The company was founded in 1994, sp

The company was founded in 1994, spurred by what Bezos called his "regret minimization framework," which described his efforts to fend off any regrets for not participating sooner in the Internet business boom during that time.[18] In 1994, Bezos left his employment as vice-president of D. E. Shaw & Co., a Wall Street firm, and moved to Seattle. He began to work on a business plan for what would eventually become Amazon.com.

Jeff Bezos incorporated the company as "Cadabra" on July 5, 1994.[11] Bezos changed the name to Amazon a year later after a lawyer misheard its original name as "cadaver".[19] The company went online as Amazon.com in 1995.[20]

Bezos selected the name Amazon by looking through the dictionary, and settled on "Amazon" because it was a place that was "exotic and different" just as he planned for his store to be; the Amazon river, he noted was by far the "biggest" river in the world, and he planned to make his store the biggest in the world.[20] Bezos placed a premium on his head start in building a brand, telling a reporter, "There's nothing about our model that can't be copied over time. But you know, McDonald's got copied. And it still built a huge, multibillion-dollar company. A lot of it comes down to the brand name. Brand names are more important online than they are in the physical world."[21] Additionally, a name beginning with "A" was preferential due to the probability it would occur at the top of any list that was alphabetized.

Since June 19, 2000, Amazon's logotype has featured a curved arrow leading from A to Z, representing that the company carries every product from A to Z, with the arrow shaped like a smile.[22]

After reading a report about the future of the Internet that projected annual Web commerce growth at 2,300%, Bezos created a list of 20 products that could be marketed online. He narrowed the list to what he felt were the five most promising products which included: compact discs, computer hardware, computer software, videos, and books. Bezos finally decided that his new business would sell books online, due to the large world-wide demand for literature, the low price points for books, along with the huge number of titles available in print.[23] Amazon[24] was originally founded in Bezos' garage in Bellevue, Washington.[25]

The company began as an online bookstore, an idea spurred off with discussion with John Ingram of Ingram Book (now called Ingram Content Group), along with Keyur Patel who still holds a stake in Amazon.[26] In the first two months of business, Amazon sold to all 50 states and over 45 countries. Within two months, Amazon's sales were up to $20,000/week.[27] While the largest brick and mortar bookstores and mail order catalogs might offer 200,000 titles, an online bookstore could "carry" several times more, since it would have a practically unlimited virtual (not actual) warehouse: those of the actual product makers/suppliers.

Amazon was incorporated in 1994, in the state of Washington. In July 1995, the company began service and sold its first book on Amazon.com: Douglas Hofstadter's Fluid Concepts and Creative Analogies: Computer Models of the Fundamental Mechanisms of Thought.[28] In October 1995, the company announced itself to the public.[29] In 1996, it was reincorporated in Delaware. Amazon issued its initial public offering of stock on May 15, 1997, trading under the NASDAQ stock exchange symbol AMZN, at a price of US$18.00 per share ($1.50 after three stock splits in the late 1990s).

Amazon's initial business plan was unusual; it did not expect to make a profit for four to five years. This "slow" growth caused stockholders to complain about the company not reaching profitability fast enough to justify investing in, or to even survive in the long-term. When the dot-com bubble burst at the start of the 21st century, destroying many e-companies in the process, Amazon survived, and grew on past the bubble burst to become a huge player in online sales. It finally turned its first profit in the fourth quarter of 2001: $5 million (i.e., 1¢ per share), on revenues of more than $1 billion. This profit margin, though extremely modest, proved to skeptics that Bezos' unconventional business model could succeed.[30] In 1999, Time magazine named Bezos the Person of the Year, recognizing the company's success in popularizing online shopping.

Barnes & Noble sued Amazon on May 12, 1997, alleging that Amazon's claim to be "the world's largest bookstore" was false. Barnes and Noble asserted, "[It] isn't a bookstore at all. It's a book broker." The suit was later settled out of court, and Amazon continued to make the same claim."[31] Walmart sued Amazon on October 16, 1998, alleging that Amazon had stolen Walmart's trade secrets by hiring former Walmart executives. Although this suit was also settled out of court, it caused Amazon to implement internal restrictions and the reassignment of the former Walmart executives.[31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1994 กระตุ้น โดย Bezos เรียกอะไรของเขา "ริเกร็ตการลดกรอบ ซึ่งอธิบายของเขาพยายามที่ปัดเป่าปิดใด ๆ regrets ไม่ร่วมเร็วในบูมธุรกิจอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลานั้น [18] ในปี 1994, Bezos ซ้ายของเขาทำงานเป็นรองประธานของ D. E. Shaw และบริษัท บริษัทวอลล์สตรีท และย้ายไปซีแอตเทิล เขาเริ่มทำแผนธุรกิจสำหรับในที่สุดจะเป็น Amazon.comเจฟ Bezos รวมบริษัทเป็น "Cadabra" บน 5 กรกฎาคม 1994 [11] Bezos เปลี่ยนชื่ออเมซอนปีต่อมาหลังจากที่ชื่อเดิมเป็น "cadaver" misheard ของทนายความ [19] บริษัทไปออนไลน์เป็น Amazon.com ใน 1995 [20]Bezos เลือกชื่อ Amazon โดยมองผ่านพจนานุกรม และตัดสิน "อเมซอน" เนื่องจากเป็นสถานที่ "แปลกใหม่ และแตกต่างกัน" เพียงเท่าที่เขาวางแผนไว้สำหรับเก็บของเขาให้ แม่น้ำอเมซอน เขากล่าวคือโดยไกลแม่น้ำ "ที่ใหญ่ที่สุด" ในโลก และเขาวางแผนจะทำให้เขาเก็บใหญ่ที่สุดในโลก [20] Bezos ไว้พรีเมี่ยมเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ หัวเขาบอกผู้สื่อข่าว "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับรุ่นของเราที่ไม่สามารถคัดลอกช่วงเวลา แต่คุณทราบ แมคโดนัลด์ก็คัดลอก และยังสร้างบริษัทใหญ่ multibillion ดอลลาร์ ของมาลงชื่อแบรนด์ ชื่อแบรนด์ที่มีความสำคัญกว่าอยู่ในโลกออนไลน์" [21] นอกจากนี้ เริ่มต้นชื่อด้วย""ถูกต้องเนื่องจากความน่าเป็นที่มันจะเกิดขึ้นที่ด้านบนของรายการใด ๆ ที่ถูก alphabetizedตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2000 โลโก้ของ Amazon มีห้องเป็นลูกศรโค้งที่นำจาก A ถึง Z แทนที่บริษัทดำเนินการทุกผลิตภัณฑ์จาก A ถึง Z ด้วยลูกศรรูปเช่นยิ้ม [22]หลังจากอ่านรายงานเกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ตที่คาดการณ์เติบโตเว็บพาณิชย์ปี 2300%, Bezos สร้างรายการผลิตภัณฑ์ 20 ที่สามารถทำตลาดออนไลน์ เขาจำกัดรายการที่เขารู้สึกได้ว่าด้านล่างซึ่งรวม: แผ่น คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ วิดีโอ และหนังสือ Bezos และสุดท้ายตัดสินใจว่า ธุรกิจใหม่ของเขาจะขายหนังสือออนไลน์ เนื่องจากความต้องการทั่วโลกขนาดใหญ่สำหรับวรรณกรรม ระดับราคาต่ำสุดสำหรับหนังสือ พร้อมกับจำนวนตำแหน่งว่างในพิมพ์ใหญ่ [23] เดิมก่อ [24] Amazon ในโรงรถของ Bezos ในเบลวิลล์ วอชิงตัน [25]บริษัทเริ่มเป็นร้านหนังสือออนไลน์ ความคิดกระตุ้นออก ด้วยการสนทนากับจอห์นอิงแกรมอิงแกรมหนังสือ (ตอนนี้เรียกว่า กลุ่มเนื้อหาอิงแกรม), พร้อมกับ Keyur Patel ยัง ถือเงินเดิมพันในอเมซอน [26] ในสองเดือนแรกของธุรกิจ Amazon ขายทั้งหมด 50 รัฐ และ กว่า 45 ประเทศ ภายใน 2 เดือน ขายของ Amazon ได้ถึง $ 20000/สัปดาห์ [27] ในขณะที่อิฐที่ใหญ่ที่สุด และยัง และแค็ตตาล็อกจดหมายสั่งอาจเสนอชื่อ 200000 ร้านหนังสือออนไลน์สามารถ "ดำเนินการ" หลายครั้งมาก เนื่องจากมีคลังสินค้า (ไม่จริง) เสมือนจริงไม่จำกัด: ผู้ผลิต/ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์จริงได้อเมซอนถูกรวมอยู่ในปี 1994 ในรัฐวอชิงตัน ในเดือน 1995 กรกฎาคม บริษัทเริ่มบริการ และขายหนังสือของแรกใน Amazon.com: ดักลาส Hofstadter น้ำมันแนวคิดและสร้างสรรค์ Analogies: คอมพิวเตอร์รุ่นพื้นฐานกลไกของความคิด [28] ในเดือน 1995 ตุลาคม บริษัทประกาศตัวเองต่อสาธารณชน [29] ในปี 1996 มันถูก reincorporated ในรัฐเดลาแวร์ อเมซอนออกการเสนอขายหลักทรัพย์บน 15 พฤษภาคม 1997 ซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ AMZN ที่สหรัฐอเมริกา $18.00 ต่อหุ้น (1.50 $ หลังจากสามแยกหุ้นในปลายทศวรรษที่ 1990)แผนเริ่มต้นธุรกิจของ Amazon ไม่ผิดปกติ นอกจากนี้มันไม่ได้หวังจะทำกำไร 4-5 ปี เจริญเติบโตของ "ช้า" นี้เกิด stockholders บ่นเกี่ยวกับบริษัทไม่ถึงผลกำไรอย่างรวดเร็วเพียงพอในการลงทุนใน หรือเพื่อจะอยู่รอดในระยะยาว เมื่อฟองสบู่ดอตคอมระเบิดที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 ทำลายอีบริษัทจำนวนมากในกระบวนการ Amazon รอดชีวิต และเติบโตในอดีตออกมาจะกลายเป็น เครื่องเล่นขนาดใหญ่ในการขายออนไลน์ฟอง สุดท้ายเปิดเป็นกำไรครั้งแรกในไตรมาสสี่ของปี 2001:$5 ล้าน (เช่น 1 หมายเลขต่อหุ้น), ในรายได้ของมากกว่า 1 พันล้านเหรียญ นี้กำไร แต่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัว พิสูจน์ให้สงสัยว่า โมเดลธุรกิจกระเป๋าของ Bezos ได้สำเร็จ [30] ในปี 1999 เวลานิตยสารชื่อว่า Bezos บุคคลปี รับรองความสำเร็จของบริษัทในการช้อปปิ้งออนไลน์ popularizingBarnes & Noble sued Amazon บน 12 พฤษภาคม ปี 1997, alleging ร้องของ Amazon ที่มี "ในโลกร้านหนังสือการใหญ่คอนโซล" มีค่าเป็นเท็จ Barnes และตระกูลคน "[] ไม่มอร์ที่ ได้จองโบรกเกอร์" ชุดถูกตัดสินในภายหลังตำรวจ และ Amazon ยังคงให้สิทธิ์เดียวกัน" [31] วอล-มาร์ต sued Amazon บน 16 ตุลาคม 1998, alleging ว่า Amazon มีขโมยความลับทางการค้าของวอล-มาร์ต โดยจ้างผู้บริหารเดิมวอล-มาร์ต ถึงแม้ว่าชุดนี้ถูกตัดสินจากศาล เกิด Amazon จะใช้ข้อจำกัดภายในและศัลยกรรมแปลงของผู้บริหารของวอล-มาร์ตอดีต [31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บริษัท ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 กระตุ้นโดยสิ่งที่ Bezos เรียกว่า "กรอบความเสียใจลด" ของเขาซึ่งอธิบายความพยายามของเขาที่จะปัดเป่าปิดเสียใจใด ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนร่วมเร็วในบูมธุรกิจอินเทอร์เน็ตในช่วงเวลานั้น. [18] ในปี 1994 Bezos ซ้ายของเขา การจ้างงานในฐานะรองประธานของ DE ชอว์แอนด์โคซึ่งเป็น บริษัท วอลล์สตรีทและย้ายไปแอตเทิล เขาเริ่มทำงานในแผนธุรกิจสำหรับสิ่งที่ในที่สุดก็จะกลายเป็น Amazon.com. เจฟ Bezos จดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท เป็น "Cadabra" เมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม 1994 [11] Bezos เปลี่ยนชื่อเป็นอเมซอนในปีต่อมาหลังจากที่ทนายความฟังผิดเดิม ชื่อเป็น "ซากศพ". [19] บริษัท ไปออนไลน์เช่น Amazon.com ในปี 1995 [20] Bezos เลือกชื่อ Amazon โดยการมองผ่านพจนานุกรมและตั้งรกรากอยู่ที่ "อเมซอน" เพราะมันเป็นสถานที่ที่เป็น "ที่แปลกใหม่และ ที่แตกต่างกัน "เหมือนอย่างที่เขาวางแผนไว้สำหรับร้านของเขาจะ; แม่น้ำอเมซอนเขาตั้งข้อสังเกตคือโดยไกล "ใหญ่ที่สุด" แม่น้ำในโลกและเขาวางแผนที่จะทำให้ร้านของเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก. [20] Bezos วางพรีเมี่ยมบนศีรษะของเขาเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ที่บอกนักข่าว "ไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับรูปแบบของเราที่ไม่สามารถคัดลอกในช่วงเวลาที่เป็น. แต่คุณรู้ว่าโดนัลด์ได้คัดลอก. และก็ยังสร้างขนาดใหญ่ของ บริษัท หลายพันล้านดอลลาร์. จำนวนมากของมันลงมาให้ชื่อแบรนด์. ชื่อยี่ห้อ ที่สำคัญออนไลน์มากขึ้นกว่าที่พวกเขาอยู่ในโลกทางกายภาพ. "[21] นอกจากนี้ชื่อขึ้นต้นด้วย" A "เป็นพิเศษเนื่องจากความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นที่ด้านบนของรายการใด ๆ ที่ถูกตามตัวอักษร. ตั้งแต่ 19 มิถุนายน 2000, Amazon ของ สัญลักษณ์มีความสำคัญเป็นลูกศรโค้งชั้นนำจาก A ถึง Z เป็นตัวแทนที่ บริษัท ดำเนินการผลิตภัณฑ์จาก A ถึง Z ทุกคนที่มีลูกศรที่มีรูปร่างเหมือนรอยยิ้ม. [22] หลังจากที่ได้อ่านรายงานเกี่ยวกับอนาคตของอินเทอร์เน็ตที่คาด commerce Web ประจำปี การเจริญเติบโตที่ 2,300% Bezos สร้างรายชื่อของ 20 ผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำการตลาดออนไลน์ เขาหรี่รายการเพื่อสิ่งที่เขารู้สึกเป็นห้าผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มมากที่สุดซึ่งรวมถึง: คอมแพคดิสก์คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์ซอฟแวร์คอมพิวเตอร์, วิดีโอ, และหนังสือ Bezos ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าธุรกิจใหม่ของเขาจะขายหนังสือออนไลน์, เนื่องจากความต้องการทั่วโลกที่มีขนาดใหญ่วรรณกรรมที่จุดราคาต่ำสำหรับหนังสือพร้อมกับจำนวนมากของชื่อในการพิมพ์. [23] Amazon [24] แต่เดิม ก่อตั้งขึ้นในปี Bezos 'ที่จอดรถใน Bellevue, Washington. [25] บริษัท เริ่มเป็นร้านหนังสือออนไลน์, ความคิดกระตุ้นด้วยการพูดคุยกับจอห์นอินแกรมของอินแกรมจอง (ปัจจุบันเรียกว่าอินแกรมกลุ่มเนื้อหา) พร้อมกับ Keyur เทลที่ยังคงถือหุ้น ในอเมซอน. [26] ในช่วงสองเดือนแรกของธุรกิจ, Amazon ขายให้กับทั้งหมด 50 รัฐและกว่า 45 ประเทศ ภายในสองเดือนขายของ Amazon ได้ถึง $ 20,000 / สัปดาห์. [27] ในขณะที่อิฐที่ใหญ่ที่สุดและร้านหนังสือปูนและแคตตาล็อกสินค้าทางไปรษณีย์อาจมี 200,000 ชื่อร้านหนังสือออนไลน์ "สามารถพก" หลายครั้งมากขึ้นเพราะมันจะมีจริงไม่ จำกัด เสมือน (ไม่จริง) คลังสินค้า:. บรรดาผู้ผลิตสินค้าจริง / ซัพพลายเออร์อเมซอนได้รับการจัดตั้งขึ้นในปี1994 ในรัฐวอชิงตัน ในเดือนกรกฎาคมปี 1995 บริษัท เริ่มให้บริการและขายหนังสือเล่มแรกของบน Amazon.com: แนวคิดของไหลดักลาส Hofstadter และสร้างสรรค์ Analogies:. รุ่นคอมพิวเตอร์ของกลไกพื้นฐานของความคิด [28] ในเดือนตุลาคมปี 1995 บริษัท ได้ประกาศตัวเองต่อสาธารณชน [29] ในปี 1996 มันก็ reincorporated ในเดลาแวร์ อเมซอนที่ออกเสนอขายต่อประชาชนเป็นครั้งแรกของสต็อกวันที่ 15 พฤษภาคมปี 1997 การซื้อขายภายใต้สัญลักษณ์ตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ AMZN ในราคา US $ 18.00 ต่อหุ้น ($ 1.50 หลังจากที่สามแบ่งหุ้นในปลายปี 1990). แผนธุรกิจครั้งแรกของ Amazon เป็นเรื่องผิดปกติ; มันก็ไม่ได้คาดหวังที่จะทำกำไรสำหรับ 4-5 ปีที่ผ่านมา นี้ "ช้า" การเจริญเติบโตที่เกิดจากผู้ถือหุ้นที่จะบ่นเกี่ยวกับ บริษัท ในการทำกำไรไม่ถึงเร็วพอที่จะแสดงให้เห็นถึงการลงทุนในหรือที่จะได้อยู่รอดได้ในระยะยาว เมื่อดอทคอมฟองออกมาที่จุดเริ่มต้นของศตวรรษที่ 21 ทำลาย บริษัท อีจำนวนมากในกระบวนการเมซอนรอดและเติบโตในอดีตที่ผ่านมาฟองออกมาจะกลายเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในการขายออนไลน์ ในที่สุดมันเปิดกำไรเป็นครั้งแรกในไตรมาสที่สี่ของปี 2001: $ 5,000,000 (เช่น 1 ¢ต่อหุ้น) รายได้มากกว่า $ 1000000000 อัตรากำไรขั้นต้นนี้แม้ว่าเจียมเนื้อเจียมตัวมากพิสูจน์ให้เห็นว่าคลางแคลงว่ารูปแบบธุรกิจ Bezos 'แหกคอกจะประสบความสำเร็จ. [30] ในปี 1999 นิตยสารไทม์ชื่อ Bezos บุคคลแห่งปีของการรับรู้ถึงความสำเร็จของ บริษัท ในการที่นิยมชมชอบการช้อปปิ้งออนไลน์. Barnes & Noble ฟ้อง Amazon วันที่ 12 พฤษภาคมปี 1997 อ้างว่าการเรียกร้องของ Amazon จะเป็น "ร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก" เป็นของปลอม Barnes และ Noble กล่าวหา "[มัน] ไม่ได้เป็นร้านหนังสือที่ทุกคน. เป็นนายหน้าซื้อขายหนังสือ." ชุดสูทที่ถูกต่อมาตั้งรกรากออกจากศาลและอเมซอนยังคงทำให้การเรียกร้องเดียวกัน. "[31] Walmart ฟ้อง Amazon วันที่ 16 ตุลาคมปี 1998 อ้างว่าอเมซอนได้ขโมยความลับทางการค้าของ Walmart โดยการว่าจ้างอดีตผู้บริหาร Walmart. แต่ชุดนี้ก็ยังเป็น ศาลออกนั่งมันจะทำให้เกิด Amazon ที่จะใช้ข้อ จำกัด ภายในและกำหนดใหม่ของอดีตผู้บริหารของวอลมาร์ได้. [31]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่อังกฤษซื้อรถเขับเองได้ไหม