Low back pain (LBP) remains the mos

Low back pain (LBP) remains the most common work-related musculoskeletal disorder (WMSD). While
most of the LBP research has focused on occupational risk factors, other underlying causal mechanisms
may exist since not all workers performing the same task develop an injury. Previous research has
identified three primary risk factor categories for LBP (occupational, personal and psychosocial factors);
however, few studies have investigated the impact of cross categorical risk factor interactions on LBP. The
objective of this study was to investigate the effects of occupational, personal and psychosocial factors,
and their interactions, on LBP severity in a population of workers currently suffering from LBP. Sixty LBP
patients recruited for the study through local physicians and local announcements, completed questionnaires
relating to identified occupational, personal and psychosocial risk factors, and completed an
Oswestry Disability Index (ODI). Multiple regression models for predicting LBP severity were developed
for each risk factor category and for a combined risk factor model (which included factors from all three
risk factor categories) that included two-way interactions. Results showed that the final model consisted
of both main effects and interaction terms between risk factor categories and had an adjusted R2 value of
0.85, a significant improvement over models developed for the individual categories. These findings
illustrate the need to consider all three broad categories of risk factors simultaneously in predicting
injury status and in developing effective potential intervention efforts.
Relevance to industry: Personal and psychosocial factors and interactions, in addition to occupational
factors, may be needed to be taken into account when designing future prevention strategies for persons
in jobs with high risks for low back pain. The factors identified here may also be used to develop
a predictive model for pain severity in workers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลังอาการปวดยังคงอยู่ (แอล) ที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับงานกล้ามเนื้อผิดปกติ (WMSD) ในขณะที่ส่วนใหญ่การวิจัยแอลเน้นปัจจัยเสี่ยงอาชีว กลไกเชิงสาเหตุพื้นฐานอื่น ๆอาจมีอยู่เนื่องจากคนงานทั้งหมดไม่ทำงานเดียวกันพัฒนาได้รับบาดเจ็บ มีผลงานวิจัยระบุปัจจัยเสี่ยงหลักสามประเภทสำหรับแอล (ปัจจัยส่วนบุคคล และจิตสังคม อาชีว);อย่างไรก็ตาม ศึกษาน้อยได้ตรวจสอบผลกระทบของข้ามปฏิสัมพันธ์ของปัจจัยเสี่ยงที่แน่ชัดบนแอล การวัตถุประสงค์ของการศึกษานี้ได้ศึกษาผลของปัจจัยส่วนบุคคล และจิตสังคม อาชีวและการโต้ตอบ LBP รุนแรงในประชากรของแรงงานในขณะที่ทุกข์ทรมานจากแอล แอลหกสิบผู้ป่วยที่คัดเลือกสำหรับการศึกษาแพทย์ในท้องถิ่นและท้องถิ่นประกาศ กรอกเกี่ยวข้องกับระบุปัจจัยเสี่ยงอาชีว ส่วนบุคคล และจิตสังคม และเสร็จสิ้นการOswestry พิการดัชนีจาก) ได้รับการพัฒนาแบบจำลองถดถอยหลายทำนายความรุนแรงของแอลสำหรับประเภทของแต่ละปัจจัยเสี่ยง และแบบจำลองปัจจัยเสี่ยงรวม (ซึ่งรวมถึงปัจจัยจากทั้งสามประเภทระดับความเสี่ยง) ที่รวมการโต้ตอบสองทาง ผลการศึกษาพบว่า แบบจำลองสุดท้ายประกอบด้วยผลกระทบหลักและปฏิสัมพันธ์ ระหว่างความเสี่ยงปัจจัยประเภท และมีการปรับปรุง R2 มูลค่า0.85 ปรับปรุงที่สำคัญกว่ารูปแบบที่พัฒนาขึ้นสำหรับแต่ละประเภท ค้นพบเหล่านี้แสดงจำเป็นต้องพิจารณาทั้ง 3 ประเภทปัจจัยเสี่ยงพร้อมกันในการทำนายสถานะบาดเจ็บ และการพัฒนามีประสิทธิภาพความพยายามแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม: ปัจจัยส่วนบุคคล และจิตสังคมและปฏิสัมพันธ์ นอกเหนือจากการประกอบอาชีพปัจจัย อาจต้องนำมาพิจารณาเมื่อออกแบบกลยุทธ์การป้องกันในอนาคตสำหรับท่านในงานมีความเสี่ยงสูงในการปวดหลัง ปัจจัยที่ระบุที่นี่อาจจะใช้ในการพัฒนาแบบจำลองทำนายความรุนแรงของอาการปวดในคนงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาการปวดหลัง (LBP) ยังคงทำงานที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของกล้ามเนื้อและกระดูกที่พบมากที่สุด (WMSD) ในขณะที่
