-วัดมหาวนาราม-- วัดมหาวนาราม ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมืองอุบล แต่ชา การแปล - -วัดมหาวนาราม-- วัดมหาวนาราม ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมืองอุบล แต่ชา ไทย วิธีการพูด

-วัดมหาวนาราม-- วัดมหาวนาราม ตั้งอย

-วัดมหาวนาราม-
-



วัดมหาวนาราม ตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ อ.เมืองอุบล แต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดป่าใหญ่" เป็นวัดเก่าแก่ และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานี มีมูลเหตุการสร้าง คือ เมื่อพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานี คนแรก ได้ก่อสร้างเมืองอุบลราชธานี บริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูลนั้นเอง ตั้งชื่อว่า "วัดหลวง" เพื่อให้เป็นสถานที่ทำบุบำเพ็ญกุศลแก่ประชาชนทั่วไป วัดนี้จึงนับได้ว่าเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานี ภายหลังก่อสร้างวัดหลวงเสร็จแล้ว ได้นิมนต์ พระธรรมโชติวงศา ซึ่งเป็นพระมหาเถระ และพระภิกษุสามเณร มาอยู่จำพรรษา เพื่อสนองศรัทธาของประชาชน

แต่เมื่อพระมหาเถระได้เข้ามาอยู่จำพรรษาแล้ว เห็นว่า วัดนี้เป็นวัดบ้าน หรือ "ฝ่ายคามวาสี" ตั้งอยู่กลางใจเมือง ไม่เหมาะแก่การปฏิบัติสมณธรรมวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานใหม่ โดยพิจารณาเห็นว่า "ป่าดงอู่ผึ้ง" ห่างจากวัดหลวงไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เส้น มีหนองน้ำ ชื่อว่า หนองสะพัง เป็นสถานที่อันสงบวิเวก เหมาะแก่การตั้งเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน หรือ "ฝ่ายอรัญญาวาสี" จึงได้ก่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า "วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" เพื่อให้คู่กับวัดหลวง ซึ่งก่อตั้งขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่ทันได้ตั้งเป็นวัดให้เรียบร้อยสมบูรณ์ เจ้าเมือง คือ พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงเสียก่อน (พ.ศ.2338)


ต่อมา สมัยเจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ (ท้าวทิดพรหม) ได้มาก่อสร้างวิหารอาฮาม ในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ นี้ เมื่อ พ.ศ.2348 หลังจากนั้น อีก 2 ปี (พ.ศ.2350) ได้ยกฐานะเป็นวัด และให้ถือเป็นวัดประจำเจ้าเมืองคนที่สองด้วย ให้ชื่อว่า วัดป่าหลวงมณีโชติ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองตะพัง หรือ หนองสระพัง ตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียง (มีหลักฐานการสร้างวัดอยู่ที่ ศิลาจารึก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง ของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ระบุปีที่สร้างวัดนี้ ตรงกับ พ.ศ. 2350) โดยมีพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และเป็นผู้สร้างพระพุทธรูป "พระอินแปง" หรือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น วัดมหาวัน หรือ วัดป่าใหญ่ และได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง ตามสมัยนิยมเรียกว่า "วัดมหาวนาราม" แต่ความหมายของวัด ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คือ แปลว่า ป่าใหญ่ นั่นเอง

ปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัดนี้คือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน พร้อมกับลงรักปิดทอง ลักษณะศิลปะแบบลาว ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ3 เมตร สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 5 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตามตำนาน มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดอินทร์แปลงมหาวิหาร นครเวียงจันทร์ ประเทศลาว มีอายุประมาณ พันกว่าปี อีกองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดอินแปลง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม มีอายุพันกว่าปีเช่นเดียวกัน องค์สุดท้าย คือ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาวนาราม อำเภอเมือง อุบลราชธานี มีอายุประมาณสองร้อยกว่าปี ในวันเพ็ญเดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน) ของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดก และสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินแปลง ซึ่งถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีมาจนทุกวันนี้

