ค่านิยมหลักของคนไทยวีรวิท คงศักดิ์ ในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ขอ การแปล - ค่านิยมหลักของคนไทยวีรวิท คงศักดิ์ ในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ขอ ไทย วิธีการพูด

ค่านิยมหลักของคนไทยวีรวิท คงศักดิ์

ค่านิยมหลักของคนไทย
วีรวิท คงศักดิ์
ในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ” ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สัปดาห์ที่ ๗ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้กล่าวว่า “น่าจะกำหนด “ค่านิยมหลักของคนไทย” ขึ้น เพื่อสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง ” ซึ่งได้รวบรวมไว้ ๑๒ ประการ ดังนี้
๑) มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจ จุบัน
๒) ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อ ส่วนรวม
๓) กตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูบาอาจารย์
๔) ใฝ่หาความรู้ หมั่นศึกษา เล่าเรียน ทางตรงและทางอ้อม
๕) รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงา ม
๖) มีศีลธรรม รักษาความสัตย์ หวังดีต่อผู้อื่น เผื่อแผ่และแบ่งปัน
๗) เข้าใจ เรียนรู้ การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหาก ษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
๘) มีระเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่
๙) มีสติ รู้ตัว รู้คิด รู้ทำ รู้ปฏิบัติ ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพ ระเจ้าอยู่หัว
๑๐) รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัช ญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรั สของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รู้จัดอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็ น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่าย จำหน่าย ขยายกิจการ เมื่อมีความพร้อม โดยมีภูมิคุ้มกันที่ดี
๑๑) มีความเข้มแข็ง ทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลัวต่อบาป ตามหลักของศาสนา
๑๒) คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม และต่อชาติ มากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
“ค่านิยมหลัก” (Core Values) เป็นแนวความคิดทางวิชาการในการส ร้างพลังให้กับคนในองค์กรด้วยกา รปลูกฝัง “ความเชื่อ” (Belief) ในคุณธรรมความดี เพื่อที่จะผลักดันให้การทำงานสำ เร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ขององค์กร ซึ่งเหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่แล ะหลากหลายวัฒนธรรม
ดังนั้น การเสนอ “ค่านิยมหลัก” นี้ นับว่าเป็นความคิดที่ดีในการหลอ มรวมจิตใจของคนไทยไปสู่วิสัยทัศ น์ของประเทศที่ คสช.กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคม ฉบับที่ ๑๑ ว่า “สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างมี ความสุข ความเสมอภาค เป็นธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแ ปลง” ซึ่งจะเป็นหลักประกันความสำเร็จ ของประเด็น ยุทธศาสตร์ ๙ ประการที่ คสช.ได้เสนอในโอกาสเดียวกันด้วย
นอกจากนั้น ยังเป็นการเตรียมการเพื่อเข้าปร ะชาคมอาเซียนด้วย ทั้งนี้เพราะในปฏิญญาอาเซียนด้า นสังคมและวัฒนธรรมได้กำหนดให้มี การสร้าง “ค่านิยมร่วมอาเซียน” แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี “ค่านิยมของคนไทย” เนืองจากที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลใด คิดจะทำ จึงส่งผลให้ไทยไม่มีข้อเสนอในด้ านความเอกลักษณ์ของคนไทยที่จะไป หลอมรวมกับประเทศอื่นๆ ได้เลย
การที่นักวิชาการแนะนำให้นำ “ค่านิยม” มาปลูกฝังสั่งสอนให้คนในสังคมปร ะพฤติตนอยู่ในกรอบของคุณธรรมควา มดี อันจะนำมาซึ่งความสงบสุขและสามา รถพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าข ึ้นนั้น เพราะค่านิยมมีลักษณะเด่น ๓ ประการ คือ
ประการแรก ค่านิยมเป็นสิ่งที่ยึดถือ ยึดมั่นอย่างยืนยงในการปฏิบัติท ี่นำมาซึ่งพฤติกรรมอันดีงามของค นในสังคม
ประการที่สอง ค่านิยมเป็น “ความเชื่อ” จึงทำให้ยอมรับและนำไปสู่การปฏิ บัติด้วยความเต็มใจ
และประการที่สาม ค่านิยมมีลักษณะเปรียบเทียบที่ช ัดเจนในลักษณะขาวกับดำ เช่น ความขยันกับความเกียจคร้าน ความซื่อสัตย์กันความไม่ซื่อสัต ย์ ความพอเพียงกับความฟุ้งเฟ้อ เป็นต้น
ประกอบกับหลักจริยธรรมและกฎหมาย มหาชนยุคใหม่นิยมกำหนดให้ “ทำ และ ไม่ให้ทำ” (Do & Don’t) จึงทำให้ค่านิยมที่มีลักษณะเชิง เปรียบเทียบสามารถนำมาใช้เชื่อม โยงกันได้เป็นอย่างดี
คำว่า “ค่านิยม” นี้บางตำราเรียก “คุณค่า” ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษว่า “Value” เหมือนกัน
ถ้าจะเปรียบ “ค่านิยม” เป็นวัตถุดิบที่นำไปผลิตลักษณะน ิสัยของคนในสังคม ผลผลิตที่ออกมา คือ “คุณค่า” ที่เกิดเป็นความประพฤติที่ดีงาม ของคนในสังคม หรือเป็นสังคมที่มีคุณค่านั่นเอ ง
John Gardner ได้เขียนอธิบายคำว่า Values ในหนังสือ “The Fish” และจิรนันท์ พิตรปรีชา ได้แปลไว้ ดังนี้
“คุณค่า” ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินไปเจอเข้าแ บบเล่นเกมล่าสมบัติ
“คุณค่า” คือ สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาในชีวิตขอ งคุณเอง คุณสร้างมันขึ้นมาจากพื้นฐานที่ มาของคุณ จากความรักภักดีและความผูกพันขอ งคุณ จากประสบการณ์ร่วมของมนุษยชาติท ี่ถ่ายทอดมาสู่คุณ จากสติปัญญา ความสามารถ และความเข้าใจ จากสิ่งที่คุณเชื่อ จากผู้คนและวัตถุสิ่งของที่คุณร ัก จากบรรทัดฐานค่านิยมที่คุณพร้อม จะเสียสละ อะไรบางอย่างเพื่อดำรงรักษามันไ ว้
องค์ประกอบเหล่านี้มีอยู่พร้อม แต่คุณเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่ จะสามารถนำมาผสมผสานเป็นรูปรอยแ บบแผนของสิ่งที่กลายเป็นชีวิตคุ ณ จงทำให้มันเป็นชีวิตที่มีศักดิ์ ศรี มีคุณค่าสำหรับตัวคุณเอง ถ้าคุณทำได้จุดพลิกผันระหว่าง ความสำเร็จกับความล้มเหลวก็ไม่ใ ช่เรื่องหมิ่นเหม่อีกต่อไป
คำอธิบายนี้ ทำให้เข้าใจความหมาย กระบวนการสร้างให้เกิดขึ้น และคุณค่าของ “ค่านิยม” ที่ใช้ในการปลูกฝังและสั่งสอนคน ในสังคมให้มีคุณธรรมความดี ได้อย่างชัดเจนมา
อย่างไรก็ดี “ค่านิยม” ที่ใช้ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ ่เพื่อให้มีการยึดมั่นในการทำคว ามดีร่วมกันนั้น จำเป็นต้องมีพื้นฐานของความเชื่ อและยอมรับอยู่ในความทรงจำเพื่อ นำไปปฏิบัติ ส่วนใหญ่จึงใช้กระบวนการมีส่วนร ่วม เพื่อให้ “เข้าใจ เข้าถึงจิตใจ และนำไปพัฒนาตนเอง” และนิยมกำหนดประมาณ ๓-๕ ค่านิยมเพื่อง่ายในการจดจำ โดยเรียกว่า “ค่านิยมร่วม” (Shared Values)
ดังนั้น “ค่านิยม” ที่สร้างความดีงามมีอยู่มากมาย จึงต้องมีกระบวนการมีส่วนร่วมเพ ื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในสังค ม โดยวิเคราะห์จาก “บทเรียน” ความผิดพลาดของคนในสังคม เพื่อให้เกิดการยอมรับ และพัฒนาเป็น “ความเชื่อ” ที่สามารถจดจำได้ แล้วนำไปยึดถือปฏิบัติจนเป็นลัก ษณะนิสัยของบุคคลและวัฒนธรรมของ สังคมนั้น
