดงให้เห็นถึงสายพันธุ์ hemolytic
กิจกรรม L? opez et al, (2006) ชี้ให้เห็นว่าระหว่าง 8 และ 21%
ของสายพันธุ์อาหารและสิ่งแวดล้อมของmonocytogenes
ลิตรได้ลดความรุนแรงหรือavirulent สมบูรณ์ ในการตรวจหลอดทดลองที่ตรวจสอบเครื่องหมายฟีโนไทป์เช่นกิจกรรม hemolytic ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความรุนแรง กิจกรรม hemolytic พบในสายพันธุ์ที่แยกหลักฐานความรุนแรงที่ใช้งาน ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงในการบริโภคสุกรฟีดเหล่านี้. กิจกรรมต้านจุลชีพระหว่าง LAB ยังคงเป็นอย่างมีนัยสำคัญตามเกณฑ์การคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะใช้ในการศึกษาต่อมากับจุลินทรีย์อื่น ๆ ผลของเราอยู่ในข้อตกลงที่มีการศึกษาก่อนหน้านี้ที่นำเสนอโดย Oliveira et al. (2008b) อย่างไรก็ตามผลที่แตกต่างกันกับที่พบในการศึกษาครั้งนี้ถูกนำเสนอโดยไซ et al, (2011) ที่คล้ายคลึงกันทดสอบฤทธิ์ต้านจุลชีพระหว่างLAB และตั้งข้อสังเกตว่ามีเพียง 22.93% ของพวกเขามีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของแลคติกอื่น ๆแบคทีเรีย เปอร์เซ็นต์นี้ต่ำกว่าที่พบในการศึกษาที่มี LAB ที่แยกได้จากเมล็ดของเบียร์ (59%). listeriosis ในสัตว์เป็นส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคของฟีดปนเปื้อนด้วยL. monocytogenes วิธีการรักษาเช่นการอบแห้งหรือการใช้สารกันบูดสารเคมีที่สามารถป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์เจริญเติบโต แต่เหล่านี้ประเภทของการแก้ปัญหามีหลายข้อบกพร่องเช่นการเปลี่ยนแปลงของประสาทสัมผัสและโภชนาการคุณสมบัติของอาหารในหมู่อื่นๆ ปัจจุบันวิธีการทางเลือกที่มีการพัฒนา LAB ได้รับการยอมรับว่าเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์และเป็นที่รู้จักกันดีว่าการผลิตยาต้านจุลชีพหลายสารเช่นกรดอินทรีย์bacteriocins ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์หมู่คนอื่นๆ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า LAB ที่แยกได้จากเมล็ดของเบียร์ผลิตสารที่ยับยั้งการantilisterial ลิตร monocytogenes การเจริญเติบโต เช่นเดียวกับในการศึกษาครั้งนี้เดอร์วัลโญ่ Teixeira et al. (2006) และ Kivanc et al, (2011) พบว่าการทดสอบทั้งหมดแบคทีเรียแลคติกยับยั้งความเครียดจากL. monocytogenes อย่างไรก็ตามจำนวนของสายพันธุ์ที่ตัวบ่งชี้ที่เป็นที่สูงขึ้นในการทำงานของเรา บนมืออื่น ๆ , อัลบา, et al (2007) และซิงห์และแกช (2009) ที่ได้รับผลที่ไม่ตรงกับที่รายงานในการศึกษาครั้งนี้ พวกเขาพบว่าสายพันธุ์หนึ่งของ LAB ไม่ได้ยับยั้งการเจริญเติบโตของแอล monocytogenes. CFS ทั้งหมดของสายพันธุ์ LAB assayed แสดงให้เห็น antilisteria กิจกรรม LM1 โดยเปรียบเทียบบางสายพันธุ์พบว่ามีการลดลงผลปฏิปักษ์ขณะที่คนอื่นแสดงให้เห็นว่าใครเมื่อ supernatants LAB ถูกเป็นกลาง ผลลัพธ์เหล่านี้เห็นด้วยกับผู้ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้รายงานโดยอากีลาร์และKlotz (2010) พวกเขาได้รายงานต้านจุลชีพกิจกรรมของ CFS จากสายพันธุ์แลคโตบาซิลลัสและพบว่าสูงกว่าผลยับยั้งกับsupernatants ได้รับการรักษาเมื่อเทียบกับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แยก L . monocytogenes ความเครียดแสดงกิจกรรมหลัง