ตามศิลาจารึกได้กล่าวไว้ว่าสร้างเมื่อจุลศักราชได้ 155 ตัว (พ.ศ.2335) ปีวอก เจ้าพระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ เจ้าเมืองอุบลราชธานี คนที่ 2 ขึ้นเสวย เมืองอุบลได้ 15 ปี จุลศักราชได้ 167 ตัว (พ.ศ.2348) ปีระกา จึงได้มาสร้างวิหารอารามในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ เพื่อให้เป็นที่บำเพ็ญแก่พระพุทธรูป จุลศักราชได้ 169 ตัว (พ.ศ. 2350) ปีเถาะ พระมาหราชครูศรีสัทธรรมวงศา เจ้าอาวาสรูปแรก จึงได้พาลูกศิษย์และศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย สร้างพระพุทธรูป “พระอินทร์แปง” และได้นำเอาดินทรายเข้าวัด เสร็จเมื่อเดือนเมษายน วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ วันอาทิตย์ ช่วงเวลาบ่าย 3 โมง ในนักขัตฤกษ์ 12 ราศีกันย์...ฯ

พระวิหารที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปง ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ท่านพระครูวิจิตรธรรมภานี (พวง ธมฺมทีโป) เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม (ป่าน้อย) เมื่อ พ.ศ. 2473 ย้ายจากการเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอวารินชำราบ มาเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอเมืองอุบล และพระครูนวกรรมโกวิท เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม องค์ที่ 8 ท่านทั้ง 2 ก็ได้นำศิษยานุศิษย์และชาวบ้านมาสร้างและมาซ่อยแซมพระวิหาร ซึ่งมีความยาว 24.41 เมตร กว้าง 14.41 เมตร มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงห์ หลังคามุงกระดานไม้แข็ง และมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค คือ แม่สุก โกศัลวัฒน์ 1,000 บาท หลวงวัฒน์วิตรวิบูลย์ (นาคโกศัลวัฒน์) พร้อมด้วยนางอึ่งผู้ภรรยา และคณาญาติร่วมบริจาค 1,000 บาท

สมัยพระครูนวกรรมโกวิท อดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม องค์ที่ 8 เป็นผู้ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากที่ทำให้วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นในด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านวิทยาการการศึกษา การก่อสร้าง แพทย์แผนโบราณแม้แต่การสวดมนต์พระคาถาต่างๆ ดังจะเห็นได้จากการสวดมนต์ไชยน้อยไชยใหญ่ ซึ่งเป็นการสวดพิเศษในพิธีการและในงานต่างๆ

