DPP ResultsThe DPP's results indica

DPP Results
The DPP's results indicate that millions of high-risk people can delay or avoid developing type 2 diabetes by losing weight through regular physical activity and a diet low in fat and calories. Weight loss and physical activity lower the risk of diabetes by improving the body's ability to use insulin and process glucose. The DPP also suggests that metformin can help delay the onset of diabetes.

Participants in the lifestyle intervention group-those receiving intensive individual counseling and motivational support on effective diet, exercise, and behavior modification-reduced their risk of developing diabetes by 58 percent. This finding was true across all participating ethnic groups and for both men and women. Lifestyle changes worked particularly well for participants aged 60 and older, reducing their risk by 71 percent. About 5 percent of the lifestyle intervention group developed diabetes each year during the study period, compared with 11 percent of those in the placebo group.

Participants taking metformin reduced their risk of developing diabetes by 31 percent. Metformin was effective for both men and women, but it was least effective in people aged 45 and older. Metformin was most effective in people 25 to 44 years old and in those with a body mass index of 35 or higher, meaning they were at least 60 pounds overweight. About 7.8 percent of the metformin group developed diabetes each year during the study, compared with 11 percent of the group receiving the placebo.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผล DPPผลของ DPP ระบุว่า ล้านคนที่มีความเสี่ยงสูงสามารถชะลอ หรือหลีกเลี่ยงการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการลดน้ำหนักผ่านทางกายเป็นประจำสม่ำเสมอและรับประทานอาหารไขมันและแคลอรี่ต่ำ น้ำหนักและออกกำลังกายลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โดยการปรับปรุงความสามารถของร่างกายใช้กลูโคสอินซูลินและกระบวนการ DPP ยังแสดงให้เห็นว่า เมตฟอร์มินสามารถช่วยหน่วงเวลาการโจมตีของโรคเบาหวานผู้เข้าร่วมในกลุ่มไลฟ์สไตล์แทรกแซง-ผู้ที่ได้รับให้คำปรึกษารายบุคคลแบบเร่งรัดและสนับสนุนสร้างแรงบันดาลใจในอาหารที่มีประสิทธิภาพ การออกกำลังกาย และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานได้ถึง 58 เปอร์เซ็นต์ ค้นพบนี้เป็นความจริงกลุ่มชาติพันธุ์ร่วมรายการทั้งหมด และ สำหรับทั้งชายและหญิง เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตการทำงานที่ดีโดยเฉพาะคนอายุ 60 และ เก่า ลดความเสี่ยงร้อยละ 71 ประมาณร้อยละ 5 ของกลุ่มไลฟ์สไตล์แทรกแซงพัฒนาโรคเบาหวานแต่ละปีการศึกษา เทียบกับร้อยละ 11 ของผู้ที่อยู่ในกลุ่มยาหลอกผู้เข้าร่วมเมตฟอร์มินลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานร้อยละ 31 เมตฟอร์มินมีประสิทธิภาพสำหรับทั้งชายและหญิง แต่มันก็มีประสิทธิภาพน้อยในคนอายุ 45 และเก่า เมตฟอร์มินมีประสิทธิภาพมากที่สุดในคนอายุ 25-44 ปี และในผู้ที่มีดัชนีมวลกายของ 35 หรือสูงก ว่า หมายความว่า พวกเขามีน้ำหนักเกินน้อย 60 ปอนด์ ประมาณร้อยละ 7.8 ของกลุ่มเมตฟอร์มินพัฒนาโรคเบาหวานทุกปีในระหว่างการศึกษา เทียบกับร้อยละ 11 ของกลุ่มได้รับยาหลอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์ DPPผลของ DPP บ่งชี้ว่ามีคนล้านสามารถชะลอหรือหลีกเลี่ยงการพัฒนาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โดยการสูญเสียน้ำหนักผ่านกิจกรรมทางกายที่ปกติและอาหารต่ำในไขมันและแคลอรี การสูญเสียน้ำหนักและกิจกรรมทางกายภาพลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน โดยการปรับปรุงความสามารถของร่างกายในการใช้อินซูลิน และกระบวนการกลูโคส ใน DPP ยังชี้ให้เห็นว่า metformin สามารถช่วยชะลอการก่อตัวของโรคเบาหวานผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้คำปรึกษาแบบเข้มข้นของบุคคลและแรงจูงใจที่มีประสิทธิภาพสนับสนุนอาหาร การออกกำลังกาย และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานโดย 58 เปอร์เซ็นต์ การค้นพบนี้เป็นจริงข้ามทั้งหมดเข้าร่วมกลุ่มชาติพันธุ์และสำหรับทั้งชายและหญิง การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตทำงานได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอายุ 60 ขึ้นไป จะช่วยลดความเสี่ยงของพวกเขาโดย 71 เปอร์เซ็นต์ ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มพัฒนาวิถีชีวิตเบาหวานในแต่ละปีในช่วงระยะเวลาการศึกษา , เมื่อเทียบกับ 11 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่อยู่ในกลุ่มยาหลอกผู้สละ metformin ลดความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานโดย 31 เปอร์เซ็นต์ แรดอินเดียเป็นที่มีประสิทธิภาพสำหรับทั้งชายและหญิง แต่มันมีประสิทธิภาพน้อยในคนอายุ 45 ปีขึ้นไป แรดอินเดียเป็นมีประสิทธิภาพมากที่สุดในคน 25 - 44 ปี และ ในผู้ที่มีดัชนีมวลกาย 35 หรือสูงกว่า , ความหมายของพวกเขาอย่างน้อย 60 ปอนด์อ้วน ประมาณร้อยละ 7.8 ของกลุ่มบทบาทการพัฒนาโรคเบาหวานในแต่ละปีในระหว่างการศึกษา , เมื่อเทียบกับ 11 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มที่ได้รับยาหลอก