อีกลักษณะหนึ่ง คือ คำสอนของศาสดาหรือผู้ปกครองประเ ทศ เช่น สาธารณรัฐเวียดนาม นำคำสอนของโฮจิมินห์ (Hochiminh’s Doctrine) มาเป็นค่านิยมของชาติ ได้แก่ (๑) รักชาติ รักประชาชน (๒) เรียนดี ทำงานดี (๓) สามัคคี มีวินัย (๔) รักษาอนามัยดี (๕) ถ่อมตัว ซื่อสัตย์ กล้าหาญ
ในอดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิก ารพยายามสร้างคุณธรรมในลักษณะขอ งค่านิยมที่ตนเองยึดถือมาเป
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ค่านิยมหลักของคนไทยวีรวิทคงศักดิ์ ในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" (คสช.) ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติสัปดาห์ที่ ๗ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗ พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาหัวหน้าคสช ได้กล่าวว่า "น่าจะกำหนด"ค่านิยมหลักของคนไทย"ขึ้นเพื่อสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง" ซึ่งได้รวบรวมไว้ ๑๒ ประการดังนี้๑) มีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน๒) ซื่อสัตย์เสียสละอดทนมีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม๓) ครูบาอาจารย์กตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง๔) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางอ้อม๕) มรักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงา๖) มีศีลธรรมรักษาความสัตย์หวังดีต่อผู้อื่นเผื่อแผ่และแบ่งปัน๗) ษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้องการเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากเรียนรู้เข้าใจ๘) ผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่เคารพกฎหมายมีระเบียบวินัย๙) มีสติรู้ตัวรู้คิดรู้ทำรู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว๑๐) รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรู้จัดอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น.มีไว้พอกินพอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่ายขยายกิจการเมื่อมีความพร้อมโดยมีภูมิคุ้มกันที่ดี๑๑) มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา๑๒) คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและต่อชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง"ค่านิยมหลัก" (คุณค่า) เป็นแนวความคิดทางวิชาการในการสร้างพลังให้กับคนในองค์กรด้วยการปลูกฝัง "ความเชื่อ" (ความเชื่อ) ในคุณธรรมความดีเพื่อที่จะผลักดันให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กรซึ่งเหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่และหลากหลายวัฒนธรรมดังนั้นการเสนอ "ค่านิยมหลัก" นี้นับว่าเป็นความคิดที่ดีในการหลอมรวมจิตใจของคนไทยไปสู่วิสัยทัศน์ของประเทศที่คสช.กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ ๑๑ ว่า "สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขความเสมอภาคเป็นธรรมและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง" ซึ่งจะเป็นหลักประกันความสำเร็จของประเด็นยุทธศาสตร์ ๙ ประการที่คสช.