วัดมหาวนารามในทุกวันนี้ ถือได้ว่าเป็นแหล่งวิชาการการศึกษาทุกระดับชั้น นักธรรม บาลี พระอภิธรรม ตัวธรรมใบลาน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน เผยแผ่ศีลธรรม ศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวัดอาทิตย์ ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด ตลอดจนถึงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตอุบลราชธานี เปิดสอนระดับปริญญาตรี ซึ่งมีพระเทพกิตติมุนีเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม องค์ที่ 9 เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนามาโดยตลอด จนถึงปัจจุบันนี้
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
-วัดมหาวนาราม-- วัดมหาวนารามตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์อ.เมืองอุบลแต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า "วัดป่าใหญ่" เป็นวัดเก่าแก่และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานีมีมูลเหตุการสร้างคือเมื่อพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรกได้ก่อสร้างเมืองอุบลราชธานีบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูลนั้นเองตั้งชื่อว่า "วัดหลวง" เพื่อให้เป็นสถานที่ทำบุบำเพ็ญกุศลแก่ประชาชนทั่วไปวัดนี้จึงนับได้ว่าเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานีภายหลังก่อสร้างวัดหลวงเสร็จแล้วได้นิมนต์พระธรรมโชติวงศาซึ่งเป็นพระมหาเถระและพระภิกษุสามเณรมาอยู่จำพรรษาเพื่อสนองศรัทธาของประชาชน แต่เมื่อพระมหาเถระได้เข้ามาอยู่จำพรรษาแล้ว เห็นว่า วัดนี้เป็นวัดบ้าน หรือ "ฝ่ายคามวาสี" ตั้งอยู่กลางใจเมือง ไม่เหมาะแก่การปฏิบัติสมณธรรมวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานใหม่ โดยพิจารณาเห็นว่า "ป่าดงอู่ผึ้ง" ห่างจากวัดหลวงไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เส้น มีหนองน้ำ ชื่อว่า หนองสะพัง เป็นสถานที่อันสงบวิเวก เหมาะแก่การตั้งเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน หรือ "ฝ่ายอรัญญาวาสี" จึงได้ก่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า "วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" เพื่อให้คู่กับวัดหลวง ซึ่งก่อตั้งขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่ทันได้ตั้งเป็นวัดให้เรียบร้อยสมบูรณ์ เจ้าเมือง คือ พระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงเสียก่อน (พ.ศ.2338) ต่อมา สมัยเจ้าเมืองคนที่ 2 คือ พระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ (ท้าวทิดพรหม) ได้มาก่อสร้างวิหารอาฮาม ในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ นี้ เมื่อ พ.ศ.2348 หลังจากนั้น อีก 2 ปี (พ.ศ.2350) ได้ยกฐานะเป็นวัด และให้ถือเป็นวัดประจำเจ้าเมืองคนที่สองด้วย ให้ชื่อว่า วัดป่าหลวงมณีโชติ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองตะพัง หรือ หนองสระพัง ตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียง (มีหลักฐานการสร้างวัดอยู่ที่ ศิลาจารึก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลัง ของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ระบุปีที่สร้างวัดนี้ ตรงกับ พ.ศ. 2350) โดยมีพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และเป็นผู้สร้างพระพุทธรูป "พระอินแปง" หรือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่ เป็น วัดมหาวัน หรือ วัดป่าใหญ่ และได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้ง ตามสมัยนิยมเรียกว่า "วัดมหาวนาราม" แต่ความหมายของวัด ก็ยังคงเป็นเช่นเดิม คือ แปลว่า ป่าใหญ่ นั่นเอง ปูชนียวัตถุที่สำคัญของวัดนี้คือ พระเจ้าใหญ่อินแปลง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ก่ออิฐถือปูน พร้อมกับลงรักปิดทอง ลักษณะศิลปะแบบลาว ขนาดหน้าตักกว้างประมาณ3 เมตร สูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระโมลี 5 เมตร ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งตามตำนาน มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดอินทร์แปลงมหาวิหาร นครเวียงจันทร์ ประเทศลาว มีอายุประมาณ พันกว่าปี อีกองค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดอินแปลง อำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม มีอายุพันกว่าปีเช่นเดียวกัน องค์สุดท้าย คือ พระเจ้าใหญ่อินทร์แปลง ประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาวนาราม อำเภอเมือง อุบลราชธานี มีอายุประมาณสองร้อยกว่าปี ในวันเพ็ญเดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน) ของทุกปี จะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดก และสรงน้ำปิดทองพระเจ้าใหญ่อินแปลง ซึ่งถือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีมาจนทุกวันนี้ ตามศิลาจารึกได้กล่าวไว้ว่าสร้างเมื่อจุลศักราชได้ 155 ตัว (พ.ศ.2335) ปีวอกเจ้าพระพรหมวรราชสุริยะวงศ์เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่ 2 ขึ้นเสวยเมืองอุบลได้ 15 ปีจุลศักราชได้ 167 ตัว (พ.ศ.2348) ปีระกาจึงได้มาสร้างวิหารอารามในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์เพื่อให้เป็นที่บำเพ็ญแก่พระพุทธรูปจุลศักราชได้ 169 ตัว (พ.ศ. 2350) ปีเถาะพระมาหราชครูศรีสัทธรรมวงศาเจ้าอาวาสรูปแรกจึงได้พาลูกศิษย์และศิษยานุศิษย์ทั้งหลายสร้างพระพุทธรูป "พระอินทร์แปง" และได้นำเอาดินทรายเข้าวัดเสร็จเมื่อเดือนเมษายนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำวันอาทิตย์ช่วงเวลาบ่าย 3 โมงในนักขัตฤกษ์ 12 ราศีกันย์... ฯ พระวิหารที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปง ที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ท่านพระครูวิจิตรธรรมภานี (พวง ธมฺมทีโป) เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม (ป่าน้อย) เมื่อ พ.ศ. 2473 ย้ายจากการเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอวารินชำราบ มาเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอเมืองอุบล และพระครูนวกรรมโกวิท เจ้าอาวาสวัดมหาวนาราม องค์ที่ 8 ท่านทั้ง 2 ก็ได้นำศิษยานุศิษย์และชาวบ้านมาสร้างและมาซ่อยแซมพระวิหาร ซึ่งมีความยาว 24.41 เมตร กว้าง 14.41 เมตร มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงห์ หลังคามุงกระดานไม้แข็ง และมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค คือ แม่สุก โกศัลวัฒน์ 1,000 บาท หลวงวัฒน์วิตรวิบูลย์ (นาคโกศัลวัฒน์) พร้อมด้วยนางอึ่งผู้ภรรยา และคณาญาติร่วมบริจาค 1,000 บาท สมัยพระครูนวกรรมโกวิทอดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวนารามองค์ที่ 8 เป็นผู้ที่มีบทบาทเป็นอย่างมากที่ทำให้วัดแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นในด้านศิลปวัฒนธรรมด้านวิทยาการการศึกษาการก่อสร้างแพทย์แผนโบราณแม้แต่การสวดมนต์พระคาถาต่าง ๆ ดังจะเห็นได้จากการสวดมนต์ไชยน้อยไชยใหญ่ซึ่งเป็นการสวดพิเศษในพิธีการและในงานต่าง ๆ วัดมหาวนารามในทุกวันนี้ถือได้ว่าเป็นแหล่งวิชาการการศึกษาทุกระดับชั้นนักธรรมบาลีพระอภิธรรมตัวธรรมใบลานอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานเผยแผ่ศีลธรรมศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวัดอาทิตย์ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัดตลอดจนถึงมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตอุบลราชธานีเปิดสอนระดับปริญญาตรีซึ่งมีพระเทพกิตติมุนีเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานีเจ้าอาวาสวัดมหาวนารามองค์ที่ 9 เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนามาโดยตลอดจนถึงปัจจุบันนี้
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
- วัดมหาวนาราม -
