This study presents the results of

This study presents the results of a survey in the leading hotel
enterprises of the Greek hospitality sector. The results of this survey are
in line with the existing literature in hotels accounting regarding the high
level of fixed costs. Indeed, for the majority of the hotels that participated
in this study (60%) fixed cost consists of more than 65% of total cost.
Additionally, these enterprises face a high proportion of indirect expenses
(mean value is estimated at 53%). The statistical analysis showed that
resorts face higher indirect costs than city hotels.
The majority of the hotels (88%) do not use the USALI system? that
is mainly adopted by hotels members of multinational chains. Field’s
(1995) view that the US system uses source of terminology to be
incorporated in hotel management contracts agreements is confirmed.
Another finding of the research is that the majority of hotels (76,5%) use
traditional cost accounting systems. Most of them (57,7%) apply job
order costing and the rest of them apply job order costing, as well as
process costing.
ABC diffusion in hospitality industry in Greece is considered very
satisfactory. This research reported higher adoption rates than ones
presented in previous studies in lodging industry (Tai, 2000). Our
findings confirm the increasing pace of ABC adoption in Greece in recent
years (Cohen et. all, 2005). The survey’s results demonstrate that the
majority of the ABC systems in hospitality industry are not excessively
detailed, as they include a small number of cost drivers and calculate the
cost of a rather small number of activities that mainly include
housekeeping, check in/out, reservation, food production/service,
marketing and general administration.
Through their cost accounting systems hotels determine cost per
profit and cost center and very few of them per customer category, room
night and room. The hotels that follow traditional cost accounting systems
for imputing cost on cost objects use as imputing basis the number of
sales and the cost of direct working, while those that use ABC use the
number of room nights and the days of staying at the hotel. It should be
noted that hotel enterprises mainly use normal cost accounting. This
conclusion is in line with the existing literature, which reports that normal
cost accounting fits companies facing fluctuations in production volume.
The statistical analysis showed that resorts use normal than actual cost
accounting more frequently, and this could be attributed to the fact that
they face higher fluctuations in their production volume than city hotels.
Based in our findings, ABC adopters and non–adopters appear no be
different in terms of cost structure and sales. On the contrary there doesn’t
seem to be any substantial differences as regards their category, number
of beds, their type and the number of offered services. The analysis
proved that hotels that determine cost per customer category mainly use