ได้เสนอในโอกาสเดียวกันด้วยนอกจากนั้นยังเป็นการเตรียมการเพื่อเข้าประชาคมอาเซียนด้วยทั้งนี้เพราะในปฏิญญาอาเซียนด้านสังคมและวัฒนธรรมได้กำหนดให้มีการสร้าง "ค่านิยมร่วมอาเซียน" แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี "ค่านิยมของคนไทย" เนืองจากที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลใดคิดจะทำจึงส่งผลให้ไทยไม่มีข้อเสนอในด้านความเอกลักษณ์ของคนไทยที่จะไปหลอมรวมกับประเทศอื่น ๆ ได้เลยการที่นักวิชาการแนะนำให้นำ "ค่านิยม" มาปลูกฝังสั่งสอนให้คนในสังคมประพฤติตนอยู่ในกรอบของคุณธรรมความดีอันจะนำมาซึ่งความสงบสุขและสามารถพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าขึ้นนั้นเพราะค่านิยมมีลักษณะเด่น ๓ ประการคือประการแรกค่านิยมเป็นสิ่งที่ยึดถือยึดมั่นอย่างยืนยงในการปฏิบัติที่นำมาซึ่งพฤติกรรมอันดีงามของคนในสังคม"ความเชื่อ" ประการที่สองค่านิยมเป็นจึงทำให้ยอมรับและนำไปสู่การปฏิบัติด้วยความเต็มใจและประการที่สามค่านิยมมีลักษณะเปรียบเทียบที่ชัดเจนในลักษณะขาวกับดำเช่นความขยันกับความเกียจคร้านความซื่อสัตย์กันความไม่ซื่อสัตย์ความพอเพียงกับความฟุ้งเฟ้อเป็นต้นประกอบกับหลักจริยธรรมและกฎหมายมหาชนยุคใหม่นิยมกำหนดให้ "ก่อและไม่ให้ทำ" (ทำ และอย่า) จึงทำให้ค่านิยมที่มีลักษณะเชิงเปรียบเทียบสามารถนำมาใช้เชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดีคำว่า "ค่านิยม" นี้บางตำราเรียก "คุณค่า" ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษว่า "มูลค่า" เหมือนกันถ้าจะเปรียบ "ค่านิยม" เป็นวัตถุดิบที่นำไปผลิตลักษณะนิสัยของคนในสังคมผลผลิตที่ออกมาคือ "คุณค่า" ที่เกิดเป็นความประพฤติที่ดีงามของคนในสังคมหรือเป็นสังคมที่มีคุณค่านั่นเองจอห์นการ์ดเนอร์ได้เขียนอธิบายคำว่าพิตรปรีชา "ปลา" และจิรนันท์ได้แปลไว้ดังนี้ในหนังสือค่า"คุณค่า" ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินไปเจอเข้าแบบเล่นเกมล่าสมบัติ"คุณค่า" คือสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาในชีวิตของคุณเองคุณสร้างมันขึ้นมาจากพื้นฐานที่มาของคุณจากความรักภักดีและความผูกพันของคุณจากประสบการณ์ร่วมของมนุษยชาติที่ถ่ายทอดมาสู่คุณจากสติปัญญาความสามารถและความเข้าใจจากสิ่งที่คุณเชื่อจากผู้คนและวัตถุสิ่งของที่คุณรักจากบรรทัดฐานค่านิยมที่คุณพร้อมจะเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อดำรงรักษามันไว้องค์ประกอบเหล่านี้มีอยู่พร้อมแต่คุณเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถนำมาผสมผสานเป็นรูปรอยแบบแผนของสิ่งที่กลายเป็นชีวิตคุณจงทำให้มันเป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรีมีคุณค่าสำหรับตัวคุณเองถ้าคุณทำได้จุดพลิกผันระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องหมิ่นเหม่อีกต่อไปคำอธิบายนี้ทำให้เข้าใจความหมายกระบวนการสร้างให้เกิดขึ้นและคุณค่าของ "ค่านิยม" ที่ใช้ในการปลูกฝังและสั่งสอนคนในสังคมให้มีคุณธรรมความดีได้อย่างชัดเจนมาอย่างไรก็ดี "ค่านิยม" ที่ใช้ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่เพื่อให้มีการยึดมั่นในการทำความดีร่วมกันนั้นจำเป็นต้องมีพื้นฐานของความเชื่อและยอมรับอยู่ในความทรงจำเพื่อนำไปปฏิบัติส่วนใหญ่จึงใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้ "เข้าใจเข้าถึงจิตใจและนำไปพัฒนาตนเอง" และนิยมกำหนดประมาณ ๓ - ๕ ค่านิยมเพื่อง่ายในการจดจำโดยเรียกว่า "ค่านิยมร่วม" (ค่าที่ใช้ร่วมกัน)ดังนั้น "ค่านิยม" ที่สร้างความดีงามมีอยู่มากมายจึงต้องมีกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในสังคมโดยวิเคราะห์จาก "บทเรียน" ความผิดพลาดของคนในสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับและพัฒนาเป็น "ความเชื่อ" ที่สามารถจดจำได้แล้วนำไปยึดถือปฏิบัติจนเป็นลักษณะนิสัยของบุคคลและวัฒนธรรมของสังคมนั้นอีกลักษณะหนึ่งคือคำสอนของศาสดาหรือผู้ปกครองประเทศเช่นสาธารณรัฐเวียดนามนำคำสอนของโฮจิมินห์ (หลักคำสอนของ Hochiminh) มาเป็นค่านิยมของชาติได้แก่ (๑) รักชาติรักประชาชน (๒) เรียนดีทำงานดี (๓) สามัคคีมีวินัย (๔) (๕) รักษาอนามัยดีถ่อมตัวซื่อสัตย์กล้าหาญในอดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการพยายามสร้างคุณธรรมในลักษณะของค่านิยมที่ตนเองยึดถือมาเป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
ค่านิยมหลักของคนไทย
วีรวิทคงศักดิ์
ในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สัปดาห์ที่ 7 เมื่อวันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2557 พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา หัวหน้าคสช ได้กล่าวว่า "น่าจะกำหนด" ค่านิยมหลักของคนไทย "ขึ้นเพื่อสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง" ซึ่งได้รวบรวมไว้ 12 ประการดังนี้
1) มีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน
2) ซื่อสัตย์เสียสละอดทนมีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม
3) กตัญญูต่อพ่อแม่ผู้ปกครองครูบาอาจารย์
4) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางอ้อม
5) รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาม
6) มี ศีลธรรมรักษาความสัตย์หวังดีต่อผู้อื่นเผื่อแผ่และแบ่งปัน
7) เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง
8) มีระเบียบวินัยเคารพกฎหมายผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่
9) มีสติ รู้ตัวรู้คิดรู้ทำรู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
10) รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรู้จัดอดออมไว้ใช้เมื่อ ยามจำเป็นมีไว้พอกินพอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่ายขยายกิจการเมื่อมีความพร้อมโดยมีภูมิคุ้มกันที่ดี
11) มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัวต่อบาป ตามหลักของศาสนา
12) คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและต่อชาติ
(ค่านิยมหลัก) เป็นแนวความคิดทางวิชาการในการสร้างพลังให้กับคนในองค์กรด้วยการปลูกฝัง "ความเชื่อ" (ความเชื่อ) ในคุณธรรมความดีเพื่อที่จะผลักดันให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ ขององค์กรซึ่งเหมาะสมกับองค์กรขนาดใหญ่และหลากหลายวัฒนธรรม
ดังนั้นการเสนอ "ค่านิยมหลัก" นี้นับว่าเป็นความคิดที่ดีในการหลอมรวมจิตใจของคนไทยไปสู่วิสัยทัศน์ของประเทศที่คสช. กำหนด ไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 11 ว่า "สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขความเสมอภาคเป็นธรรมและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง" ซึ่งจะเป็นหลักประกันความสำเร็จของประเด็นยุทธศาสตร์ 9 ประการที่
ยังเป็นการเตรียมการเพื่อเข้าประชาคมอาเซียนด้วยทั้งนี้เพราะในปฏิญญาอาเซียนด้านสังคมและวัฒนธรรมได้กำหนดให้มีการสร้าง "ค่านิยมร่วมอาเซียน" แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี "ค่านิยมของคนไทย" เนืองจากที่ ผ่านมาไม่มีรัฐบาลใดคิดจะทำจึงส่งผลให้ไทยไม่มีข้อเสนอในด้านความเอกลักษณ์ของคนไทยที่จะไปหลอมรวมกับประเทศอื่น ๆ ได้เลย
การที่นักวิชาการแนะนำให้นำ "ค่านิยม" มาปลูกฝังสั่งสอน ให้คนในสังคมประพฤติตนอยู่ในกรอบของคุณธรรมความดีอันจะนำมาซึ่งความสงบสุขและสามารถพัฒนาองค์กรให้เจริญก้าวหน้าขึ้นนั้นเพราะค่านิยมมีลักษณะเด่น 3 ประการคือ
ประการแรกค่า นิยมเป็นสิ่งที่ยึดถือยึดมั่นอย่างยืนยงในการปฏิบัติที่นำมาซึ่งพฤติกรรมอันดีงามของคนในสังคม
ประการที่สองค่านิยมเป็น "ความเชื่อ" จึงทำให้ยอมรับและนำไปสู่การปฏิบัติด้วยความเต็มใจ
และประการที่สามค่านิยมมีลักษณะเปรียบเทียบที่ชัดเจนในลักษณะขาวกับดำเช่นความขยันกับความเกียจคร้านความซื่อสัตย์กันความไม่ซื่อสัตย์ความพอเพียงกับความฟุ้งเฟ้อ
มหาชนยุคใหม่นิยมกำหนดให้ "ทำและไม่ให้ทำ" (Do & Do not) จึงทำให้ค่านิยมที่มีลักษณะเชิงเปรียบเทียบสามารถนำมาใช้เชื่อมโยงกันได้เป็นอย่างดี
คำว่าได้ "ค่านิยม" นี้บางตำราเรียก "คุณค่า" ซึ่งมาจากคำภาษาอังกฤษว่า "คุ้มค่า" เหมือนกัน
ถ้าจะเปรียบ "ค่านิยม" เป็นวัตถุดิบที่นำไปผลิตลักษณะนิสัยของคนในสังคมผลผลิตที่ออกมาคือ "คุณค่า" ที่เกิดเป็นความประพฤติ ที่ดีงามของคนในสังคมหรือเป็นสังคมที่มีคุณค่านั่นเอง
จอห์นการ์ดเนอร์ได้เขียนอธิบายคำว่าค่านิยมในหนังสือ "ปลา" และจิรนันท์พิตรปรีชาได้แปลไว้ดังนี้
"คุณค่า" ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินไป เจอเข้าแบบเล่นเกมล่าสมบัติ
"คุณค่า" คือสิ่งที่คุณสร้างขึ้นมาในชีวิตของคุณเองคุณสร้างมันขึ้นมาจากพื้นฐานที่มาของคุณจากความรักภักดีและความผูกพันของคุณจากประสบการณ์ร่วมของ มนุษยชาติที่ถ่ายทอดมาสู่คุณจากสติปัญญาความสามารถและความเข้าใจจากสิ่งที่คุณเชื่อจากผู้คนและวัตถุสิ่งของที่คุณรักจากบรรทัดฐานค่านิยมที่คุณพร้อมจะเสียสละอะไรบางอย่างเพื่อรับดำรงรักษามันไว้
องค์ประกอบเหล่า นี้มีอยู่พร้อม แต่คุณเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถนำมาผสมผสานเป็นรูปรอยแบบแผนของสิ่งที่กลายเป็นชีวิตคุ ณ จงทำให้มันเป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรีมีคุณค่าสำหรับตัวคุณเองถ้าคุณทำได้จุด พลิกผันระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลวก็ไม่ใ
ทำให้เข้าใจความหมายกระบวนการสร้างให้เกิดขึ้นและคุณค่าของ "ค่านิยม" ที่ใช้ในการปลูกฝังและสั่งสอนคนในสังคมให้มีคุณธรรมความดีได้อย่างชัดเจนมา
อย่างไรก็ดี "ค่านิยม" ที่ใช้ในการบริหารองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อให้มีการยึดมั่นในการทำความดีร่วมกันนั้นจำเป็นต้องมีพื้นฐานของความเชื่อและยอมรับอยู่ในความทรงจำเพื่อนำไปปฏิบัติส่วนใหญ่จึงใช้กระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้ " เข้าใจเข้าถึงจิตใจและนำไปพัฒนาตนเอง "และนิยมกำหนดประมาณ 3-5 ค่านิยมเพื่อง่ายในการจดจำโดยเรียกว่า" ค่านิยมร่วม "(ค่าที่ใช้ร่วมกัน)
ดังนั้น "ค่านิยม" ที่สร้างความดีงามมีอยู่มากมายจึงต้อง มีกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของคนในสังคมโดยวิเคราะห์จาก "บทเรียน" ความผิดพลาดของคนในสังคมเพื่อให้เกิดการยอมรับและพัฒนาเป็น "ความเชื่อ" ที่สามารถจดจำได้แล้วนำไปยึดถือ ปฏิบัติจนเป็นลักษณะนิสัยของบุคคลและวัฒนธรรมของสังคมนั้น