- . วัดมหาวนารามตั้งอยู่บนถนนสรรพ สิทธิ์อเมืองอุบล "วัดป่าใหญ่" เป็นวัดเก่าแก่ มีมูลเหตุการสร้างคือเมื่อพระ ปทุมวรราชสุริยวงศ์ (ท้าวคำผง) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรกได้ก่อสร้างเมือง อุบลราชธานีบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งชื่อว่า "วัดหลวง" ภายหลังก่อสร้างวัดหลวงเสร็จแล้วได้นิมนต์พระ ธรรมโชติวงศาซึ่งเป็นพระมหาเถระและพระภิกษุสามเณรมาอยู่จำพรรษา เห็นว่าวัดนี้เป็นวัดบ้านหรือ "ฝ่ายคามวาสี" ตั้งอยู่กลางใจเมือง โดยพิจารณาเห็นว่า "ป่าดงอู่ผึ้ง" ห่างจากวัดหลวงไปทางทิศเหนือประมาณ 100 เส้นมีหนองน้ำชื่อว่าหนองสะพังเป็น สถานที่อันสงบวิเวก หรือ "ฝ่ายอรัญญาวาสี" "วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์" เพื่อให้คู่กับวัดหลวงซึ่งก่อตั้งขึ้น ก่อนแล้วนั้น เจ้าเมืองคือพระปทุมวรราชสุริย วงศ์ (ท้าวคำผง) ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงเสียก่อน ( พ.ศ. 2338) ต่อมาสมัยเจ้าเมืองคนที่ 2 คือพระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ (ท้าวทิดพรหม) ได้มาก่อสร้างวิหาร อาฮามในวัดป่าหลวงมณี โชติศรีสวัสดิ์นี้เมื่อ พ.ศ. 2348 หลังจากนั้นอีก 2 ปี ( พ.ศ. 2350) ได้ยกฐานะเป็นวัด ให้ชื่อว่าวัดป่าหลวงมณีโชติ แต่ ชาวบ้านเรียกว่าวัดหนองตะพังหรือหนองสระพังตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียง (มีหลักฐานการสร้างวัดอยู่ที่ศิลา จารึกซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงระบุปีที่ สร้างวัดนี้ตรงกับ พ.ศ. 2350) โดยมีพระมหาราชครูศรีสัทธรรมวงศา เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกและเป็นผู้สร้างพระพุทธรูป "พระอินแปง" หรือพระเจ้าใหญ่อินแปลงต่อมาได้ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นวัดมหาวัน หรือวัดป่าใหญ่และได้เปลี่ยนชื่อ อีกครั้งตามสมัยนิยมเรียกว่า "วัดมหาวนาราม" แต่ความหมายของวัดก็ยังคง เป็นเช่นเดิมคือแปลว่าป่าใหญ่ พระเจ้าใหญ่อินแปลงเป็นพระพุทธรูปปาง มารวิชัยก่ออิฐถือปูนพร้อมกับลงรักปิดทองลักษณะศิลปะแบบลาวขนาดหน้าตักกว้างประมาณ 3 เมตรสูงจากเรือนแท่นถึงเปลวพระ โมลี 5 เมตร ของจังหวัดอุบลราชธานีซึ่งตามตำนานมีเรื่อง เล่าขานต่อ ๆ กันมาว่ามีอยู่ด้วยกัน 3 องค์ นครเวียงจันทร์ประเทศลาวมีอายุประมาณพัน กว่าปี อำเภอเมืองนครพนมจังหวัดนครพนมมีอายุพันกว่า ปีเช่นเดียวกันองค์สุดท้ายคือพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงประดิษฐานอยู่ที่วัดมหาวนารามอำเภอเมืองอุบลราชธานีมีอายุประมาณสองร้อยกว่าปีในวันเพ็ญเดือน 5 (ประมาณเดือนเมษายน) ของทุกปีจะมีการทำบุญตักบาตร เทศน์มหาชาติชาดกและสรงน้ำปิดทอง พระเจ้าใหญ่อินแปลง 155 ตัว ( พ.ศ. 2335) ปีวอกเจ้าพระพรหมวรราชสุริยะ วงศ์เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนที่ 2 ขึ้นเสวยเมืองอุบลได้ 15 ปีจุลศักราชได้ 167 ตัว ( พ.ศ. 2348) ปีระกา จุลศักราชได้ 169 ตัว ( พ.ศ. 2350) ปีเถาะพระมาหราชครูศรีสัทธรรม วงศาเจ้าอาวาสรูปแรก สร้างพระพุทธรูป "พระอินทร์แปง" และได้นำเอาดินทรายเข้าวัด เสร็จเมื่อเดือนเมษายนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำวันอาทิตย์ช่วงเวลาบ่าย 3 โมงในนักขัตฤกษ์ 12 (พวง ธ มฺมทีโป) เจ้าอาวาสวัดมณีวนาราม (ป่าน้อย) เมื่อ พ.ศ. 2473 มาเป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอเมืองอุบลและ พระครูนวกรรมโกวิทเจ้าอาวาสวัดมหาวนารามองค์ที่ 8 ท่านทั้ง 2 ซึ่งมีความยาว 24.41 เมตรกว้าง 14.41 เมตรมีช่อฟ้าใบระกาหางหงห์หลังคา มุงกระดานไม้แข็งและมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคคือแม่สุกโกศัลวัฒน์ 1,000 บาทหลวงวัฒน์วิตร วิบูลย์ (นาคโกศัลวั ฒน์) พร้อมด้วยนางอึ่งผู้ภรรยาและค ณาญาติร่วมบริจาค 1,000 บาทสมัยพระครูนวกรรมโกวิทในปัจจุบันอดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวนารามองค์ที่ 8 ด้านวิทยาการการศึกษาการก่อสร้าง นักธรรมบาลีพระอภิธรรมตัวธรรมใบลาน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานเผยแผ่ศีลธรรมศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาวัดอาทิตย์ศูนย์อบรมเด็กก่อนเกณฑ์ในวัด เปิดสอนระดับปริญญาตรี เจ้าอาวาสวัดมหาวนารามองค์ที่ 9 เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนามาโดย ตลอดจนถึงปัจจุบันนี้


















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
- วัดมหาวนาราม --วัดมหาวนารามตั้งอยู่บนถนนสรรพสิทธิ์ Admiral เมืองอุบลแต่ชาวบ้านนิยมเรียกกันโดยทั่วไปว่า " วัดป่าใหญ่ " เป็นวัดเก่าแก่และถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอุบลราชธานีมีมูลเหตุการสร้างความเมื่อพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ ( ท้าวคำผง ) เจ้าเมืองอุบลราชธานีคนแรกได้ก่อสร้างเ มืองอุบลราชธานีบริเวณริมฝั่งแม่น้ำมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้ก่อสร้างวัดขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำมูลนั้นเองตั้งชื่อว่า " วัดหลวง " เพื่อให้เป็นสถานที่ทำบุบำเพ็ญกุศลแก่ประชาชนทั่วไปวัดนี้จึงนับได้ว่าเป็นวัดแรกของเมืองอุบลราชธานีภายหลังก่อสร้างวัดหลวงเสร็จแ ล้วได้นิมนต์พระธรรมโชติวงศาซึ่งเป็นพระมหาเถระและพระภิกษุสามเณรมาอยู่จำพรรษาเพื่อสนองศรัทธาของประชาชนแต่เมื่อพระมหาเถระได้เข้ามาอยู่จำพรรษาแล้วเห็นว่าวัดนี้เป็นวัดบ้านค็อค " ฝ่ายคามวาสี " ตั้งอยู่กลางใจเมืองไม่เหมาะแก่การปฏิบัติสมณธรรมวิปัสสนากรรมฐานจึงได้แสวงหาสถานที่ปฏิบัติธรรมเจริญวิปัสสนากรรมฐานใหม่โดยพิจารณาเห็นว่า " ป่าดงอู่ผึ้ง " ห่างจากวัดหลวงไปทาง ทิศเหนือประมาณ 100 เส้นมีหนองน้ำชื่อว่าหนองสะพังเป็นสถานที่อันสงบวิเวกเหมาะแก่การตั้งเป็นสำนักสงฆ์ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐานค็อค " ฝ่ายอรัญญาวาสี " จึงได้ก่อตั้งขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ชื่อว่า " วัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์ " เพื่อให้คู่กับวัดหลวงซึ่งก่อตั้งขึ้นก่อนแล้วนั้น แต่ก็ยังไม่ทันได้ตั้งเป็นวัดให้เรียบร้อยสมบูรณ์เจ้าเมืองความพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ ( ท้าวคำผง ) ก็ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงเสียก่อน ( พ . ศ . 2338 )ต่อมาสมัยเจ้าเมืองคนที่ 2 ความพระพรหมวรราชสุริยะวงศ์ ( ท้าวทิดพรหม ) ได้มาก่อสร้างวิหารอาฮามในวัดป่าหลวงมณีโชติศรีสวัสดิ์นี้เมื่อพ . ศ . 333 หลังจากนั้นอีก 2 . ( พ . ศ . 1 ) ได้ยกฐานะเป็นวัดและให้ถือเป็นวัดประจำเจ้าเมืองคนที่สองด้วยให้ชื่อว่าวัดป่าหลวงมณีโชติแต่ชาวบ้านเรี ยกว่าวัดหนองตะพังค็อคหนองสระพังตามชื่อหนองน้ำที่อยู่ใกล้เคียง ( มีหลักฐานการสร้างวัดอยู่ที่ศิลาจารึกซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของพระเจ้าใหญ่อินทร์แปลงระบุปีที่สร้างวัดนี้ตรงกับพ . ศ . 1 )
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: