The extent to which a crop producer

The extent to which a crop producer can "manage" the carbon dioxide levels for field crop production either through the addition of manure or crop residues, carbon dioxide fertilization, windbreak, or the application of lime is a much debated, important, and unresolved question. No one solution at any one time may be economical, practical, or effective; but if CO2 levels could effectively be increased, the results might be spectacular and the potential should not be underestimated Considerations of increasing CO2 concentrations must recognize the law of the minimum (see Chapter Three). CO2 enrichment can be effective only if another factor(s) does not limit photosynthesis. Gaastra (1962) stressed this fact, and in addition to the obvious factors such as light, temperature moisture, and fertility, factors that influence water uptake by roots such as the rate of root extension, soil moisture stress, soil aeration, root temperature plus water transport in the upper part of the plant, transpiration rate, absorbed radiation, leaf tissue temperature, wind speed, humidity in the air, etc all of these must be taken into consideration. In addition to all these factors resistance to CO2 movement in the external air near the leaf surface as well as within the leaves themselves may limit CO2 intake Although Wittwer and Robb (1964) mentioned European reports of crops responding to CO2 levels ranging from 20,000 to 30,000 ppm, the possibility of CO2 toxicity cannot be overlooked. Early studies with increased levels of CO2 in greenhouses reported evidence of toxicity possibly due to impurities in the CO2 released. The human safety limit for CO2 is setat 5000 ppm (Anonymous 1960), although much higher levels are safely tolerated for short periods. It is also known that above-normal levels of CO2 do reduce the size of stomatal openings and hence restrict transpiration and CO2 intake. In the presence of decaying manures, however, small amounts of ammonia are released, which have the effect of keeping the stomata open. Because CO2 at high concentrations can close stomata, this has been proposed as a means of increasing water use efficiency (Begg and Turner 1976). The complexities of this subject are great and more research is needed. her than providing a producer with a clear guide to increase crop yields importance CO2 management, this chapter has attempted to show the of CO2 and its complexity in management, as well as to illustrate that crop production is an art as well as a science

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขอบเขตที่ผู้ผลิตพืชสามารถ "จัดการ" ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับฟิลด์การผลิตพืช โดยการเพิ่มปุ๋ยคอกหรือปลูกพืชตกค้าง คาร์บอนไดออกไซด์ปฏิสนธิ windbreak หรือการใช้มะนาวเป็นมากถกเถียงกัน คำถามที่สำคัญ และแก้ไขไม่ ไม่มีวิธีการแก้ไขปัญหาตลอดเวลาหนึ่งอาจประหยัด ปฏิบัติ หรือมี ประสิทธิภาพ แต่ถ้ามีประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นระดับ CO2 ผลลัพธ์อาจงดงาม และศักยภาพควรไม่ถูกตลอด ข้อควรพิจารณาการเพิ่ม CO2 ความเข้มข้นต้องรู้จักกฎหมายของขั้นต่ำ (ดูบทที่สาม) ตกแต่ง CO2 จะมีประสิทธิภาพถ้า factor(s) อื่นไม่จำกัดการสังเคราะห์แสง Gaastra (1962) เน้นข้อเท็จจริงนี้ และนอกเหนือจากปัจจัยเห็นได้ชัดเช่นแสง อุณหภูมิ และความชื้น ความ อุดม ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดูดซึมน้ำรากเช่นอัตราการขยายราก ความเครียดความชื้นดิน อากาศดิน รากอุณหภูมิบวกน้ำการขนส่งในส่วนบนของพืช อัตราการคายน้ำ ดูดซึมรังสี ใบเนื้อเยื่ออุณหภูมิ ความ เร็วลม ความชื้นในอากาศ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาพิจารณา นอกเหนือจากปัจจัยเหล่านี้ ต่อต้านการเคลื่อนไหวของ CO2 ในอากาศภายนอกใกล้ กับพื้นผิวของใบไม้เช่นเดียว กับภาย ในใบเองอาจจำกัดปริมาณ CO2 Wittwer แม้ว่า และ Robb (1964) กล่าวถึงรายงานที่ยุโรปของพืชตอบสนองต่อระดับ CO2 ตั้งแต่ 20,000 ถึง 30,000 ppm ความเป็นไปได้ของความเป็นพิษของ CO2 ไม่สามารถมองข้าม การศึกษาเพิ่มขึ้นระดับของ CO2 ในโรงเรือนก่อนรายงานหลักฐานของความเป็นพิษอาจเนื่องจากสิ่งสกปรกใน CO2 ที่ปล่อยออกมา ขีดจำกัดความปลอดภัยของมนุษย์สำหรับ CO2 จะ setat 5000 ppm (ไม่ระบุชื่อ 1960), แม้ว่าระดับที่สูงขึ้นมากจะได้รับการยอมรับอย่างปลอดภัยสั้น ๆ มันเป็นที่รู้จักกันว่า สูงกว่าปกติระดับของ CO2 ลดขนาดของช่องเปิด และจึง จำกัดปริมาณ CO2 และการคายน้ำ ในสลาย manures อย่างไรก็ตาม แอมโมเนียจำนวนเล็กน้อยถูกนำออกใช้ ซึ่งมีผลของการรักษาปากใบเปิด เนื่องจาก CO2 ที่ความเข้มข้นสูงสามารถปิดปากใบ ได้รับการเสนอนี้เป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (Begg และ Turner 1976) ความซับซ้อนของเรื่องนี้ดี และจำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม เธอมากกว่าให้ผู้ผลิตมีคู่มือชัดเจนในการเพิ่มพืชผลผลิตการจัดการสำคัญ CO2 บทนี้ได้พยายามแสดงตัวของ CO2 และความซับซ้อนของการจัดการ ตลอดจนแสดงให้เห็นว่า การผลิตพืชที่เป็นศิลปะเป็นศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขอบเขตที่ผู้ผลิตพืชสามารถ "จัดการ" ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในการผลิตพืชไร่ทั้งผ่านการเพิ่มของปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยพืชตกค้างคาร์บอนไดออกไซด์ปฏิสนธิป้องกันลมหรือการใช้มะนาวเป็นที่ถกเถียงกันมากที่สำคัญและคำถามที่ยังไม่ได้แก้ไข . ไม่มีทางออกหนึ่งที่ใดเวลาหนึ่งอาจจะประหยัดในทางปฏิบัติหรือมีประสิทธิภาพ; แต่ถ้าระดับ CO2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพอาจจะเพิ่มขึ้นผลที่อาจจะงดงามและศักยภาพที่ไม่ควรจะประมาทการพิจารณาของการเพิ่มความเข้มข้นของ CO2 ต้องยอมรับกฎหมายของขั้นต่ำ (ดูบทที่สาม) การเพิ่มปริมาณ CO2 จะมีประสิทธิภาพเฉพาะในกรณีที่อีกปัจจัยหนึ่ง (s) ไม่ได้ จำกัด การสังเคราะห์แสง Gaastra (1962) เน้นความเป็นจริงนี้และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่เห็นได้ชัดเช่นแสงความชื้นอุณหภูมิและความอุดมสมบูรณ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดูดน้ำจากรากเช่นอัตราการขยายรากความเครียดความชุ่มชื้นในดินให้อากาศดินอุณหภูมิรากบวก การขนส่งทางน้ำในส่วนบนของพืชอัตราการคายรังสีดูดซึมอุณหภูมิเนื้อเยื่อใบความเร็วลมความชื้นในอากาศ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะต้องถูกนำมาพิจารณา นอกจากทั้งหมดเหล่านี้ต้านทานปัจจัยที่จะต้องเคลื่อนไหว CO2 ในอากาศภายนอกที่อยู่ใกล้ผิวใบเช่นเดียวกับที่อยู่ในใบที่ตัวเองอาจ จำกัด ปริมาณ CO2 แม้ว่า Wittwer และ Robb (1964) กล่าวถึงรายงานของยุโรปพืชตอบสนองต่อระดับ CO2 ตั้งแต่ 20,000 ถึง 30,000 ppm ความเป็นไปได้ของความเป็นพิษ CO2 ไม่สามารถมองข้าม ก่อนการศึกษาที่มีระดับที่เพิ่มขึ้นของ CO2 ในเรือนกระจกรายงานหลักฐานของความเป็นพิษอาจจะเป็นเพราะสิ่งสกปรกใน CO2 ที่ปล่อยออกมา ขีด จำกัด ของความปลอดภัยของมนุษย์สำหรับ CO2 เป็น setat 5000 ppm (ไม่ประสงค์ออกนาม 1960) แม้ว่าระดับที่สูงขึ้นมากจะทนได้อย่างปลอดภัยระยะเวลาสั้น ๆ เป็นที่รู้จักกันว่าระดับสูงกว่าปกติของ CO2 จะลดขนาดของการเปิดปากใบและด้วยเหตุนี้ จำกัด การคาย CO2 และการบริโภค ในที่ที่มีเนื้อที่ปุ๋ยคอก แต่จำนวนเงินขนาดเล็กของแอมโมเนียจะถูกปล่อยออกซึ่งมีผลต่อการรักษาปากใบเปิด เพราะ CO2 ที่เข้มข้นสูงสามารถปิดปากใบนี้ได้รับการเสนอเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ (เบ็กก์และเทอร์เนอ 1976) ความซับซ้อนของเรื่องนี้จะดีและจำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติม เธอมากกว่าให้ผู้ผลิตพร้อมคำแนะนำที่ชัดเจนในการเพิ่มผลผลิตการจัดการ CO2 สำคัญบทนี้มีความพยายามที่จะแสดงของ CO2 และความซับซ้อนในการบริหารจัดการเช่นเดียวกับการแสดงให้เห็นถึงการผลิตพืชที่เป็นศิลปะเช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขอบเขตที่พืชผู้ผลิต สามารถ " จัดการ " ระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อการผลิตพืชไร่ทั้งผ่านการเพิ่มของปุ๋ยคอก หรือเศษพืชตกค้าง คาร์บอนไดออกไซด์ การใช้ปุ๋ย ที่บังลม หรือใช้มะนาวเป็นที่ถกเถียงกันมาก ที่สำคัญ ปัญหาที่แก้ไม่ตก หนึ่งโซลูชั่นที่เวลาใดเวลาหนึ่งอาจจะประหยัด ประโยชน์ หรือ ประสิทธิภาพ แต่ถ้าระดับของ CO2 ได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์อาจจะงดงามและศักยภาพไม่ควร underestimated การเพิ่มความเข้มข้นของ CO2 จะต้องรับรู้กฎขั้นต่ำ ( ดูบทที่ 3 ) CO2 เสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าปัจจัยอื่น ( s ) ไม่ จำกัด ด้วยแสง gaastra ( 1962 ) เน้นข้อเท็จจริงนี้ และนอกจากปัจจัยชัดเจน เช่น แสง อุณหภูมิ ความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการดูดน้ำทางราก เช่น อัตราการขยายราก ความชื้นดินความเครียด อากาศในดิน รากอุณหภูมิบวกขนส่งทางน้ำในส่วนบนของพืช อัตราการคายน้ำของพืชดูดซึม รังสีเนื้อเยื่อใบ อุณหภูมิ ความเร็วลม ความชื้นในอากาศ ฯลฯ ทั้งหมดนี้จะต้องนำมาพิจารณา นอกจากนี้ ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ต่อต้านการเคลื่อนไหวภายนอก CO2 ในอากาศใกล้ผิวใบ รวมทั้งภายในใบเองอาจจะ จำกัด ปริมาณ CO2 แม้ว่า วิทเวอร์ และร็อบ ( 1964 ) กล่าวถึงรายงานของยุโรปพืชตอบสนองต่อ CO2 ระดับตั้งแต่ 10 , 000 ppm , ความเป็นไปได้ของ CO2 พิษไม่สามารถมองข้ามได้ ก่อนการศึกษาด้วยการเพิ่มขึ้นของระดับ CO2 ในเรือนกระจกรายงานหลักฐานของความเป็นพิษอาจเนื่องจากสิ่งสกปรกใน CO2 ที่ปล่อยออกมา ขีดจำกัดความปลอดภัยของมนุษย์เป็น CO2 โดย 5000 ppm ( ไม่ระบุชื่อ 1960 ) แม้ว่าระดับที่สูงจะปลอดภัย ทนสำหรับระยะเวลาสั้น ๆ มันเป็นที่รู้จักกันว่าสูงกว่าระดับปกติของ CO2 จะลดขนาดของปากใบเปิด และจึง จำกัด การคายน้ำ และ CO2 บริโภค ในการแสดงตนของปุ๋ยคอกเก่า อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินขนาดเล็กของแอมโมเนียจะปล่อยออกมา ซึ่งมีผลทำให้ปากใบเปิด เพราะ CO2 ความเข้มข้นสูงสามารถปิดใบนี้ได้รับการเสนอเป็นวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำและเบ็กก์เทอร์เนอร์ 1976 ) ความซับซ้อนของหัวข้อนี้ที่ดีและการวิจัยมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็น มากกว่าการให้ผู้ผลิตกับคู่มือที่ชัดเจนเพื่อเพิ่มผลผลิตพืชสำคัญต่อการจัดการ บทนี้ได้พยายามที่จะแสดงของ CO2 และความซับซ้อนในการบริหาร รวมทั้งเพื่อแสดงให้เห็นว่าการผลิตพืชเป็นศิลปะรวมทั้งวิทยาศาสตร์