ผม
opez et al . ( 2006 ) แนะนำว่าระหว่าง 8 และ 21 เปอร์เซ็นต์ของเชื้อ L .
อาหารและสิ่งแวดล้อม monocytogenes ได้ลดความรุนแรงหรือสมบูรณ์
avirulent . ในหลอดทดลองพบว่า
ตรวจสอบฟีโนไทป์เครื่องหมาย เช่น กิจกรรมหลัง ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรค
. กิจกรรมหลังพบใน
แยกสายพันธุ์ ) มีความรุนแรงอยู่ ดังนั้นจึงเป็นความเสี่ยงสำหรับหมู

การบริโภคอาหารเหล่านี้ ฤทธิ์ต้านจุลชีพระหว่างห้องปฏิบัติการยังคงเป็นเกณฑ์สำคัญ
เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะใช้ในการศึกษาต่อมา
จุลินทรีย์อื่น ๆ
ผลของเราจะสอดคล้องกับการศึกษาก่อนหน้าที่นำเสนอโดย Oliveira et al .
( 2008b ) อย่างไรก็ตามผลที่แตกต่างกันที่พบในการศึกษานี้
นำเสนอ saidi et al . ( 2011 ) ที่ได้ทดสอบเปรียบเทียบระหว่างห้องปฏิบัติการ
กิจกรรมการยับยั้ง และสังเกตว่ามีเพียง 22.93 %
ของพวกเขามีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียแลคติกที่
อื่น ๆ จำนวนนี้ต่ำกว่าที่พบในการศึกษานี้
กับแล็บที่แยกได้จากผลของเมล็ด ( 59% ) .
ลิสเทอริโอซิสในสัตว์ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนด้วย
L monocytogenes . รักษาด้วยวิธีการ
เช่นแห้งหรือใช้สารกันบูดสารเคมี สามารถป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์

แต่เหล่านี้ประเภทของโซลูชั่นมีหลายประการ เช่น การเปลี่ยนแปลงของ

คุณสมบัติทางประสาทสัมผัสและคุณค่าทางโภชนาการของอาหารในหมู่อื่น ๆ ในปัจจุบัน วิธี
ที่ถูกพัฒนา Lab ได้รับการยอมรับเป็นประโยชน์จุลินทรีย์
และเป็นที่รู้จักกันดีว่าผลิตหลายวัน
หลายชนิดเช่นกรด อินทรีย์วัตถุดิบ , ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ,
ในหมู่คนอื่น ๆ การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าห้องที่แยกได้จาก
นำธัญพืชผลิตสารประกอบที่ยับยั้งการเจริญเติบโต antilisterial
L monocytogenes . ในการศึกษานี้ TEIXEIRA เด คาร์วัลโญ่ et al .
( 2006 ) และ kivanc et al . ( 2011 ) พบว่าแบคทีเรียแลคติกสายพันธุ์ทดสอบ
( L . monocytogenes . อย่างไรก็ตาม หมายเลขของ
บ่งชี้สายพันธุ์สูงกว่าในงานของเรา บนมืออื่น ๆ , albano
et al . ( 2007 ) และสิงห์ Prakash ( 2009 ) และผลที่ได้รับที่ทำ
ไม่ตรงกับที่รายงานในการศึกษา พวกเขาพบว่า สายพันธุ์หนึ่งของห้องปฏิบัติการ
ไม่ขัดขวางการเจริญเติบโตของ
Lmonocytogenes .
โฆษณาทั้งหมดของห้องปฏิบัติการ พบกิจกรรมเอนไซม์สายพันธุ์ antilisteria
บน lm1 . โดยการเปรียบเทียบ , บางสายพันธุ์ พบกว่า
ปฏิปักษ์ผลขณะที่คนอื่นพบไม่มีแล็บ supernatants
เมื่อถูกตรวจสอบแล้ว ผลลัพธ์เหล่านี้เห็นด้วยกับผู้เพิ่ง
รายงานโดย Aguilar กับคล็อตส์ ( 2010 ) พวกเขารายงานฤทธิ์ต้านจุลชีพของ CFS
จาก Lactobacillus species พบสูงกว่า
ยับยั้งผลดิบ supernatants เป็นเมื่อเทียบกับ