6. Conclusions, limitations and sug

6. Conclusions, limitations and suggestions for future research
This paper has examined the influence of personal attributes, organizational ethics position and other factors which were rules conformance, active participation in profession activities, ethics instructions received and understanding of the professional code of conduct on the Malaysian accountants’ judgment on questionable ethical scenarios. A total of 250 were distributed to accountants registered with the Malaysian Institute of Accountants. Of this number, 221 questionnaires were duly completed and returned. The main findings revealed from the analysis are that age, corporate ethics position, active participation in the profession activities and understanding of the professional code of conduct are significant

influence of accountants’ judgments on ethical situations. Older accountants, corporations with higher ethics scale and accountants who understand the professional code of conduct are expected to be stricter in judging questionable ethical situations. In contrast, accountants who actively participate in the profession activities tend to be more acceptable to questionable scenarios. The results support Kohlberg’s (1973, 1981) theory of moral development which suggests that as individuals aged, their decision-makings will be influenced by ethical values. The findings also provide support to Hunt and Vitell’s (1986) model which proposes that organizational ethical climate is one of the environmental factors affecting ethical judgments.

When the vignettes are separated into illegal and legal situations, the results appear to be similar. Gender, professional qualifications and rules conformance remain insignificant in both models. Age and understanding of the professional code of conduct are statistically significant at the 1 percent and (marginally) 10 percent levels respectively in both models. The only inconsistent results are regarding corporate ethics scale which is statistically significant at the 5 percent level in the illegal vignettes but only marginally significant at the 10 percent level in the legal vignettes, active involvement in the profession activities which is significant at the 5 percent level in the illegal vignettes but more significant at the 1 percent level in the legal vignettes and ethics instruction received which is not significant in the illegal vignettes but marginally significant at the 10 percent level in the legal vignettes. It would appear that ethics instruction received may have some positive impact on ethical judgments only in legal situations. Overall, it may be concluded that factors influencing accountants’ ethical judgments are not dependent upon the legality of the situations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6. สรุปข้อ จำกัด
และข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคตกระดาษนี้จะมีการตรวจสอบในอิทธิพลของคุณลักษณะส่วนบุคคลตำแหน่งจริยธรรมขององค์กรและปัจจัยอื่นๆ ที่มีกฎระเบียบที่สอดคล้องการมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาชีพคำแนะนำจริยธรรมที่ได้รับและความเข้าใจของรหัสที่เป็นมืออาชีพของการดำเนินการใน คำพิพากษาบัญชีมาเลเซียในวันที่สถานการณ์ทางจริยธรรมที่น่าสงสัย รวม 250 ถูกแจกจ่ายไปยังบัญชีจดทะเบียนกับสถาบันมาเลเซียบัญชี ในจำนวนนี้ 221 แบบสอบถามเสร็จรับรองสำเนาถูกต้องและกลับ ndings สายหลักเปิดเผยจากการวิเคราะห์ที่อายุตำแหน่งจริยธรรมขององค์กรมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางวิชาชีพและความเข้าใจของรหัสที่เป็นมืออาชีพของการดำเนินการมีความลาดเทมีนัยสำคัญในuence ชั้นของการตัดสินบัญชีเกี่ยวกับสถานการณ์ทางจริยธรรม บัญชีที่เก่ากว่า บริษัท ที่มีขนาดจริยธรรมและบัญชีสูงกว่าที่เข้าใจรหัสมืออาชีพของการดำเนินการที่คาดว่าจะเข้มงวดในการตัดสินทางจริยธรรมสถานการณ์ที่น่าสงสัย ในทางตรงกันข้ามการบัญชีที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมอาชีพที่มีแนวโน้มที่จะได้รับการยอมรับมากขึ้นในสถานการณ์ที่น่าสงสัย ผลการสนับสนุนของโคลเบิร์ก (1973, 1981) ทฤษฎีของการพัฒนาทางศีลธรรมซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลที่อายุ, เงินเดือนของพวกเขาตัดสินใจที่จะอยู่ในชั้น uenced โดยค่านิยมทางจริยธรรม สาย ndings ยังให้การสนับสนุนในการล่าและ Vitell ของ (1986) รูปแบบที่เสนอว่าสภาพภูมิอากาศทางจริยธรรมขององค์กรที่เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตัดสินจริยธรรม. เมื่อสะเปะสะปะจะถูกแยกออกเป็นสถานการณ์ที่ผิดกฎหมายและถูกกฎหมายผลที่ปรากฏจะคล้ายกัน เพศ, ไพเพอร์มืออาชีพสาย quali และกฎระเบียบยังคงสอดคล้องลาดเทสาย insigni ในทั้งสองรุ่น อายุและความเข้าใจของรหัสที่เป็นมืออาชีพของการดำเนินการที่มีนัยสำคัญทางสถิติไฟลาดเทที่ร้อยละ 1 และ (เล็กน้อย) ระดับร้อยละ 10 ตามลำดับในทั้งสองรุ่น ผลที่ไม่สอดคล้องกันเพียง แต่เกี่ยวกับจริยธรรมขององค์กรขนาดซึ่งเป็นลาดเทมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับร้อยละ 5 ในสะเปะสะปะที่ผิดกฎหมาย แต่ลาดเท Fi เท่านั้นนัยสำคัญเล็กน้อยที่ระดับร้อยละ 10 ในสะเปะสะปะทางกฎหมาย, มีส่วนร่วมในกิจกรรมอาชีพซึ่งเป็นที่ลาดเทมีนัยสำคัญที่ระดับร้อยละ 5 ในสะเปะสะปะที่ผิดกฎหมาย แต่ลาดเทมีนัยสำคัญมากขึ้นในระดับร้อยละ 1 ในสะเปะสะปะทางกฎหมายและจริยธรรมการเรียนการสอนที่ได้รับซึ่งไม่ลาดเทมีนัยสำคัญในสะเปะสะปะที่ผิดกฎหมาย แต่ลาดเทเล็กน้อยมีนัยสำคัญที่ระดับร้อยละ 10 ในสะเปะสะปะทางกฎหมาย ก็ปรากฏว่าได้รับการเรียนการสอนจริยธรรมอาจจะมีบางอย่างที่ส่งผลดีต่อการตัดสินทางจริยธรรมเฉพาะในสถานการณ์ทางกฎหมาย โดยรวมก็อาจจะสรุปได้ว่าปัจจัยในการบัญชีชั้น uencing 'ตัดสินจริยธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับความถูกต้องตามกฎหมายในสถานการณ์ที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6 . สรุป ข้อจำกัดและข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต
กระดาษนี้มีการตรวจสอบในfl uence ลักษณะส่วนบุคคล ตำแหน่งจริยธรรมองค์การและปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งกฎดังกล่าว การมีส่วนร่วมที่ใช้งานในกิจกรรมอาชีพคําแนะนําการใช้จริยธรรมและได้รับความเข้าใจของจรรยาบรรณวิชาชีพในการตัดสินนักบัญชี ' มาเลเซียเกี่ยวกับสถานการณ์ทางจริยธรรมที่น่าสงสัย ผลรวมของ 250 ได้แจกจ่ายให้กับผู้ทำบัญชีที่ขึ้นทะเบียนกับสถาบันบัญชี จำนวน 221 คนมีกำหนดแล้วเสร็จและส่งกลับ การ ndings จึงหลักพบจากการวิเคราะห์อายุองค์กรจริยธรรมตําแหน่ง มีส่วนร่วมในกิจกรรม และความเข้าใจในวิชาชีพจรรยาบรรณวิชาชีพ มี signi จึงไม่สามารถ

ในfl uence คำพิพากษาของนักบัญชีในสถานการณ์เชิงจริยธรรม บัญชีเก่าองค์กรที่มีขนาดสูงกว่าและนักบัญชีที่เข้าใจจริยธรรมจรรยาบรรณวิชาชีพ ที่คาดว่าจะเข้มงวดในการพิจารณาสถานการณ์ทางจริยธรรมที่น่าสงสัย ในทางตรงกันข้าม นักบัญชี ผู้เข้าร่วมในกิจกรรมอาชีพมีแนวโน้มที่จะยอมรับได้ในสถานการณ์ที่น่าสงสัย ผลการสนับสนุน โคห์ลเบิร์ก ( 1973 ,1981 ) ทฤษฎีพัฒนาการทางจริยธรรมเชิงซึ่งแสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลอายุ ก็การตัดสินใจของพวกเขาจะอยู่ในfl uenced โดยค่านิยมเชิงจริยธรรม จึง ndings ยังให้การสนับสนุนการล่าและ vitell ( 1986 ) รุ่นที่เสนอว่าองค์การบรรยากาศจริยธรรมเป็นหนึ่งของสิ่งแวดล้อม ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินจริยธรรม

เมื่อพบจะถูกแยกออกเป็นผิดกฎหมายและถูกกฎหมาย สถานการณ์ผลที่ปรากฏจะคล้ายกัน เพศ อาชีพ และกฎที่ทำให้ quali จึงยังคง insigni จึงไม่สามารถในทั้งสองรุ่น อายุและความเข้าใจเกี่ยวกับจรรยาบรรณวิชาชีพ ผลการวิจัยพบว่า signi จึงไม่สามารถที่ 1 เปอร์เซ็นต์ ( เล็กน้อย ) 10 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ทั้งในรูปแบบแต่ไม่ได้ผล เกี่ยวกับจริยธรรมขององค์กร ) ซึ่งตามสถิติ signi จึงไม่สามารถที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ในระดับ พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่เพียงเล็กน้อย signi จึงไม่สามารถที่ 10 ร้อยละใน vignettes ทางกฎหมายงานมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอาชีพ signi จึงไม่สามารถที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ในระดับ พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ signi มากขึ้นจึงไม่ได้ที่ 1 ร้อยละในทางกฎหมายและจริยธรรมได้รับการพบซึ่งไม่ signi จึงไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ใน signi เล็กน้อยจึงไม่สามารถที่ 10 ร้อยละใน vignettes ทางกฎหมายปรากฎว่า จริยธรรม การเรียนการสอนที่ได้รับอาจมีผลกระทบเชิงบวกต่อการตัดสินทางจริยธรรมเพียงในสถานการณ์ทางกฎหมาย โดยรวม , มันอาจจะสรุปได้ว่า ปัจจัยในfl uencing นักบัญชี ' จริยธรรมการตัดสินไม่ได้ขึ้นอยู่กับความถูกต้องของสถานการณ์