อีกลักษณะหนึ่งคือคำสอนของศาสดาหรือผู้ปกครองประเทศเช่นสาธารณรัฐเวียดนามนำคำสอนของโฮจิมินห์ (ลัทธิโฮจิมิน) ที่มาเป็นค่านิยมของชาติ ได้แก่ (1) รักชาติรักประชาชน (2) เรียนดีทำงานดี (3) สามัคคีมีวินัย (4) รักษาอนามัยดี (5) ถ่อมตัวซื่อสัตย์
ารพยายามสร้างคุณธรรมในลักษณะของค่านิยมที่ตนเองยึดถือมาเป
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ค่านิยมหลักของคนไทย

วีรวิทคงศักดิ์ในรายการ " คืนความสุขให้คนในชาติ " ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ( คสช ) สัปดาห์ที่๗เมื่อวันศุกร์ที่๑๑กรกฎาคม๒๕๕๗พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาหัวหน้าคสช .ได้กล่าวว่า " น่าจะกำหนด " ค่านิยมหลักของคนไทย " ขึ้นเพื่อสร้างประเทศไทยให้เข้มแข็ง " ซึ่งได้รวบรวมไว้๑๒ประการดังนี้
๑ ) มีความรักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติในปัจจุบัน
๒ ) ซื่อสัตย์เสียสละอดทนมีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพื่อส่วนรวม

) กตัญญูต่อพ่อแม่กันผู้ปกครองครูบาอาจารย์โตเกียว ) ใฝ่หาความรู้หมั่นศึกษาเล่าเรียนทางตรงและทางอ้อม

๕ ) รักษาวัฒนธรรมประเพณีไทยอันงดงาแองเจอร์ ) มีศีลธรรมรักษาความสัตย์หวังดีต่อผู้อื่นเผื่อแผ่และแบ่งปัน
๗ ) เข้าใจเรียนรู้การเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้องแยกมีระเบียบวินัยเคารพกฎหมายผู้น้อยรู้จักเคารพผู้ใหญ่

)ซ้งโคย ) มีสติรู้ตัวรู้คิดรู้ทำรู้ปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๐ ) รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรู้จัดอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็นมีไว้พอกินพอใช้ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่ายขยายกิจการเมื่อมีความพร้อม๑๑ ) มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำหรือกิเลสมีความละอายเกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา๑๒ ) คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและต่อชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง

" ค่านิยมหลัก " ( คุณค่า ) เป็นแนวความคิดทางวิชาการในการสร้างพลังให้กับคนในองค์กรด้วยการปลูกฝัง " ความเชื่อ " ( ความเชื่อ ) ในคุณธรรมความดีเพื่อที่จะผลักดันให้การทำงานสำเร็จตามเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กระหลากหลายวัฒนธรรม
ดังนั้นการเสนอ " ค่านิยมหลัก " นี้นับว่าเป็นความคิดที่ดีในการหลอมรวมจิตใจของคนไทยไปสู่วิสัยทัศน์ของประเทศที่คสช .กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่๑๑ว่า " สังคมจะต้องอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขความเสมอภาคเป็นธรรมและมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง " ซึ่งจะเป็นหลักประกันความสำเร็จของประเด็นยุทธศาสตร์ซ้งโคยคสช .ได้เสนอในโอกาสเดียวกันด้วย
นอกจากนั้นยังเป็นการเตรียมการเพื่อเข้าประชาคมอาเซียนด้วยทั้งนี้เพราะในปฏิญญาอาเซียนด้านสังคมและวัฒนธรรมได้กำหนดให้มีการสร้าง " ค่านิยมร่วมอาเซียน " แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มี " ค่านิยมของคนไทย "คิดจะทำจึงส่งผลให้ไทยไม่มีข้อเสนอในด้านความเอกลักษณ์ของคนไทยที่จะไปหลอมรวมกับประเทศอื่นๆได้เลย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: