Sustained availability of fossil fu

Sustained availability of fossil fuels and the adverse effects
resulting from their usage in the form of green house gas emissions
became a matter of great concern worldwide in the recent past.
Many countries around the world are shifting their focus toward
renewable sources for energy production because of depleting
crude oil reserves [1]. Several countries have already planned for
progressive replacement of conventional fossil fuels with alternative
fuels especially in the transport sector. The Energy Policy Act,
2005 of USA required blending of 7.5 billion gallons of alternative
fuels by 2012 [2] and a goal was set to replace more than 75% of the
imported oil with alternative fuels by 2025 [3]. In this context,
bioethanol is considered to be one of the important alternative
liquid biofuels. The suitability of ethanol as a fuel is because of its
higher octane number, higher heat of vaporization and total
combustibility. Another feature which makes ethanol a candidatetotal quantity of ethanol produced in the world, India stands fifth in
position with 3% production, after USA (53%), Brazil (21%), EU (6%)
and China (7%), whereas in terms of fuel ethanol production, India
contributes only 1%. Major quantity of ethanol produced in India is
from molasses (80%) and only 20% is produced from grains. By
2020, India's dependency on oil imports is projected to increase by
90% from the current level. To reduce the oil imports, India
formulated its Ethanol Blending Program (EBP) in 2002 making it
mandatory to blend 5% ethanol from 2003. In 2008, the Government
of India announced its National Biofuel Policy to be implemented
in a phase-wise manner to facilitate the program of ethanol
blending in petrol in various states with a target of 20% blending of
bio-ethanol by 2017 [10]. Based on statistical estimations, the total
demand of ethanol in India might raise to 5.7 billion liters by 2017.
One of the salient features of Indian Biofuel Policy is “… to derive
biofuel from non-feed stock that would be grown on degraded soils
and waste lands not otherwise suited to agriculture…” [11] and
with this impetus, bioethanol production from agricultural wastes
and weeds has started receiving special attention to bridge the gap
between the demand and supply, [9].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พร้อมบำรุงของเชื้อเพลิงฟอสซิลและผลกระทบเกิดจากการใช้งานในรูปแบบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกลายเป็นเรื่องกังวลทั่วโลกในอดีตผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกจะเปลี่ยนโฟกัสของพวกเขาไปแหล่งพลังงานทดแทนสำหรับผลิตพลังงานเนื่องจากการนี้สำรองน้ำมันดิบ [1] หลายประเทศได้แล้วมีการวางแผนสำหรับทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลธรรมดามีก้าวหน้าเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง กฎหมายนโยบายพลังงานของสหรัฐอเมริกาที่ต้องผสม 7.5 พันแกลลอนของทางเลือกเชื้อเพลิง โดย 2012 [2] และตั้งค่าการแทนที่มากกว่า 75% ของเป้าหมายนำเข้าน้ำมัน ด้วยพลังงานทางเลือก 2568 [3] ในบริบทนี้bioethanol