ส่วนใหญ่ของการวิจัย LBP มีความสำคัญกับปัจจัยเสี่ยงในการประกอบอาชีพกลไกสาเหตุพื้นฐานอื่น ๆ ที่
อาจมีอยู่เนื่องจากไม่ทุกคนงานปฏิบัติงานเดียวกันพัฒนาได้รับบาดเจ็บ งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้
ระบุหลักสามประเภทปัจจัยเสี่ยงสำหรับ LBP (อาชีวอนามัยส่วนบุคคลและปัจจัยทางจิตสังคม);
อย่างไรก็ตามการศึกษาน้อยมากที่ได้รับการตรวจสอบผลกระทบของการปฏิสัมพันธ์ข้ามปัจจัยเสี่ยงเด็ดขาดใน LBP
เป็นวัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อตรวจสอบผลกระทบของปัจจัยการประกอบอาชีพส่วนบุคคลและจิตสังคม
และการมีปฏิสัมพันธ์ของพวกเขาใน LBP ความรุนแรงในประชากรของแรงงานในปัจจุบันทุกข์ทรมานจากการปวดหลัง หกสิบ LBP
ผู้ป่วยที่ได้รับคัดเลือกสำหรับการศึกษาผ่านการแพทย์ในท้องถิ่นและประกาศท้องถิ่นเสร็จแบบสอบถาม
เกี่ยวกับการระบุอาชีวอนามัยส่วนบุคคลและปัจจัยเสี่ยงด้านจิตสังคมและเสร็จสิ้นการ
Oswestry พิการดัชนี (ODI) แบบจำลองการถดถอยในการทำนาย LBP ความรุนแรงได้รับการพัฒนา
สำหรับแต่ละประเภทปัจจัยเสี่ยงและรูปแบบการรวมปัจจัยเสี่ยง (ซึ่งรวมถึงปัจจัยจากทั้งสาม
ประเภทปัจจัยเสี่ยง) ซึ่งรวมถึงการโต้ตอบสองทาง ผลการศึกษาพบว่ารุ่นสุดท้ายประกอบด้วย
หลักผลทั้งสองและเงื่อนไขการทำงานร่วมกันระหว่างประเภทปัจจัยเสี่ยงและมีค่า R2 ปรับ
0.85 การปรับปรุงที่สำคัญกว่ารุ่นที่พัฒนาขึ้นสำหรับแต่ละประเภท การค้นพบนี้
แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาทั้งสามประเภทกว้างของปัจจัยเสี่ยงพร้อมกันในการทำนาย
สถานะการบาดเจ็บและในการพัฒนาความพยายามแทรกแซงที่มีศักยภาพที่มีประสิทธิภาพ.
ความสัมพันธ์กันกับอุตสาหกรรม: ปัจจัยส่วนบุคคลและทางจิตสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์ที่นอกเหนือไปจากการประกอบอาชีพ
ปัจจัยอาจมีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ เข้าบัญชีเมื่อมีการออกแบบกลยุทธ์การป้องกันในอนาคตสำหรับคน
ในงานที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับอาการปวดหลัง ปัจจัยที่ระบุในที่นี้อาจจะใช้ในการพัฒนา
รูปแบบการทำนายความรุนแรงปวดในแรงงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการปวดหลังส่วนล่าง ( ปวดหลัง ) ยังคงพบมากที่สุดโรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อที่สัมพันธ์กับงาน ( wmsd ) ในขณะที่ที่สุดของ LBP การวิจัยได้มุ่งเน้นปัจจัยความเสี่ยงอาชีพอื่นเป็นต้นสาเหตุ กลไกอาจมีตั้งแต่ไม่ทั้งหมดแรงงาน การปฏิบัติงานเดียวกัน พัฒนา ได้รับบาดเจ็บ งานวิจัยก่อนหน้านี้ได้การระบุปัจจัยเสี่ยงหลักทั้งสามประเภท LBP ( ปัจจัยส่วนบุคคลปัจจัยทางจิตสังคมและอาชีพ )อย่างไรก็ตาม การศึกษาน้อยได้ศึกษาผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงใน LBP ปฏิสัมพันธ์ข้ามเด็ดขาด . ที่การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านจิตสังคมและอาชีพและการปฏิสัมพันธ์กับ LBP ความรุนแรงในประชากรของคนงานกำลังทุกข์ทรมานจากท่า . หกสิบ แอลบีพีผู้ป่วยที่ได้รับคัดเลือกเพื่อศึกษาผ่านแพทย์ท้องถิ่นและท้องถิ่นสมบูรณ์จำนวนประกาศที่เกี่ยวข้องกับการระบุอาชีพ ส่วนตัว และปัจจัยเสี่ยงทางจิตสังคม และเสร็จสมบูรณ์เป็นดัชนีพิการโอส ( ODI ) แบบจำลองถดถอยพหุคูณทำนายความรุนแรงของท่าได้ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับปัจจัยแต่ละประเภทความเสี่ยง และปัจจัยความเสี่ยงรวมรุ่น ( ซึ่งรวมปัจจัยจากทั้งสามหมวดปัจจัยเสี่ยง ) ซึ่งรวมถึงการปฏิสัมพันธ์แบบสองทาง ผลการศึกษาพบว่ารูปแบบสุดท้ายคือทั้งหลักและผลกระทบด้านปฏิสัมพันธ์ระหว่างประเภทปัจจัยความเสี่ยงและมีการปรับ R2 ค่า0.85 , ปรับปรุงอย่างมีนัยสําคัญกว่ารูปแบบการพัฒนาสำหรับแต่ละหมวดหมู่ได้ ผลนี้แสดงให้เห็นถึงต้องพิจารณาทั้งสามประเภทกว้างของปัจจัยความเสี่ยงพร้อมกันในการประมาณการสถานภาพและศักยภาพในการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพได้รับการแทรกแซงของความพยายามเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม ปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยทางจิตสังคมและปฏิสัมพันธ์ นอกเหนือไปจากอาชีพปัจจัยที่จะต้องพิจารณาเมื่อออกแบบอนาคตกลยุทธ์การป้องกันสำหรับบุคคลในงานที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับอาการปวดหลัง ปัจจัยที่ระบุที่นี่อาจจะใช้ในการพัฒนาเป็นแบบจำลองสำหรับอาการปวดรุนแรงในคน