“The purpose of the structure provi

“The purpose of the structure provides it with its actual sense. (…) A dwelling should only serve for housing. The location of the structure, its location in relation to the sun, the layout of the spaces and the construction materials are the essential factors for creating a dwelling house. A building organism must be created out of these conditions.”
These thoughts were expressed by Ludwig Mies van der Rohe in the year 1924 and fully employed on the Brno Villa.
Maria Ludwig Michael Mies was born on the 27th of May 1886 in Aachen Germany as the youngest of five children of the stonemason Michael Mies and his wife Amalie. He attended the general and Catholic cathedral school and industrial school in Aachen from 1892-1902. He at the same time trained as a bricklayer and worked as a sketcher. He left for Berlin in the year 1905 where he worked up until the year 1907 for Bruno Paul. Here he prepared his first independent realized project for a house for Alois and Sophie Riehl in the villa colony of Neubabelsberg in Potsdam (1906-07). He worked for Peter Behrens over the years 1908-11 through whom he seemingly developed an interest in Schinkel's Classicism. He designed a home in Berlin-Zehlendorf for the art collector Hugo Perls (1911-12; 1928 the addition of a gallery for the art historian and collector Eduard Fuchs). He opened his own architectural office in the year 1913 and married Ada Bruhn (1885-1951) with whom he had three daughters: Dorothea (1914, known under the name Georgia van der Rohe), Marianne (1915) and Waltraut (1917; that same year while in Romania where he served as a soldier Mies had a son born out of wedlock). He left his wife Ada in the year 1921 who he never divorced and added his mother's maiden name to Mies. Over the years 1921-24 he created fantastic projects for glazed skyscrapers with constructions based on the principle of “skin and bones”. He became a member of Novembergruppe and co-founder of the association of architects Der Ring. Over the years 1925-27 he realized apartment blocks in Berlin-Wedding, significantly making use of modern principles of function and hygiene.
Mies' working and life partnership with Lilly Reich (1885-1947) became an important turning point in his life, working together on the exhibition of the German Werkbund “The Dwelling” carried out in the form of the housing estate Weissenhof in Stuttgart (1927). Here and once again at the Berlin fashion exhibition (1927), the central theme of which was silk, Mies and Reich presented their concept of “flowing” or “unrestricted” space which was further developed in the Barcelona pavilion (1928-29) and in the Brno Villa (1928-30). They also both cooperated on the projects for the “brick” houses for Erich Wolf in Guben (1925-27) and Hermann Lange and Josef Esters in Krefeld (1927-30). The Tugendhats were impressed by the house in Guben and strongly influenced by Mies' personality. “He had a calm, self-confident certainty which immediately served to convince you. From the manner in which he spoke about his projects, we realised that we were dealing with a genuine artist. He said, for example, that the ideal dimensions of space cannot be calculated, space must be felt.” Mies was the final director of the Bauhaus over the years 1930-33.
He left for the USA in the year 1938 where he took up the directorship of the the Illinois Institute of Technology (IIT) in Chicago where he also established his own office. In the year 1940 he met Lora Marx, his companion during his American years and obtained American citizenship in 1944. Mies worked on the plans for the university grounds for IIT over the years 1939-58. He designed his most radical domestic design for Edith Farnsworth in the form of a glass pavilion (1945-51). He realized the high-rise Lake Shore Drive Apartments in Chicago (1948-51) and the administration skyscraper Seagram Building in New York (1954-58). Mies designed the New National Gallery in Berlin back in his native Germany (1962-68). At the beginning of the year 1969 Mies' Chicago office promised to assist in the restoration of Tugendhat Villa initiated by the Brno architect František Kalivoda and Grete Tugendhat. Ludwig Mies van der Rohe passed away, however, on the 17th of August 1969 in Chicago.
Mies' statement “less is more” is characterised by his pure forms and work with material. Glass, steel and concrete are the attributes of his distinct “International Style” which has influenced architecture up to the present day.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"วัตถุประสงค์ของโครงสร้างทางนั้น ด้วยความรู้สึกแท้จริง (…) อาวาสควรทำให้การอยู่อาศัย ที่ตั้งของโครงสร้าง ตำแหน่งเกี่ยวกับดวงอาทิตย์ โครงร่างของช่องว่างและวัสดุก่อสร้างเป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับการสร้างบ้านที่อยู่อาศัย สิ่งมีชีวิตเป็นอาคารต้องสร้างจากเงื่อนไขเหล่านี้"
ความคิดเหล่านี้ถูกแสดง โดยลุดวิกแห่ง Mies van der Rohe ในปี 1924 และลูกจ้างทั้งหมดในวิลล่าเบอร์
Michael Mies ลุดวิกแห่งมาเรียเกิดวันที่ 27 1886 พฤษภาคมในเยอรมนี Aachen เป็นลูก stonemason Michael Mies ห้าเด็กและภรรยาของเขาคลาย เขาร่วมโรงเรียนโบสถ์คาทอลิก และทั่วไปและโรงเรียนอุตสาหกรรมได้แก่จากค.ศ. 1892-1902 เขาในเวลาเดียวกันเป็น bricklayer เป็นการฝึกอบรม และทำงานเป็นแบบดาส เขาซ้ายในเบอร์ลินในปี 1905 ซึ่งเขาทำงานจนถึงปีเศษ ๆ Paul Bruno ที่นี่เขาจัดโครงการรู้อิสระเขาแรกสำหรับบ้าน Alois และ Riehl โซฟีในฝูงวิ Neubabelsberg ในพอทสดัม (1906-07) เขาทำสำหรับปีเตอร์ Behrens ปี 1908-11 ผ่านที่เขาดูเหมือนว่าจะพัฒนาความสนใจในของ Schinkel คคลา เขาออกแบบบ้านในเบอร์ลิน-Zehlendorf สำหรับเก็บรวบรวมศิลปะ Hugo Perls (1911-12; 1928 แห่งแกลเลอรี่สำหรับนักประวัติศาสตร์ศิลปะและเก็บ Eduard Fuchs) เขาเปิดสำนักงานสถาปัตยกรรมของเขาเองในปีค.ศ. 1913 และแต่งงาน Bruhn Ada (1885-1951) ซึ่งเขามีลูกสาวสาม: โดโรเธียแห่ง (1914 รู้จักกันภายใต้ชื่อประเทศจอร์เจีย van der Rohe), มาริแอน (1915) และ Waltraut (1917 ที่ปีเดียวกันในประเทศโรมาเนียที่ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นทหาร Mies มีบุตรนอกสมรส) เขาซ้าย Ada ภรรยาของเขาในปี 1921 เขาไม่หย่าแล้ว และเพิ่มนามสกุลเดิมของแม่ของเขาเพื่อ Mies ปี 1921-24 เขาสร้างยอดเยี่ยมโครงการตึกระฟ้าที่เคลือบ ด้วยก่อสร้างตามหลักการของ "ผิวหนังและกระดูก" เขากลายเป็นสมาชิกของ Novembergruppe และผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมสถาปนิก Der แหวน ปี 1925-27 รู้บล็อกอพาร์ทเมนท์เบอร์ลินเวดดิ้ง ทำมากใช้หลักการที่ทันสมัยของฟังก์ชันและสุขอนามัย
ของ Mies ชีวิตและทำงานร่วมกับลิลลี่ Reich (1885-1947) เป็น จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ทำงานร่วมกันในนิทรรศการของ Werkbund เยอรมัน "อาศัยอยู่ที่" ดำเนินในรูปแบบของบ้านจัดสรร Weissenhof ในสตุทการ์ท (1927) ที่นี่และครั้งหนึ่งอีกครั้งในเบอร์ลินแฟชั่นนิทรรศการ (1927), รูปแบบกลางที่เป็นผ้าไหม Mies และ Reich แสดงแนวคิดของพวกเขา "ไหล" หรือ "จำกัด" พื้นที่ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นต่อไป ในบาร์เซโลนาพาวิลเลียน (1928-29) และวิ ลล่าเบอร์ (1928-30) พวกเขายังทั้งร่วมมือในโครงการสำหรับบ้าน "อิฐ" หมา ป่าเอริชใน Guben (1925-27) และ แลนจ์มันน์โยเซฟ Esters ใน Krefeld (1927-30) Tugendhats ถูกประทับใจบ้านใน Guben และรับอิทธิพลอย่างยิ่งจากบุคลิกภาพของ Mies "เขาได้แน่นอนใจ ตัวของตัวเองซึ่งบริการจะโน้มน้าวให้คุณทันที จากลักษณะเขาพูดเกี่ยวกับเขา เราเองก็ยังคิดว่า เราได้เผชิญกับศิลปินแท้ เขากล่าวว่า เช่น ที่ ไม่สามารถคำนวณขนาดพื้นที่ห้อง ต้องรู้สึกพื้นที่"Mies ได้กรรมการสุดท้ายของการแสวงปี 1930-33
เขาซ้ายสำหรับสหรัฐอเมริกาในปี 1938 ที่เขาเอาขึ้นดำรงของสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ (มุมไบ) ในชิคาโกซึ่งเขายังก่อตั้งสำนักงานของเขาเอง ในปี ๒๔๘๓ เขาพบ Lora Marx เพื่อนของเขาระหว่างปีอเมริกันของเขา และได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1944 Mies ทำแผนมหาวิทยาลัยเหตุผลในมุมไบปี 1939-58 เขาออกแบบออกแบบภายในประเทศของเขารุนแรงมากที่สุดสำหรับฟาร์นสเวิร์ธ Edith ในรูปแบบของกระโจมแก้ว (1945-51) เขารับรู้สูงเลขับบีชคอมเบอร์ในชิคาโก (1948-51) และดูแลตึกระฟ้าอาคาร Seagram ในนิวยอร์ก (1954-58) Mies มาหอศิลป์แห่งชาติใหม่ในกรุงเบอร์ลินในเยอรมนีบ้านเกิดของเขา (1962-68) เมื่อเริ่มต้นของปี 1969 Mies ชิคาโก สำนักงานสัญญาว่า จะช่วยในการฟื้นฟูของวิลล่า Tugendhat เริ่มต้น โดยสถาปนิกเบอร์แห่งความตายอัน Kalivoda และ Grete Tugendhat ลุดวิกแห่ง Mies van der Rohe สวรรคต อย่างไรก็ตาม ในที่ 17 ของเดือน 1969 สิงหาคมในชิคาโก
งบของ Mies "น้อยคือมาก" มีประสบการ์ โดยฟอร์มบริสุทธิ์ของเขาและทำงานกับวัสดุ แก้ว เหล็ก และคอนกรีตมีแอตทริบิวต์ของเขาว่า "เลิศ" ซึ่งได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมจนถึงปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"วัตถุประสงค์ของโครงสร้างให้มันด้วยความรู้สึกที่แท้จริงของ (... ) ที่อยู่อาศัยควรจะให้บริการสำหรับที่อยู่อาศัย สถานที่ตั้งของโครงสร้างสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับดวงอาทิตย์รูปแบบของพื้นที่และวัสดุก่อสร้างเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการสร้างบ้านที่อยู่อาศัย ชีวิตอาคารจะต้องสร้างขึ้นจากเงื่อนไขเหล่านี้ ".
ความคิดเหล่านี้ถูกแสดงโดยลุดวิก Mies van der Rohe ในปี 1924 และทำงานในเบอร์โนวิลล่าอย่างเต็มที่
มาเรียลุดวิก Mies ไมเคิลเกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1886 ในอาเค่นเยอรมนี น้องคนสุดท้องของลูกห้าคนของไมเคิลตึก Mies และอะมาลีภรรยาของเขา เขาเข้าเรียนที่โรงเรียนโบสถ์ทั่วไปและโรงเรียนคาทอลิกและอุตสาหกรรมในอาเค่น from 1892-1902 เขาในเวลาเดียวกันการฝึกฝนให้เป็นช่างก่ออิฐและทำงานเป็น Sketcher เขาออกจากกรุงเบอร์ลินในปี 1905 ที่เขาทำงานจนถึงปี 1907 สำหรับบรูโน่พอล ที่นี่เขาจัดทำโครงการของเขาเป็นครั้งแรกที่เป็นอิสระตระหนักถึงบ้านสำหรับ Alois และโซฟี Riehl ในอาณานิคมของวิลล่า Neubabelsberg ในพอทสดั (1906-1907) เขาทำงานให้กับปีเตอร์ Behrens ช่วงหลายปีที่ผ่าน 1908-11 ซึ่งเขาดูเหมือนจะสนใจในการพัฒนา Schinkel ของคลาส เขาออกแบบบ้านในกรุงเบอร์ลิน-Zehlendorf สำหรับนักสะสมศิลปะฮิวโก้ Perls (1911-1912; 1928 นอกจากนี้ของแกลเลอรี่สำหรับนักประวัติศาสตร์ศิลป์และนักสะสมเอดูอาร์ฟิวค์) เขาเปิดสำนักงานสถาปัตยกรรมของตัวเองในปี 1913 และแต่งงานกับ Ada Bruhn (1885-1951) ซึ่งเขามีลูกสาวสามคน: โดโรธี (1914 เป็นที่รู้จักกันภายใต้ชื่อจอร์เจียแวนเดอร์ Rohe), หญิง (1915) และ Waltraut (1917 นั่น ในปีเดียวกันในขณะที่ในโรมาเนียซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นทหาร Mies มีลูกชายคนหนึ่งเกิดนอกสมรส) เขาทิ้งภรรยาของเขา Ada ในปี 1921 ที่เขาไม่เคยหย่าร้างและเพิ่มนามสกุลเดิมของแม่ของเขาที่จะ Mies ในช่วงหลายปี 1921-24 เขาสร้างโครงการที่ยอดเยี่ยมสำหรับตึกระฟ้ากระจกที่มีการก่อสร้างขึ้นอยู่กับหลักการของ "ผิวและกระดูก" เขาก็กลายเป็นสมาชิกคนหนึ่งของ Novembergruppe และผู้ร่วมก่อตั้งของสมาคมสถาปนิกฟอนเดอร์แหวน ในช่วงหลายปี 1925-27 เขาตระหนักตึกอพาร์ตเมนต์ในกรุงเบอร์ลิน-แต่งงานอย่างมีนัยสำคัญทำให้การใช้หลักการของการทำงานที่ทันสมัยและสุขอนามัย
ในการทำงานและการใช้ชีวิตความร่วมมือ Mies กับลิลลี่รีค (1885-1947) กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขาทำงาน ร่วมกันในการจัดแสดงนิทรรศการของเยอรมัน Werkbund "อาศัย" ดำเนินการในรูปแบบของบ้านจัดสรร Weissenhof ในสตุตกา (1927) ที่นี่และอีกครั้งหนึ่งในนิทรรศการแฟชั่นเบอร์ลิน (1927), แก่นกลางซึ่งเป็นผ้าไหม, Mies และรีคนำเสนอแนวความคิดของพวกเขาของ "ไหล" หรือ "ไม่ จำกัด " พื้นที่ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อไปในศาลาบาร์เซโลนา (1928-1929) และ ในเบอร์โน Villa (1928-1930) พวกเขาทั้งยังให้ความร่วมมือในโครงการสำหรับ "อิฐ" บ้านสำหรับริชหมาป่าในกูเบน (1925-1927) และแฮร์มันน์มีเหตุมีผลและโจเซฟเอสเทอในเครเฟลด์ (1927-1930) Tugendhats ประทับใจบ้านในกูเบนและมีอิทธิพลโดย Mies บุคลิกภาพ "เขามีความสงบมั่นใจตัวเองแน่นอนซึ่งทันทีทำหน้าที่ที่จะโน้มน้าวให้คุณ จากลักษณะที่เขาพูดเกี่ยวกับโครงการของเราตระหนักว่าเรากำลังจัดการกับศิลปินของแท้ เขากล่าวว่าเช่นว่าขนาดที่เหมาะสมของพื้นที่ไม่สามารถคำนวณพื้นที่ต้องรับรู้ ". Mies เป็นผู้อำนวยการสุดท้ายของ Bauhaus ในช่วงหลายปี 1930-33
เขาออกสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 1938 ที่เขาหยิบขึ้นมา กรรมการของสถาบันเทคโนโลยีอิลลินอยส์ (IIT) ในชิคาโกที่เขายังจัดตั้งสำนักงานของตัวเอง ในปี 1940 เขาได้พบกับมาร์กซ์ Lora สหายของเขาในช่วงปีที่ผ่านมาชาวอเมริกันของเขาและได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1944 Mies ทำงานเกี่ยวกับแผนสำหรับบริเวณมหาวิทยาลัยไอไอทีในช่วงหลายปี 1939-1958 เขาออกแบบการออกแบบในประเทศของเขามากที่สุดรุนแรงสำหรับอีดิ ธ เทนในรูปแบบของศาลาแก้ว (1945-1951) เขาตระหนักสูงริมฝั่งทะเลสาบขับอพาร์ตเมนต์ในชิคาโก (1948-1951) และตึกระฟ้าบริหารแกรมมาอาคารในนิวยอร์ก (1954-1958) Mies ออกแบบหอศิลป์แห่งชาติใหม่ในกรุงเบอร์ลินกลับมาในพื้นเมืองเยอรมันของเขา (1962-1968) ที่จุดเริ่มต้นของปี 1969 Mies สำนักงานชิคาโกสัญญาว่าจะช่วยในการฟื้นฟู Tugendhat วิลล่าริเริ่มโดยสถาปนิกโนFrantišek Kalivoda และ Grete Tugendhat ลุดวิก Mies van der Rohe ผ่านไป แต่ในวันที่ 17 สิงหาคม 1969 ในชิคาโก
คำ Mies "น้อยมาก" โดดเด่นด้วยรูปแบบที่บริสุทธิ์ของเขาและทำงานร่วมกับวัสดุ แก้วเหล็กและคอนกรีตเป็นลักษณะที่แตกต่างของ "สากล" ของเขาซึ่งได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" วัตถุประสงค์ของโครงสร้างให้กับความรู้สึกที่แท้จริงของ ( . . . ) ที่อยู่อาศัยควรเท่านั้นใช้สำหรับที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของ โครงสร้าง ตำแหน่งของมันในความสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์ เค้าโครงของเป็นและวัสดุก่อสร้างเป็นปัจจัยที่จำเป็นสำหรับการสร้างที่อยู่อาศัยบ้าน อาคารชีวิตต้องถูกสร้างขึ้นจากเงื่อนไขเหล่านี้ "
.ความคิดเหล่านี้ถูกแสดงโดย Ludwig Mies van der โรห์ในปี 1924 และมีการจ้างงานใน เบอร์โน วิลล่า มาเรีย ลุดวิก มีส ไมเคิล
เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2429 ใน Aachen เยอรมนีเป็นน้องคนสุดท้องของห้าเด็กของการกระชากไมเคิลมีส และภรรยาของเขา มาลี . เขาเข้าร่วมโรงเรียนโบสถ์คาทอลิกและโรงเรียนทั่วไป และอุตสาหกรรมในอาเคนจาก 1892-1902 .เขาในเวลาเดียวกัน ฝึกเป็นช่างก่ออิฐและทำงานเป็น Sketcher . เขาไปเบอร์ลินในปี 1905 ที่เค้าทำงานอยู่จนถึงปีค.ศ. 1907 สำหรับบรูโน่ พอล ที่นี่เขาเตรียมของเขาแรกอิสระตระหนักสำหรับโครงการบ้านเดี่ยว อาลัวและโซฟี riehl ในวิลล่าอาณานิคมของ neubabelsberg ในพอทสดัม ( 1906-07 )เขาทำงานให้ปีเตอร์เบหเรนปี 1908-11 ผ่านผู้ที่เขาดูเหมือนจะพัฒนาความสนใจใน Schinkel เป็นรีสอร์ท เขาออกแบบบ้านในเบอร์ลิน Zehlendorf สำหรับศิลปะสะสมฮิวโก้ เพิร์ล ( 1911-12 ; 1928 นอกจากนี้ของแกลเลอรี่ศิลปะนักประวัติศาสตร์และนักสะสมเอดูอาร์ด ฟุชส์ )เขาเปิดสำนักงานสถาปัตยกรรมของเขาเองในปี 1913 และแต่งงานกับเอ bruhn ( 1885-1951 ) กับผู้ที่เขามีลูกสาวสามคน : โดโรเธีย ( 1914 , ที่รู้จักกันภายใต้ชื่อจอร์เจีย แวนเดอร์โรห์ ) , มาเรีย ( 1915 ) และ waltraut ( 2460 ; ในปีเดียวกันนั้น ขณะที่ในโรมาเนียที่เขาทำหน้าที่เป็นทหารมีส มีบุตรเกิด ก่อนแต่งงาน )เขาทิ้งเมียเอในปี 1921 ที่เขาไม่เคยหย่า และเพิ่มชื่อของแม่ของเขามีส . ปี 1921-24 เขาสร้างโครงการที่ยอดเยี่ยมสำหรับเคลือบตึกระฟ้าที่มีการก่อสร้างตามหลักการของ " ผิวหนังและกระดูก " เขากลายเป็นสมาชิกของ novembergruppe และผู้ร่วมก่อตั้งของสมาคมสถาปนิก เดอ ริงปี 1925-27 เขาตระหนักว่าบล็อกพาร์ทเมนท์ในงานแต่งงานเบอร์ลินอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ การใช้หลักการสมัยใหม่ของฟังก์ชัน และสุขอนามัย
Mies ' การทำงานและชีวิตร่วมกับ Lilly Reich ( 1885-1947 ) กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญในชีวิตของเขาการทำงานร่วมกันในนิทรรศการของ เยอรมัน werkbund " ที่อยู่อาศัย " ออกมาในรูปของอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย weissenhof ใน Stuttgart ( 1927 ) ที่นี่อีกครั้งที่เบอร์ลินแฟชั่นนิทรรศการ ( 1927 ) , ชุดรูปแบบกลางของที่เป็นผ้าไหมและนำเสนอแนวความคิดของพวกเขาของ Mies Reich " ไหล " หรือ " ไม่จำกัด " พื้นที่ซึ่งถูกพัฒนาต่อไปในศาลาบาร์เซโลนา ( 1928-29 ) และใน เบอร์โน วิลล่า ( 1928-30 ) พวกเขาทั้งยังร่วมมือในโครงการ " บ้านอิฐ " ริค หมาป่าใน Guben ( 1925-27 ) และ เฮอร์มัน แลงจ์ โจเซฟ เทอร์ และใน Krefeld ( 1927-30 )การ tugendhats ประทับใจบ้านใน Guben และได้รับอิทธิพลอย่างมากโดยบุคลิกภาพ Mies ' " เขามีความมั่นใจตัวเองความแน่นอนซึ่งทันทีเสิร์ฟให้คุณ จากวิธีที่เขาพูดเกี่ยวกับโครงการของเขา เราตระหนักว่า เรากำลังเผชิญกับศิลปินของแท้ เขากล่าวว่า เช่น ขนาดของพื้นที่ที่เหมาะจะต้องคำนวณพื้นที่ที่ต้องรู้สึก" มีส คือสุดท้ายกรรมการของ Bauhaus ปี 1930-33 .
เขาไปสหรัฐอเมริกาในปี 1938 ที่เขาเอาขึ้นผู้อำนวยการของ Illinois Institute of Technology ( IIT ) ในชิคาโกที่เขายังได้จัดตั้งสำนักงานของเขาเอง ในปี 1940 เขาได้พบกับ ลอร่า มาร์กซ์ของเขา , สหายในระหว่างปีชาวอเมริกันของเขาและได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 1944 .มีสานแผนมหาวิทยาลัยเหตุผล IIT ปี 1939-58 . เขาออกแบบของเขารุนแรงที่สุดในการออกแบบสำหรับอีดิท เว่อในรูปแบบของศาลาแก้ว ( 1945-51 ) เขารู้ว่าระฟ้าริมฝั่งทะเลสาบอพาร์ทเมนท์ในชิคาโก ( 1948-51 ) และตึกซีแกรมการบริหารอาคารในนิวยอร์ก ( 1954-58 )มีส ออกแบบหอศิลป์แห่งชาติใหม่ในเบอร์ลินในเยอรมันบ้านเกิดของเขา ( 1962-68 ) ที่จุดเริ่มต้นของปี 1969 มีสสำนักงานชิคาโกสัญญาเพื่อช่วยในการฟื้นฟู tugendhat วิลล่าที่ริเริ่มโดย Brno สถาปนิก Franti šเอกและ kalivoda ก่ัะเรเท่ะ tugendhat . Ludwig Mies van der โรห์เสียชีวิต อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2512
ในชิคาโกแถลงการณ์ " มีส ' น้อยมาก " คือ ลักษณะรูปแบบบริสุทธิ์ของเขาและทำงานกับวัสดุ แก้ว เหล็ก และคอนกรีต เป็นคุณสมบัติของเขาที่แตกต่างกันระหว่างประเทศ " สไตล์ " ซึ่งได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมถึงปัจจุบัน