While open door policies intend to

While open door policies intend to encourage and instill a sense of transparency and openness, some employees hesitate to speak their mind or be honest, for fear of intimidation, criticism, and censure. Management personnel may tend to communicate the willingness to hear suggestions, while belittling the suggestions when unaccompanied by solutions.

Open door policies have also been seen as a way for companies to discourage the formation of labor unions. Formal, written policies may encourage openness, however, the response received in attempts to engage are often seen as threats to the authority or management style of the individual working in a supervisory or management capacity.[4] The policy, in essence, allows employees to forgo meeting with their immediate supervisors, choosing rather to engage in communication with their senior managers to discuss their employment or personal issues.

A process of open communication and transparency allows employees to bypass their supervisors to engage with senior management. This may inadvertently lead to tension and strife between employees and middle management. Supervisors may either see this as an implication that they are the primary issue of concern, or they may feel threatened, suspecting the employee of undermining him in an attempt to cause problems between him and senior management.[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่ประตูเปิดนโยบายตั้งใจจะส่งเสริม และปลูกฝังความรู้สึกของความโปร่งใสและการเปิดรับ พนักงานบางคนลังเล ไปพูดจะซื่อสัตย์ for fear of ข่มขู่ วิจารณ์ และตำหนิ ผู้บริหารอาจมีแนวโน้มความตั้งใจฟังคำแนะนำ ในขณะที่ belittling คำแนะนำเมื่อไม่มีผู้ โดยโซลูชั่นการสื่อสารนโยบายเปิดประตูได้แล้วเห็นเป็นแบบสำหรับบริษัทเพื่อจัดตั้งสหภาพแรงงาน อย่างเป็นทางการ เขียนนโยบายสนับสนุนอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม การตอบรับในความพยายามที่จะมีส่วนร่วมมักจะเห็นเป็นภัยคุกคามลักษณะหน่วยงานหรือการจัดการของแต่ละงานในกำลังประกาศหรือจัดการ [4] นโยบาย สาระสำคัญ ให้พนักงานคาราโอเกะกับหัวของพวกเขาทันที แต่ต้องการมีส่วนร่วมในการสื่อสารกับผู้บริหารอาวุโสเพื่อหารือเกี่ยวกับงานหรือปัญหาส่วนบุคคลของพวกเขากระบวนการสื่อสารเปิดและความโปร่งใสให้พนักงานการข้ามผู้บังคับบัญชาของตนเพื่อการมีส่วนร่วมกับผู้บริหาร นี้ไม่ได้ตั้งใจอาจทำให้ความตึงเครียดและการปะทะกันระหว่างพนักงานและจัดการกลาง ผู้บังคับบัญชาอาจจะเห็นว่าเป็นปริยายว่า จะกังวลเรื่องหลัก หรือพวกเขาอาจรู้สึกคาม suspecting พนักงานของบั่นทอนเขาในความพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างเขาและผู้บริหารระดับสูง [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่นโยบายเปิดประตูตั้งใจที่จะส่งเสริมและปลูกฝังความรู้สึกของความโปร่งใสและการเปิดกว้าง, พนักงานบางคนลังเลที่จะพูดความคิดของพวกเขาหรือจะซื่อสัตย์เพราะกลัวการข่มขู่วิจารณ์และตำหนิ ผู้บริหารอาจมีแนวโน้มที่จะสื่อสารความเต็มใจที่จะฟังคำแนะนำในขณะที่ดูแคลนข้อเสนอแนะเมื่อคนเดียวโดยการแก้ปัญหา. เปิดนโยบายประตูยังได้รับการมองว่าเป็นวิธีการที่ บริษัท จะกีดกันการก่อตัวของสหภาพแรงงาน อย่างเป็นทางการและนโยบายที่เขียนอาจกระตุ้นให้เปิดกว้าง แต่การตอบสนองที่ได้รับในความพยายามที่จะมีส่วนร่วมมักจะเห็นเป็นภัยคุกคามต่อผู้มีอำนาจหรือรูปแบบการจัดการของการทำงานของแต่ละบุคคลในฐานะที่กำกับดูแลหรือผู้บริหาร. [4] นโยบายในสาระสำคัญช่วยให้พนักงาน ที่จะสละการประชุมกับผู้บังคับบัญชาของพวกเขาทันทีเลือกมากกว่าที่จะมีส่วนร่วมในการสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูงของพวกเขาเพื่อหารือเกี่ยวกับการจ้างงานหรือปัญหาส่วนตัวของพวกเขา. กระบวนการของการสื่อสารที่เปิดกว้างและโปร่งใสช่วยให้พนักงานที่จะหลีกเลี่ยงผู้บังคับบัญชาของพวกเขามีส่วนร่วมกับผู้บริหารระดับสูง โดยไม่ได้ตั้งใจนี้อาจนำไปสู่ความตึงเครียดและการปะทะกันระหว่างพนักงานและผู้บริหารระดับกลาง ผู้บังคับบัญชาทั้งอาจเห็นนี้เป็นความหมายว่าพวกเขาเป็นปัญหาหลักของความกังวลหรือพวกเขาอาจรู้สึกว่าถูกคุกคามสงสัยของพนักงานของการลอบทำลายเขาในความพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างเขาและผู้บริหารระดับสูง. [3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในขณะที่นโยบาย เปิด ประตู ตั้งใจที่จะส่งเสริมและปลูกฝังความรู้สึกของความโปร่งใสและเปิดเผย พนักงานบางคนลังเลที่จะพูดจิตใจของพวกเขาหรือตรงๆ กลัวการข่มขู่ , การวิจารณ์และตำหนิ . การจัดการบุคลากรอาจมีแนวโน้มที่จะสื่อสารความตั้งใจที่จะได้ยินคำแนะนำในขณะที่ดูถูกข้อเสนอแนะเมื่อไม่มีผู้ไปด้วย

โดยโซลูชั่นนโยบาย เปิด ประตู ยังถูกมองว่าเป็นวิธีสำหรับ บริษัท ที่จะกีดกันการจัดตั้งสหภาพแรงงาน เป็นทางการ เขียนนโยบายกระตุ้นการเปิดกว้าง อย่างไรก็ตาม การตอบสนองที่ได้รับในความพยายามที่จะต่อสู้ มักจะเห็นเป็นภัยคุกคามต่ออำนาจหรือรูปแบบการจัดการของการทำงานแต่ละความสามารถในการนิเทศหรือการจัดการ [ 4 ] นโยบาย ในสาระช่วยให้พนักงานที่จะละเลยประชุมกับผู้บังคับบัญชาของตนทันที เลือกที่จะมีส่วนร่วมในการสื่อสารกับผู้จัดการอาวุโสของพวกเขาเพื่อหารือเกี่ยวกับการจ้างงานหรือปัญหาส่วนตัวของพวกเขา

กระบวนการของการสื่อสารเปิด โปร่งใส ช่วยให้พนักงานของตนที่จะมีส่วนร่วมกับพาส ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารนี้อาจตั้งใจนำไปสู่ความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่างพนักงานและการจัดการกลาง หัวหน้างานอาจเห็นนี้เป็นความนัยที่เป็นประเด็นหลักของความกังวล หรือพวกเขาอาจรู้สึกถูกคุกคาม สงสัยพนักงานขัดเขาในความพยายามที่จะทำให้เกิดปัญหาระหว่างเขาและผู้บริหาร [ 2 ]