In this work the preparation of vis

In this work the preparation of viscoelastic bio-based polyurethane foams (PUFs) using polyols obtained via acid liquefaction of coffee grounds wastes has been optimized. In a first stage, the effect of different ratios of isocyanate content to hydroxyl number (0.6, 0.7 and 0.8) and of three distinct percentages of catalyst (3%, 5% and 7%) on the extent of the polymerization reaction was studied by infrared spectroscopy. Next, different percentages of surfactant (14%, 16% and 18%) and blowing agent (12%, 14% and 16%) were used to assess their effect on the density, thermal conductivity and mechanical properties of the foams, including their recovery time. The mechanical properties of the ensuing foams proved to be very interesting due to their viscoelastic behavior. PUFs were also characterized by scanning electron microscopy (SEM) revealing a typical cellular structure and by thermogravimetric analysis (TGA) which proved that these materials are thermally stable up to 190 °C. These results suggest other potential applications for these materials beyond heat insulation in areas where damping properties can be an added value.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในงานนี้ได้รับการจัดเตรียม viscoelastic ชีวภาพใช้ polyurethane โฟม (PUFs) ใช้ polyols ผ่าน liquefaction กรดของกาแฟจาก ขยะมีการปรับ ในระยะแรก มีศึกษาผลของอัตราส่วนต่าง ๆ ของเนื้อหา isocyanate เลขไฮดรอกซิล (0.6, 0.7 และ 0.8) และสามเปอร์เซ็นต์ความแตกต่างของเศษ (3%, 5% และ 7%) กับความรุนแรงของปฏิกิริยา polymerization โดยกอินฟราเรด ถัดไป แตกต่างเปอร์เซ็นต์ของ surfactant (14%, 16% และ 18%) และตัวแทนเป่า (12%, 14% และ 16%) ถูกใช้เพื่อประเมินผลของความหนาแน่น การนำความร้อน และสมบัติทางกลของโฟม รวมถึงเวลาของพวกเขา คุณสมบัติทางกลของโฟมเพราะพิสูจน์ให้น่าสนใจมากเนื่องจากพฤติกรรมของพวกเขา viscoelastic PUFs ยังมีลักษณะ โดยสแกน microscopy อิเล็กตรอน (SEM) เปิดเผยโครงสร้างโทรศัพท์มือถือทั่วไป และ โดยวิเคราะห์ thermogravimetric (TGA) ซึ่งพิสูจน์ว่า วัสดุเหล่านี้มีแพมีเสถียรภาพถึง 190 องศาเซลเซียส ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำโปรแกรมประยุกต์อื่นอาจเกิดขึ้นสำหรับวัสดุเหล่านี้นอกเหนือจากฉนวนความร้อนในพื้นที่ที่ damping คุณสมบัติสามารถมีมูลค่าเพิ่ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในงานนี้จัดทำ viscoelastic ชีวภาพที่ใช้โฟมยูรีเทน (PUFs) โดยใช้โพลีออลได้รับผ่านทางเหลวกรดของเสียกากกาแฟได้รับการปรับปรุง ในขั้นตอนแรกผลของอัตราส่วนที่แตกต่างกันของเนื้อหา isocyanate จำนวนมักซ์พลังค์ (0.6, 0.7 และ 0.8) และสามร้อยละที่แตกต่างของตัวเร่งปฏิกิริยา (3%, 5% และ 7%) กับขอบเขตของการเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอได้รับการศึกษาโดย อินฟราเรด ถัดไปร้อยละที่แตกต่างกันของการลดแรงตึงผิว (14%, 16% และ 18%) และตัวแทนเป่า (12%, 14% และ 16%) ถูกนำมาใช้ในการประเมินผลกระทบต่อความหนาแน่นของการนำความร้อนและสมบัติเชิงกลของโฟมรวมถึงของพวกเขา เวลาการกู้คืน สมบัติเชิงกลของโฟมที่ตามมาพิสูจน์แล้วว่าเป็นที่น่าสนใจมากเนื่องจากพฤติกรรมของพวกเขา viscoelastic PUFs มีลักษณะโดยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน (SEM) เผยให้เห็นโครงสร้างของเซลล์ทั่วไปและโดยการวิเคราะห์สมบัติทางความร้อน (TGA) ซึ่งได้รับการพิสูจน์ว่าวัสดุเหล่านี้มีความร้อนที่มีเสถียรภาพได้ถึง 190 องศาเซลเซียส ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นการใช้งานที่มีศักยภาพอื่น ๆ สำหรับวัสดุเหล่านี้เกินกว่าฉนวนกันความร้อนในพื้นที่ที่มีคุณสมบัติทำให้หมาด ๆ สามารถเพิ่มมูลค่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในงานนี้เตรียมได้จากไบโอเทนโฟม ( หญิง ) โดยใช้กรดโพลิออลได้ผ่านการแปรรูปกาแฟของเสียที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม ในขั้นตอนแรก ผลของอัตราส่วนที่แตกต่างกันของไอโซไซยาเนตเนื้อหาที่มีหมายเลข ( 0.6 , 0.7 และ 0.8 ) และ 3 เปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันของตัวเร่งปฏิกิริยา ( 3 %5% และ 7% ) ในขอบเขตของปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบศึกษาโดยเทคนิคอินฟราเรดสเปกโทรสโกปี ถัดไป , ร้อยละที่แตกต่างกันของสารลดแรงตึงผิว ( 14% , ร้อยละ 16 และ 18 % ) และเป่าแทน ( ร้อยละ 12 , 14 และ 16 % ) ใช้เพื่อประเมินผลกระทบที่มีต่อความหนาแน่นการนำความร้อนและสมบัติเชิงกลของโฟม รวมทั้งเวลาการกู้คืนของพวกเขาสมบัติเชิงกลของโฟมตามมาพิสูจน์ให้เป็นที่น่าสนใจมาก เนื่องจากพฤติกรรม viscoelastic ของพวกเขา หญิง ยังโดดเด่นด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ( SEM ) เปิดเผยโครงสร้างของเซลล์โดยทั่วไปและการวิเคราะห์เทอร์โมกราวิเมตริก ( TGA ) ซึ่งพิสูจน์ว่า วัสดุเหล่านี้จะได้รับมีเสถียรภาพถึง 190 องศาผลลัพธ์เหล่านี้ขอแนะนำการใช้งานที่มีศักยภาพอื่น ๆสำหรับวัสดุเหล่านี้นอกจากฉนวนกันความร้อนในพื้นที่ที่มีคุณสมบัติหน่วงสามารถเพิ่มค่า
.