A study by Janette et al. (2013) su

A study by Janette et al. (2013) supported above finding of CAM utilization by a large proportion of cancer patients (mean 36%, range up to 80%) [19] And among cancer patients, breast cancer patients remain as the most likely users [20]. Furthermore, among the CAM users almost half of the patients (50%) use herbal supplements or anti-oxidants at some phase during their cancer treatment. The maximum use of CAM among people with cancer is in women [21], particularly with breast cancer, who are of younger age, with higher levels of education, have more advanced disease and are of Asian ancestry [19-21]. Furthermore, the majority of patients do not notify their doctors about their CAM utilization [19,22].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาโดย Janette et al. (2013) สนับสนุน โดยสัดส่วนใหญ่ของผู้ป่วยโรคมะเร็งกล่าวหาใช้ CAM (หมายถึง 36% ช่วงลดสูงสุดถึง 80%) [19] และในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมยังคงเป็นผู้มีแนวโน้มมากที่สุด [20] นอกจากนี้ ในหมู่ผู้ใช้ CAM เกือบครึ่งหนึ่ง (50%) ผู้ป่วยใช้สมุนไพรเสริมหรือต่อต้านอนุมูลอิสระในบางขั้นตอนระหว่างการรักษามะเร็ง CAM ใช้สูงสุดในหมู่คนที่มีโรคมะเร็งอยู่ในผู้หญิง [21], โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมะเร็งเต้านม มีของผู้หญิงที่มีอายุ ระดับการศึกษาสูง มีสูงกว่าโรค และมีวงศ์เอเชีย [19-21] นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไม่ได้แจ้งให้แพทย์ของพวกเขาเกี่ยวกับการใช้ CAM [19,22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาโดย Janette et al, (2013) ได้รับการสนับสนุนการค้นพบดังกล่าวข้างต้นของการใช้ CAM โดยส่วนใหญ่ของผู้ป่วยโรคมะเร็ง (ค่าเฉลี่ย 36% ในช่วงสูงสุดถึง 80%) [19] และในหมู่ผู้ป่วยโรคมะเร็งผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมยังคงเป็นผู้ใช้มากที่สุด [20] นอกจากนี้ในหมู่ผู้ใช้ CAM เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย (50%) การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสมุนไพรหรือสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ขั้นตอนบางอย่างในช่วงการรักษาโรคมะเร็งของพวกเขา ใช้งานสูงสุดของ CAM ในหมู่คนที่เป็นมะเร็งในผู้หญิง [21] โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคมะเร็งเต้านมที่อยู่ในวัยที่อายุน้อยกว่าที่มีระดับที่สูงขึ้นของการศึกษามีโรคที่สูงขึ้นและมีเชื้อสายเอเชีย [19-21] นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่ไม่ได้แจ้งให้แพทย์ของพวกเขาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ของพวกเขา CAM [19,22]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาโดย Janette et al . ( 2013 ) รองรับการใช้ข้างต้นแคมโดยสัดส่วนขนาดใหญ่ของผู้ป่วยมะเร็ง ( หมายถึง 36% ในช่วงถึง 80% ) [ 19 ] และในผู้ป่วยมะเร็ง , ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมยังคงเป็นผู้ใช้มากที่สุด [ 20 ] นอกจากนี้ ระหว่างแคมผู้ใช้เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ป่วย ( ร้อยละ 50 ) ใช้ข้อมูลเพิ่มเติมสมุนไพรต่อต้านอนุมูลอิสระในบางขั้นตอนในระหว่างการรักษาโรคมะเร็งของพวกเขาประโยชน์สูงสุดของแคมในผู้ที่มีโรคมะเร็งในผู้หญิง [ 21 ] , โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมะเร็งเต้านม ที่มีน้องอายุกับระดับที่สูงขึ้นของการศึกษาโรคขั้นสูงเพิ่มเติม และเป็นบรรพบุรุษแห่งเอเชีย [ 2 ] นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ของผู้ป่วยที่ไม่แจ้งให้แพทย์ของพวกเขาเกี่ยวกับการใช้กล้อง [ 19,22 ]