activity based costing. This conclusion confirms the findings that appear
in literature that cost accounting can be effectively combined with the
profitability analysis of the customer (None and Griffin,1997;1999; Dunn
and Brooks,1990)
Hotels use standard cost accounting less frequently than other cost
accounting techniques, confirming Brignall (1997) findings that standard
cost accounting is more appropriate for manufacturing industries.
The study contributed to what is already known about cost
accounting practices in hospitality industry in Greece. In the future the
findings of this survey could be compared to Cost Accounting practices in
other countries. Also, the cost accounting systems of firms that use
activity based costing could be studied in depth in order to examine the
perceived benefits and problems from their implementation. Finally, the
use of cost accounting information (budgeting, decision making, and
performance evaluation) by hotel enterprises could also be examined, so
as to trace possible differences between firms that apply traditional and
ABC systems

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้นำเสนอผลการสำรวจในโรงแรมชั้นนำวิสาหกิจภาคเที่ยว ผลลัพธ์ของแบบสำรวจนี้กับวรรณคดีที่มีอยู่ในบัญชีเกี่ยวกับสูงระดับของต้นทุนคงที่ จริง ๆ สำหรับส่วนใหญ่ของโรงแรมที่เข้าร่วมในการศึกษานี้ (60%) ต้นทุนคงที่ประกอบด้วยมากกว่า 65% ของต้นทุนรวมนอกจากนี้ วิสาหกิจเหล่านี้เผชิญกับสัดส่วนค่าใช้จ่ายทางอ้อม(ค่าเฉลี่ยคือประมาณ 53%) การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่ารีสอร์ทเผชิญต้นทุนทางอ้อมสูงกว่าเมืองส่วนใหญ่ (88%) โรงแรมใช้ระบบ USALI ? ที่ส่วนใหญ่เป็นบุตรบุญธรรม โดยโรงแรมสมาชิกของห่วงโซ่ข้ามชาติ ของเขต ว่า ระบบสหรัฐฯ ใช้แหล่งที่มาของคำศัพท์จะดู (1995)รวมอยู่ในสัญญาการบริหารโรงแรมที่ยืนยันข้อตกลงค้นหาอื่นของการวิจัยว่าส่วนใหญ่ของโรงแรม (76,5%) ใช้ระบบบัญชีต้นทุนแบบดั้งเดิม ส่วนใหญ่ของพวกเขา (57,7%) ใช้งานการคำนวณต้นทุนและส่วนเหลือของพวกเขาใช้งานสั่งการคิดต้นทุน สั่งเป็นกระบวนการคิดต้นทุนเอบีซีแพร่ในอุตสาหกรรมในประเทศกรีซถือว่ามากพอ งานวิจัยนี้ได้รายงานอัตราการยอมรับสูงกว่าคนนำเสนอในการศึกษาก่อนหน้านี้ในอุตสาหกรรมพัก (ใต้ 2000) ของเราผลการวิจัยยืนยันก้าวเพิ่มของ ABC ยอมรับในประเทศกรีซในปัจจุบันปี (โคเฮนร้อยเอ็ดทั้งหมด 2005) ผลการสำรวจแสดงให้เห็นที่ส่วนใหญ่ระบบ ABC ในอุตสาหกรรมไม่มากเกินไปรายละเอียด พวกเขามีจำนวนเล็ก ๆ ของโปรแกรมควบคุมต้นทุน และคำนวณการต้นทุนของจำนวนกิจกรรมที่ส่วนใหญ่มีขนาดค่อนข้างเล็กทำความสะอาด เครื่อง/ออก การสำรอง การผลิต/บริการอาหารการจัดการทั่วไป และการตลาดผ่านระบบการบัญชีต้นทุน โรงแรมกำหนดต้นทุนต่อศูนย์ต้นทุนและกำไรและน้อยของพวกเขาต่อประเภทลูกค้า ห้องพักคืนและห้องพัก โรงแรมที่ทำตามระบบบัญชีต้นทุนแบบดั้งเดิมสำหรับต้นทุนในต้นทุนวัตถุ imputing ใช้เป็นพื้นฐาน imputing จำนวนขายและต้นทุนการทำงานโดยตรง ในขณะที่ใช้ใช้ ABCจำนวนห้องพักคืนและวันพัก ควรมีสังเกตว่า โรงแรมองค์กรส่วนใหญ่ใช้บัญชีต้นทุนปกติ นี้สรุปอยู่กับวรรณกรรมที่มีอยู่ ซึ่งรายงานว่า ปกติบัญชีต้นทุนเหมาะกับบริษัทที่เผชิญกับความผันผวนของปริมาณการผลิตการวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า รีสอร์ทใช้ปกติกว่าต้นทุนจริงบัญชีเพิ่มเติมบ่อย ๆ และนี้อาจเกิดจากข้อเท็จจริงที่พวกเขาเผชิญกับความผันผวนสูงในปริมาณการผลิตของพวกเขากว่าเมืองใช้ในการค้นพบของเรา ไม่ผู้รับบุตรบุญธรรมและผู้รับบุตรบุญธรรม ABC ปรากฏไม่ได้แตกต่างกันในแง่ของโครงสร้างต้นทุนและการขาย ดอก มีไม่ดูเหมือนจะ มีความแตกต่างใด ๆ พบเรื่องของประเภท หมายเลขเตียง ประเภท และจำนวนของการบริการที่นำเสนอ วิเคราะห์พิสูจน์ว่า โรงแรมที่กำหนดต้นทุนต่อลูกค้าประเภทส่วนใหญ่ใช้กิจกรรมการคิดต้นทุน บทสรุปนี้ยืนยันผลการวิจัยที่ปรากฏในเอกสารประกอบการ ลงบัญชีต้นทุนที่สามารถได้อย่างมีประสิทธิภาพรวมกับการวิเคราะห์การทำกำไรของลูกค้า (ไม่มี และกริ ฟฟอน 1997; 1999 ดันน์และ บรู๊คส์ 1990)โรงแรมใช้บัญชีต้นทุนมาตรฐานบ่อยที่น้อยกว่าต้นทุนอื่นบัญชีเทคนิค ยืนยัน Brignall (1997) พบว่ามาตรฐานบัญชีต้นทุนที่เหมาะสมสำหรับการอุตสาหกรรมการผลิตได้ส่วนการที่จะทราบเกี่ยวกับต้นทุนการศึกษาวิธีปฏิบัติทางบัญชีในอุตสาหกรรมในประเทศกรีซ ในอนาคตผลการวิจัยของแบบสำรวจนี้อาจเปรียบเทียบกับวิธีการบัญชีต้นทุนในประเทศอื่น ๆ ยัง ระบบบัญชีต้นทุนของบริษัทที่ใช้คิดต้นทุนกิจกรรมโดยอาจจะศึกษาลึกเพื่อตรวจสอบการรับรู้ประโยชน์และปัญหาจากการปฏิบัติการ ในที่สุด การใช้ข้อมูลทางบัญชีต้นทุน (งบประมาณ ตัดสินใจ และการประเมินประสิทธิภาพ) โดยโรงแรม องค์กรอาจยังสามารถตรวจสอบ เพื่อเป็นความแตกต่างได้ติดตามระหว่างบริษัทที่ใช้ดั้งเดิม และระบบ ABC

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้นำเสนอผลการสำรวจในโรงแรมชั้นนำผู้ประกอบการของภาคการบริการกรีก ผลที่ได้จากการสำรวจครั้งนี้มีความสอดคล้องกับวรรณกรรมที่มีอยู่ในโรงแรมในบัญชีเกี่ยวกับการสูงระดับของต้นทุนคงที่ อันที่จริงส่วนใหญ่ของโรงแรมที่เข้าร่วมในการศึกษานี้ (60%) ค่าใช้จ่ายคงที่ประกอบด้วยมากกว่า 65% ของค่าใช้จ่ายทั้งหมด. นอกจากนี้องค์กรเหล่านี้ต้องเผชิญกับสัดส่วนที่สูงของค่าใช้จ่ายทางอ้อม(ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 53%) การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่ารีสอร์ทเผชิญกับต้นทุนทางอ้อมที่สูงกว่าโรงแรมในเมือง. ส่วนใหญ่ของโรงแรม (88%) ไม่ได้ใช้ระบบ USALI? ที่ถูกนำมาใช้ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของเครือข่ายโรงแรมข้ามชาติ ฟิลด์(1995) มุมมองว่าระบบของสหรัฐอเมริกาใช้แหล่งที่มาของคำศัพท์ที่จะรวมอยู่ในสัญญาสัญญาบริหารโรงแรมได้รับการยืนยัน. ผลการวิจัยก็คือว่าส่วนใหญ่ของโรงแรม (76,5%) การใช้ค่าใช้จ่ายระบบบัญชีแบบดั้งเดิม ที่สุดของพวกเขา (57,7%) นำไปใช้งานเพื่อการคำนวณต้นทุนและส่วนที่เหลือของพวกเขาใช้ต้นทุนงานสั่งทำเช่นเดียวกับขั้นตอนการคิดต้นทุน. แพร่เบื้องต้นในอุตสาหกรรมการบริการในกรีซได้รับการยกย่องมากที่น่าพอใจ งานวิจัยนี้ได้รายงานอัตราการใช้สูงกว่าคนที่นำเสนอในการศึกษาก่อนหน้านี้ในอุตสาหกรรมที่พัก (Tai, 2000) เราค้นพบยืนยันก้าวที่เพิ่มขึ้นของการยอมรับเอบีซีในกรีซในเร็ว ๆ ปี (โคเฮนเอ. ทั้งหมด 2005) ผลการสำรวจที่แสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของระบบเอบีซีในอุตสาหกรรมการบริการไม่มากเกินไปรายละเอียดเช่นที่พวกเขารวมถึงจำนวนเล็กๆ ของคนขับรถค่าใช้จ่ายและการคำนวณค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนที่ค่อนข้างเล็กของกิจกรรมที่ส่วนใหญ่รวมถึงการดูแลตรวจสอบการเข้า/ ออก, การสำรองห้องพัก การผลิตอาหาร / บริการการตลาดและการบริหารงานทั่วไป. ผ่านค่าใช้จ่ายระบบบัญชีของพวกเขาโรงแรมตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่อกำไรและศูนย์ค่าใช้จ่ายและมากน้อยของพวกเขาแต่ละประเภทของลูกค้าห้องพักคืนและห้อง โรงแรมที่เป็นไปตามค่าใช้จ่ายระบบบัญชีแบบดั้งเดิมสำหรับ imputing ค่าใช้จ่ายค่าใช้จ่ายบนวัตถุที่ใช้เป็นพื้นฐาน imputing จำนวนยอดขายและค่าใช้จ่ายในการทำงานโดยตรงในขณะที่ผู้ที่ใช้เอบีซีใช้จำนวนห้องพักคืนและวันที่เข้าพักที่โรงแรม มันควรจะตั้งข้อสังเกตว่าผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ใช้การบัญชีต้นทุนปกติ ซึ่งข้อสรุปที่สอดคล้องกับวรรณกรรมที่มีอยู่ซึ่งรายงานว่าปกติการบัญชีต้นทุนเหมาะกับบริษัท หันหน้าไปทางความผันผวนของปริมาณการผลิต. การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่ารีสอร์ทใช้ปกติกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงบัญชีบ่อยครั้งมากขึ้นและอาจนำมาประกอบกับความจริงที่ว่าพวกเขาต้องเผชิญความผันผวนที่สูงขึ้นในปริมาณการผลิตของพวกเขามากกว่าโรงแรมในเมือง. อยู่ในผลการวิจัยของเรา adopters เอบีซีและ adopters ไม่ปรากฏไม่เป็นที่แตกต่างกันในแง่ของโครงสร้างต้นทุนและการขาย ในทางตรงกันข้ามมีไม่ดูเหมือนจะเป็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใด ๆ ที่เกี่ยวกับหมวดหมู่ของพวกเขาจำนวนเตียงชนิดและจำนวนของการบริการที่นำเสนอ การวิเคราะห์พิสูจน์ให้เห็นว่าโรงแรมที่เป็นตัวกำหนดค่าใช้จ่ายต่อประเภทของลูกค้าส่วนใหญ่ใช้กิจกรรมตามต้นทุน ข้อสรุปนี้ยืนยันผลการวิจัยที่ปรากฏในวรรณคดีที่ค่าใช้จ่ายทางบัญชีสามารถทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวิเคราะห์ผลกำไรของลูกค้า(None และกริฟฟิ 1997; 1999; ดันน์และบรูคส์1990) โรงแรมใช้บัญชีต้นทุนมาตรฐานน้อยกว่าค่าใช้จ่ายอื่น ๆเทคนิคการบัญชี ยืนยัน Brignall (1997) ผลการวิจัยที่มาตรฐานการบัญชีต้นทุนมีความเหมาะสมสำหรับการผลิตอุตสาหกรรม. การศึกษามีส่วนร่วมกับสิ่งที่เป็นที่รู้จักกันแล้วเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติทางบัญชีในอุตสาหกรรมการบริการในกรีซ ในอนาคตผลการสำรวจนี้อาจจะเทียบกับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติทางบัญชีในประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายระบบบัญชีของ บริษัท ที่ใช้กิจกรรมตามต้นทุนจะได้รับการศึกษาในเชิงลึกเพื่อที่จะตรวจสอบการรับรู้ประโยชน์และปัญหาจากการดำเนินงานของพวกเขา ในที่สุดการใช้ข้อมูลค่าใช้จ่ายทางบัญชี(การจัดทำงบประมาณการตัดสินใจและการประเมินผลการปฏิบัติงาน) โดยผู้ประกอบการโรงแรมอาจจะมีการตรวจสอบเพื่อที่จะติดตามความแตกต่างระหว่าง บริษัท ที่เป็นไปได้ที่ใช้แบบดั้งเดิมและระบบเอบีซี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษานี้ได้นำเสนอผลการสำรวจในโรงแรมชั้นนำ
วิสาหกิจของธุรกิจการต้อนรับของชาวกรีก ผลการสำรวจนี้
สอดคล้องกับวรรณกรรมที่มีอยู่ในโรงแรมการบัญชีเกี่ยวกับระดับ
ของต้นทุนคงที่ แน่นอน สำหรับส่วนใหญ่ของโรงแรมที่เข้าร่วม
ในการศึกษานี้ ( 60% ) ต้นทุนคงที่ประกอบด้วยมากกว่า 65% ของต้นทุนรวม
นอกจากนี้องค์กรเหล่านี้หน้าสัดส่วนของค่าใช้จ่ายทางอ้อม
( หมายถึงค่าประมาณ 53% ) การวิเคราะห์ทางสถิติพบว่า รีสอร์ทหน้าสูงกว่าต้นทุนทางอ้อมกว่า

พักเมือง ส่วนใหญ่ของโรงแรม ( 88 % ) ไม่ใช้ระบบ usali ? ที่
ส่วนใหญ่ที่รับรองโดยสมาชิกของกลุ่มโรงแรมข้ามชาติ สนามของ
( 1995 ) ดูว่าระบบที่เราใช้แหล่งที่มาของศัพท์ที่จะ
โรงแรมรวมในการจัดการสัญญาข้อตกลงยืนยัน .
อีกผลการวิจัยคือ ว่า ส่วนใหญ่ของโรงแรมที่พัก ( 76,5
% ) ใช้ระบบบัญชีต้นทุนแบบดั้งเดิม ที่สุดของพวกเขา ( 57,7 % ) ใช้งาน
สั่งทำและส่วนที่เหลือของพวกเขาใช้งานสั่งทำ ตลอดจนต้นทุนกระบวนการ
.
แพร่ ABC ในอุตสาหกรรมการบริการในกรีซถือเป็นอย่างมาก
น่าพอใจงานวิจัยนี้รายงานอัตราการใช้ที่สูงกว่าคน
นำเสนอในการศึกษาก่อนหน้านี้ในการเกษตรกรรม อุตสาหกรรม ( ใต้ , 2000 ) การค้นพบของเรา
ยืนยันเพิ่มก้าวของ ABC ยอมรับในกรีซในช่วง
ปี ( Cohen et ทั้งหมด , 2005 ) ผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าส่วนใหญ่ของ ABC
ระบบในอุตสาหกรรมการบริการไม่ได้มากเกินไป
รายละเอียดเช่นที่พวกเขามีจำนวนเล็ก ๆของไดรเวอร์ต้นทุนและคำนวณต้นทุนค่อนข้างเล็ก

จำนวนกิจกรรมที่ส่วนใหญ่รวมถึงแม่บ้าน , ตรวจสอบใน / ออก , การจอง , บริการผลิต / อาหาร

ผ่านการตลาดและบริหารงานทั่วไป ต้นทุนของระบบบัญชีโรงแรมศึกษาต้นทุนต่อ
ศูนย์กำไรและต้นทุน และมากน้อยของ พวกเขาตามประเภทลูกค้าคืนห้อง
และห้องพักโรงแรมที่ติดตาม
ระบบบัญชีต้นทุนแบบดั้งเดิมสำหรับ imputing ต้นทุนวัตถุต้นทุนใช้เป็น imputing พื้นฐานจำนวน
ขายและต้นทุนโดยตรงทำงานในขณะที่ผู้ใช้
จำนวนห้องคืนใช้ ABC และวันของการเข้าพักที่โรงแรม มันควรจะตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท ส่วนใหญ่ใช้
โรงแรมบัญชีต้นทุนปกติ ข้อสรุปนี้
เป็นไปตามวรรณกรรมที่มีอยู่ซึ่งรายงานบัญชีต้นทุนปกติ
พอดีบริษัทเผชิญความผันผวนของปริมาณการผลิต
ผลการวิเคราะห์ทางสถิติ พบว่า รีสอร์ทใช้ปกติกว่าต้นทุนจริง
บัญชีบ่อย และอาจจะเกิดจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเผชิญความผันผวนสูง
ในปริมาณการผลิตของพวกเขากว่าโรงแรมที่อยู่ในเมือง
ค้นพบ adopters , ABC และไม่ - ผู้รับบุตรบุญธรรมปรากฏไม่เป็น
ที่แตกต่างกันในแง่ของโครงสร้างต้นทุนและการขาย ในทางตรงกันข้ามมีไม่ได้
ดูเหมือนจะมีความแตกต่างอย่างมากเกี่ยวกับประเภทของพวกเขา หมายเลข
ของเตียงของพวกเขา ชนิดและจำนวนของการเสนอบริการ การวิเคราะห์
พิสูจน์ว่า โรงแรมที่ศึกษาต้นทุนต่อประเภท ลูกค้าส่วนใหญ่ใช้
ต้นทุนฐานกิจกรรม ข้อสรุปนี้ยืนยันผลที่ปรากฏ
ในวรรณคดีที่บัญชีต้นทุนสามารถรวมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
) การวิเคราะห์ลูกค้า ( ไม่มีและกริฟฟิน , 1997 ; 1999 ; และดัน

โรงแรมบรูค , 1990 ) ใช้มาตรฐานการบัญชีต้นทุนน้อยกว่าเทคนิคการบัญชีต้นทุน
อื่น ยืนยัน brignall ( 2540 ) พบว่า การบัญชีต้นทุนมาตรฐาน
เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม
ผลิตการศึกษาส่วนที่เป็นที่รู้จักกันแล้วเกี่ยวกับต้นทุน
วิธีปฏิบัติทางการบัญชีในอุตสาหกรรมการบริการในกรีซ ในอนาคต
ผลการสำรวจอาจเทียบต้นทุนวิธีการบัญชีใน
ประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายของ บริษัท ที่ใช้ระบบบัญชีต้นทุนตามกิจกรรม
สามารถศึกษาในเชิงลึก เพื่อศึกษา
การรับรู้ประโยชน์และปัญหาจากการ ในที่สุด ,
ใช้ข้อมูลบัญชีต้นทุน ( งบประมาณ การตัดสินใจ และการประเมินโดยองค์กร
) โรงแรมอาจจะมีการตรวจสอบ ดังนั้น
สามารถติดตามไปได้ความแตกต่างระหว่าง บริษัท ที่ใช้แบบดั้งเดิมและ
ระบบ ABC