ถือเป็นทางเลือกสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งเชื้อเพลิงชีวภาพของเหลว มีความเหมาะสมของเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงเนื่องจากความหมายเลขค่าออกเทนสูง สูงขึ้นความร้อนเกิดการระเหย และรวมติดไฟ คุณสมบัติอื่นที่ทำให้เอทานอลเอทานอลผลิตในโลกจำนวน candidatetotal อินเดียยืนห้าในตำแหน่งที่ มีการผลิต 3% หลังจากสหรัฐอเมริกา (53%), บราซิล (21%), EU (6%)และจีน (7%), ในขณะที่ในแง่ของการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล อินเดียสนับสนุนเพียง 1% ปริมาณที่สำคัญของเอทานอลที่ผลิตในอินเดียจากกากน้ำตาล (80%) และเพียง 20% ผลิตจากธัญพืช โดย2020 ของอินเดียพึ่งพานำเข้าน้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้น90% จากระดับปัจจุบัน ลดน้ำมันนำเข้า อินเดียส่วนผสมของเอทานอลผสมโปรแกรม (EBP) 2002 ทำบังคับการผสมเอทานอล 5% จาก 2003 ใน 2008 รัฐบาลอินเดียประกาศนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพแห่งชาติเพื่อดำเนินการในลักษณะ phase-wise เพื่อช่วยให้โปรแกรมของเอทานอลผสมในน้ำมันเบนซินในรัฐต่าง ๆ มีเป้าหมายที่ 20% ผสมเกษตรปี 2017 [10] ตามสถิติประมาณ รวมความต้องการเอทานอลในอินเดียอาจยกเป็น 5.7 พันล้านลิตรปี 2017คุณสมบัติเด่นของเชื้อเพลิงชีวภาพอินเดียนโยบายอย่างใดอย่างหนึ่งคือ "...ได้เชื้อเพลิงชีวภาพจากสต็อก-ฟีดที่จะปลูกในดินที่เสื่อมโทรมและเสียดินแดนหรือไม่เหมาะสมกับเกษตร..." [11] และด้วยแรงผลักดันนี้ ผลิต bioethanol จากขยะทางการเกษตรและวัชพืชเริ่มได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพื่อระหว่างอุปสงค์และอุปทาน, [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความพร้อมใช้งานอย่างยั่งยืนของเชื้อเพลิงฟอสซิลและผลกระทบ
ที่เกิดจากการใช้งานในรูปแบบของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ได้กลายเป็นเรื่องของความกังวลที่ดีทั่วโลกในปีที่ผ่านมาเมื่อเร็ว ๆ นี้.
หลายประเทศทั่วโลกจะขยับโฟกัสของพวกเขาที่มีต่อ
แหล่งพลังงานทดแทนสำหรับการผลิตพลังงานเพราะ พึ่งพา
น้ำมันดิบสำรอง [1] หลายประเทศได้มีการวางแผนไว้แล้วสำหรับ
การเปลี่ยนความก้าวหน้าของเชื้อเพลิงฟอสซิลธรรมดากับทางเลือก
เชื้อเพลิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการขนส่ง พระราชบัญญัตินโยบายพลังงาน
ปี 2005 สหรัฐอเมริกาต้องผสม 7.5 พันล้านแกลลอนของทางเลือก
เชื้อเพลิงโดย [2] ปี 2012 และเป้าหมายที่ถูกกำหนดให้แทนกว่า 75% ของ
การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงทางเลือกในปี 2025 [3] ในบริบทนี้
เอทานอลจะถือเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญทางเลือก
เชื้อเพลิงชีวภาพของเหลว ความเหมาะสมของเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงเป็นเพราะ
ค่าออกเทนสูงกว่าความร้อนที่สูงขึ้นของการกลายเป็นไอและรวม
ติดไฟ คุณลักษณะที่ทำให้เอทานอลปริมาณ candidatetotal เอทานอลที่ผลิตในโลกอื่นอินเดียยืนที่ห้าใน
ตำแหน่งที่มีการผลิต 3% หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (53%), บราซิล (21%) สหภาพยุโรป (6%)
และจีน (7%) ในขณะที่ในแง่ของการผลิตเชื้อเพลิงเอทานออินเดีย
ก่อเพียง 1% ปริมาณที่สำคัญของเอทานอลที่ผลิตในอินเดียเป็น
จากกากน้ำตาล (80%) และมีเพียง 20% ที่ผลิตจากธัญพืช โดย
ในปี 2020 การพึ่งพาของอินเดียในการนำเข้าน้ำมันเป็นที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น
90% จากระดับปัจจุบัน เพื่อลดการนำเข้าน้ำมันอินเดีย
สูตรผสมเอทานอลของโครงการ (EBP) ในปี 2002 ทำให้มัน
บังคับให้ผสมผสานเอทานอล 5% จากปี 2003 ในปี 2008 รัฐบาล
อินเดียประกาศนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพแห่งชาติที่จะดำเนินการ
ในลักษณะที่เฟสฉลาดที่จะ อำนวยความสะดวกในโครงการเอทานอล
ผสมในน้ำมันในรัฐต่างๆที่มีการกำหนดเป้าหมายของการผสม 20% ของ
ไบโอเอทานอลในปี 2017 [10] บนพื้นฐานของการประมาณการทางสถิติรวม
ความต้องการเอทานอลในประเทศอินเดียอาจเพิ่ม 5.7 พันล้านลิตร 2017
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของอินเดียนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพคือ " ... จะได้รับ
เชื้อเพลิงชีวภาพจากสต็อกที่ไม่ใช่อาหารสัตว์ที่จะปลูกในดินเสื่อมโทรม
และของเสีย ดินแดนที่ไม่เหมาะกับการเกษตรอย่างอื่น ... "[11] และ
มีแรงผลักดันนี้การผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร
และวัชพืชเริ่มได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพื่อลดช่องว่าง
ระหว่างอุปสงค์และอุปทาน [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากความพร้อมของเชื้อเพลิงฟอสซิลและผลกระทบที่เกิดจากการใช้ในรูปแบบของการปล่อยก๊าซสีเขียวบ้านกลายเป็นเรื่องของความกังวลมากทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาหลายประเทศทั่วโลกมีการขยับโฟกัสของพวกเขาต่อทดแทนแหล่งพลังงานเพราะใช้เพื่อการผลิตน้ำมันดิบสำรอง [ 1 ] หลายประเทศได้วางแผนไว้การเปลี่ยนแบบของเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไปที่มีทางเลือกเชื้อเพลิงโดยเฉพาะในภาคการขนส่ง นโยบายพลังงานทำปี 2005 ของสหรัฐอเมริกาต้องผสม 7.5 พันล้านแกลลอนของทางเลือกเชื้อเพลิงโดย 2012 [ 2 ] และเป้าหมายที่ถูกตั้งค่าให้แทนที่มากกว่า 75% ของนำเข้าน้ำมันกับเชื้อเพลิงทางเลือกโดย 2025 [ 3 ] ในบริบทนี้รถยนต์ถือว่าเป็นหนึ่งในทางเลือกที่สำคัญเชื้อเพลิงชีวภาพเหลว ความเหมาะสมของเอทานอลเป็นเชื้อเพลิงเพราะของมันเลขที่ออกเทนสูงขึ้นความร้อนแฝงของการระเหย และรวมcombustibility . คุณลักษณะอื่นซึ่งทำให้เอทานอลปริมาณเอทานอลที่ผลิต candidatetotal ในโลก อินเดียยืนที่ห้าในตำแหน่งกับการผลิตร้อยละ 3 หลังจากสหรัฐอเมริกา ( ร้อยละ 53 ) , บราซิล ( 21% ) , สหภาพยุโรป ( 6 % )และจีน ( ร้อยละ 7 ) ส่วนในแง่ของการผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล , อินเดียจัดสรรเพียง 1 % ปริมาณของเอทานอลที่ผลิตในอินเดียเป็นหลักจากกากน้ำตาล ( 80% ) และมีเพียงร้อยละ 20 ที่ผลิตจากธัญพืช โดย2020 อินเดีย , การพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันคาดว่าจะเพิ่มขึ้นโดย90% จากระดับปัจจุบัน เพื่อลดการนำเข้าน้ำมัน , อินเดียสูตรผสมของเอทานอลโปรแกรม ( ebp ) ในปี 2002 ทำให้มันบังคับให้ผสมเอทานอล 5% จากปี 2003 ใน 2008 , รัฐบาลของอินเดียประกาศนโยบายแห่งชาติเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงชีวภาพของในขั้นปัญญาลักษณะเพื่อให้โปรแกรมของเอทานอลผสมในน้ำมันในรัฐต่าง ๆ โดยมีเป้าหมาย 20 % การผสมของไบโอเอทานอลโดย 2017 [ 10 ] ตามประมาณการทางสถิติ รวมความต้องการเอทานอลในอินเดียอาจจะเพิ่มใน 5.7 พันล้านลิตร โดย 2017หนึ่งในคุณสมบัติเด่นของอินเดียนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ได้รับมา " . . . . . . .เชื้อเพลิงชีวภาพจากไม่ดึงหุ้นนั้นจะปลูกในดินเสื่อมโทรมและเสียดินแดนใดไม่ได้เหมาะกับการเกษตร . . . . . . . " [ 11 ] และด้วยแรงผลักดันนี้ การผลิตเอทานอลจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและวัชพืชได้เริ่มได้รับความสนใจเป็นพิเศษเพื่อลดช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทาน , [ 9 ]