DiscussionStudents’ motivation, att

Discussion
Students’ motivation, attitudes and interest are important elements for science education because these affective elements are highly correlated with students’ success in science learning. Results showed that primary students, in general, have high motivation in science learning, positive attitudes toward science with more positive attitudes relating to higher achievement scores in science. While there were gender differences in selected variables, although not statistically significant different in all variables, the results suggest that females are more motivated in learning science than males. Female students also obtained higher mean scores on the science attitude scale.
Results showed that students’ motivation declines gradually as their grade level increase. This result is consistent with other studies conducted by Hidi and Harackiewicz, 2000; and Singh et al., 2002. According to them, on entering the middle and high school years, the learning emphasis in science shifts from a focus on participation to a focus on performance. Such a transition is difficult for many students. When adolescents perceive that they do not possess the skills needed to meet such challenges, they are less likely to even attempt the tasks (Csikszentmihalyi, 1990). Furthermore, after students enter high school, they typically view science as dull and tedious (Lunetta, 1998). Other grade level results indicate that 8th graders only illustrate high mean scores for Self Efficacy and Performance Goal compared to students in other grades. This suggested that students who were in the last year of primary school believed that they had capabilities to achieve learning tasks whether these were easy or difficult and they wished to achieve highly independently of external indicators of success

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนทนานักเรียนแรงจูงใจ ทัศนคติ และสนใจเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์เนื่องจากองค์ประกอบเหล่านี้ผลจะสูง correlated กับความสำเร็จของนักเรียนในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผลพบว่า นักเรียนหลัก ทั่วไป มีแรงจูงใจสูงในการเรียนรู้ ทัศนคติบวกต่อวิทยาศาสตร์ ด้วยยิ่งบวกทัศนคติเกี่ยวข้องกับคะแนนผลสัมฤทธิ์สูงกว่าวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์ ในขณะที่มีเพศแตกต่างในตัวแปรที่เลือก แม้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติไม่แตกต่างในตัวแปรทั้งหมด ผลแนะนำว่า หญิงมีแรงจูงใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มากกว่าเพศชาย นักเรียนหญิงที่ได้รับยัง สูงหมายถึง คะแนนระดับทัศนคติวิทยาศาสตร์ผลพบว่า แรงจูงใจของนักเรียนลดลงทีละน้อยเป็นการเพิ่มระดับชั้นประถมศึกษาปี ผลลัพธ์นี้จะสอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ ดำเนินการ โดย Hidi และ Harackiewicz, 2000 และสิงห์ร้อยเอ็ด al., 2002 ตามนั้น เข้ากลางและโรงเรียนสูงปี เน้นเรียนวิทยาศาสตร์กะจากเน้นการมีส่วนร่วมจะเน้นประสิทธิภาพการทำงาน การเปลี่ยนภาพได้ยากสำหรับนักเรียนจำนวนมาก เมื่อวัยรุ่นสังเกตว่า พวกเขามีทักษะที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความท้าทายดังกล่าว พวกเขาจะพยายามแม้งาน (Csikszentmihalyi, 1990) นอกจากนี้ หลังจากนักศึกษาเข้ามัธยม พวกเขาโดยทั่วไปดูวิทยาศาสตร์น่าเบื่อ และน่าเบื่อ (Lunetta, 1998) อื่น ๆ เกรดระดับผลบ่งชี้ว่า นักเรียน 8 เท่าแสดงสูงเฉลี่ยคะแนนประสิทธิภาพตนเองและเป้าหมายประสิทธิภาพเปรียบเทียบกับนักเรียนในระดับอื่น ๆ แนะนำว่า นักเรียนที่ได้ในปีสุดท้ายของโรงเรียนเชื่อว่า พวกเขามีความสามารถเพื่อให้บรรลุการเรียนรู้งานว่า มีความง่าย หรือยาก และพวกเขาปรารถนาให้สูงเป็นอิสระจากภายนอกตัวบ่งชี้ความสำเร็จ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การอภิปรายของนักเรียนแรงจูงใจทัศนคติและความสนใจเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการศึกษาวิทยาศาสตร์เพราะองค์ประกอบอารมณ์เหล่านี้มีความสัมพันธ์กับนักเรียนที่ประสบความสำเร็จในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ผลการศึกษาพบว่านักเรียนระดับประถมศึกษาโดยทั่วไปมีแรงจูงใจสูงในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ทัศนคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์ที่มีทัศนคติที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการผลสัมฤทธิ์ทางการที่สูงขึ้นในด้านวิทยาศาสตร์ ในขณะที่มีความแตกต่างทางเพศในการเลือกตัวแปรที่แม้จะไม่ได้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญในตัวแปรทั้งหมดผลที่ชี้ให้เห็นว่าเพศหญิงมีแรงจูงใจในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์กว่าเพศชาย นักเรียนหญิงยังได้รับคะแนนเฉลี่ยที่สูงขึ้นในระดับทัศนคติวิทยาศาสตร์.
ผลการศึกษาพบว่าแรงจูงใจของนักเรียนลดลงค่อยๆเป็นระดับชั้นของพวกเขาเพิ่มขึ้น ผลที่ได้นี้มีความสอดคล้องกับการศึกษาอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดย Hidi และ Harackiewicz 2000; และซิงห์ et al., 2002 ตามที่พวกเขาเข้ามาในกลางและโรงเรียนมัธยมปีที่เน้นการเรียนรู้ในการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาศาสตร์จากการมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมที่จะมุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการทำงาน การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนจำนวนมาก เมื่อวัยรุ่นรับรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีทักษะที่จำเป็นในการตอบสนองความท้าทายดังกล่าวพวกเขามีโอกาสน้อยที่จะได้พยายามงาน (Csikszentmihalyi, 1990) นอกจากนี้หลังจากที่นักเรียนเข้าเรียนสูงพวกเขามักจะดูเป็นวิทยาศาสตร์ที่น่าเบื่อและน่าเบื่อ (Lunetta, 1998) ผลระดับชั้นอื่น ๆ แสดงให้เห็นว่าคารม 8 เท่านั้นที่แสดงให้เห็นถึงค่าเฉลี่ยประสิทธิภาพสูงสำหรับตัวเองและเป้าหมายผลการดำเนินงานเมื่อเทียบกับนักเรียนในระดับอื่น ๆ นี้แสดงให้เห็นว่านักเรียนที่อยู่ในปีสุดท้ายของโรงเรียนประถมศึกษาที่เชื่อว่าพวกเขามีความสามารถในการที่จะบรรลุการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นงานเหล่านี้ง่ายหรือยากและพวกเขาอยากจะประสบความสำเร็จอย่างสูงที่เป็นอิสระของตัวชี้วัดของความสำเร็จภายนอก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอภิปราย
แรงจูงใจ ทัศนคติ และความสนใจ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับวิทยาศาสตร์ศึกษา เพราะองค์ประกอบเหล่านี้อารมณ์มีความสัมพันธ์กับความสำเร็จในการเรียนของนักศึกษาวิทยาศาสตร์ ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนประถมศึกษาในทั่วไปที่มีแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์เจตคติทางบวกต่อวิทยาศาสตร์ ด้วยทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับสูงกว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ ในขณะที่มีความแตกต่างในตัวแปรเพศ แม้ว่าไม่แตกต่างกันในทุกตัวแปร พบว่าเพศหญิงมีแรงจูงใจในการเรียนวิทยาศาสตร์ มากกว่าผู้ชายนักเรียนหญิง ยังได้รับคะแนนสูงในวิทยาศาสตร์ทัศนคติ .
พบว่าแรงจูงใจของนักเรียนลดลงค่อยๆเป็นเกรดระดับเพิ่มขึ้น นี้สอดคล้องกับผลการศึกษาอื่น ๆและดำเนินการโดยไฮจิ harackiewicz , 2000 ; และ Singh et al . , 2002 ตามที่พวกเขาเข้าตรงกลางและปีโรงเรียนมัธยมเรียนเน้นวิทยาศาสตร์กะจากมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมที่เน้นประสิทธิภาพ เช่นการเปลี่ยนเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนมากมาย เมื่อวัยรุ่นรับรู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีทักษะที่จำเป็นเพื่อตอบสนองความท้าทายดังกล่าว พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะพยายามใช้งาน ( csikszentmihalyi , 2533 ) นอกจากนี้ หลังจากนักเรียนเข้าสู่โรงเรียนมัธยมพวกเขามักจะดูวิทยาศาสตร์เป็นทึบ และน่าเบื่อ ( ลูเนตต้า , 1998 ) ผลอื่น ๆ พบว่า นักเรียนระดับเกรด 8 เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงคะแนนสูงสำหรับตนเอง และเป้าหมายการปฏิบัติงานเทียบกับนักเรียนในเกรดอื่นๆนี้แสดงให้เห็นว่านักเรียนในปีสุดท้ายของโรงเรียน ประถมศึกษา เชื่อว่าพวกเขามีความสามารถเพื่อให้บรรลุงานเหล่านี้คือการเรียนรู้ไม่ว่าจะง่ายหรือยากและพวกเขาต้องการเพื่อให้บรรลุตัวชี้วัดของความสำเร็จภายนอกสูงอย่างอิสระ