Figure 9 presents the number of res

Figure 9 presents the number of research per renewable energy technology. From the
analysis, it is discovered that each technology requires different expertise. When the main
5 renewable energy technologies, namely solar, ethanol, bio-diesel, biomass, and biogas
are considered, the institutions which have the top-two highest shares of number of research
for each technology are as followed.
Solar : King Mongkut’s University of Technology Thonburi (KMUTT) and Naresuan
University (NU) have by far the higher share of research on solar technology than other
institutions, since they have their own specific laboratories and experienced researchers.
The 2 institutions conducted 268 pieces of research (144 by KMUTT and 124 by NU), accounting
for 67% of all research. Chulalongkorn University is the institution which produced the third
highest number of research, accounting for 11% of all research on solar technology.
Ethanol : Chulalongkorn University is the most prominent institution with regard
to research on ethanol. The University has conducted 119 pieces of research, accounting
for 39% of all research on ethanol. The institution with the second highest number of research
is Khon Kaen University which is an institution with close proximity to the planting areas
of energy crops for ethanol production, including sugar cane and cassava. Khon Kaen University
conducted 24% of all research on ethanol (74 pieces of research), while Chiang Mai University
accounts for 15% (46 pieces of research).
Bio-diesel : The source of primary raw material for bio-diesel is, for example,
palm oil which is located in the South of Thailand. Prince of Songkla University is the most
prominent institution with research on bio-diesel. From the review, Prince of Songkla University
has conducted 81 pieces of research, or 29% of all research on bio-diesel. Other prominent
institutions include Chulalongkorn University and Kasetsart University, with 53 and 34 pieces
of research, accounting for 19% and 12% of all research on bio-diesel respectively.
Biomass : It is discovered from the research review that the research on biomass
technology is scattered in institutions across regions, with no institution particularly prominent.
Nevertheless, the 4 institutions with a number of research around 30-32 pieces include
King Mongkut’s University of Technology Thonburi, Naresuan University, Kasetsart University,
and Chulalongkorn University.
Biogas : Chiang Mai University is the institution with the highest number of research
related to biogas technology, as there is a dedicated biogas research body in the University.
There has been 39 pieces of research conducted (accounting for 29% of the 134 pieces
of research conducted on biogas). Other prominent institutions include Kasetsart University
and Mongkut’s University of Technology Thonburi with 21 and 17 pieces of research
respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 9 แสดงจำนวนงานวิจัยต่อเทคโนโลยีพลังงานทดแทน จากการวิเคราะห์ มันถูกค้นพบว่า แต่ละเทคโนโลยีต้องมีความชำนาญแตกต่างกัน เมื่อหลัก5 เทคโนโลยีพลังงานทดแทน พลังงานแสงอาทิตย์คือ เอทานอล ไบโอดีเซล ชีวมวล และก๊าซชีวภาพว่า สถาบันซึ่งมีงานวิจัยจำนวนหุ้นสูงสุดสองสำหรับแต่ละเทคโนโลยีมีดังนี้พลังงานแสงอาทิตย์: จอมเกล้าธนบุรีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี(พระจอมฯ สำหรับ) และนเรศวรมหาวิทยาลัย (นู) โดยร่วมกันสูงของการวิจัยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์กว่าอื่น ๆสถาบัน มีห้องปฏิบัติการเฉพาะของตนเองและนักวิจัยที่มีประสบการณ์สถาบัน 2 ดำเนินการวิจัย (144 โดยพระจอมฯ สำหรับ) และ 124 โดยนู 268 ชิ้นบัญชี67% ของการวิจัยทั้งหมด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันที่ผลิตบุคคลที่สามจำนวนงานวิจัย บัญชี 11% ของทั้งหมดวิจัยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์สูงสุดเอทานอล: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันที่โดดเด่นที่สุดกับเรื่องการวิจัยในเอทานอล มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการวิจัย 119 ชิ้นบัญชี39% ของการวิจัยทั้งหมดในเอทานอล สถาบันอันดับสองจำนวนสูงสุดของงานวิจัยคือมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็นสถาบันการให้พื้นที่ปลูกพลังงานพืชสำหรับผลิตเอทานอล รวมทั้งอ้อยและมันสำปะหลัง มหาวิทยาลัยขอนแก่นดำเนิน 24% ของเอทานอล (74 ชิ้นงานวิจัย), ในขณะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่วิจัยทั้งหมดบัญชีสำหรับ 15% (46 ชิ้นงานวิจัย)ไบโอดีเซล: แหล่งที่มาของวัตถุดิบหลักสำหรับไบโอดีเซลคือ เช่นน้ำมันปาล์มซึ่งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นส่วนใหญ่สถาบันที่โดดเด่น ด้วยงานวิจัยเกี่ยวกับไบโอดีเซล จากรีวิว มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ดำเนินการวิจัย 81 ชิ้น หรือ 29% ของทั้งหมดวิจัยไบโอดีเซล อื่น ๆ โดดเด่นสถาบันได้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 34 และ 53 ชิ้นงานวิจัย บัญชีสำหรับ 19% และ 12% ของการวิจัยทั้งหมดในไบโอดีเซลตามลำดับชีวมวล: มันถูกค้นพบจากงานวิจัยที่ทบทวนที่วิจัยชีวมวลเทคโนโลยีจะกระจายอยู่ในสถาบันในภูมิภาค กับสถาบันไม่โดดเด่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งอย่างไรก็ตาม สถาบัน 4 จำนวนงานวิจัยรอบรวม 30-32 ชิ้นพระจอมเกล้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีธนบุรี มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก๊าซชีวภาพ: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นสถาบันที่ มีจำนวนงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพ มีตัววิจัยก๊าซชีวภาพโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัยมีการวิจัย (ลง 29% ชิ้น 134 39 ชิ้นของการวิจัยดำเนินการผลิตก๊าซชีวภาพ) สถาบันที่โดดเด่นอื่น ๆ ได้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีกับ 17 และ 21 ชิ้นงานวิจัยตามลาดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 9 นำเสนอจำนวนของการวิจัยต่อเทคโนโลยีพลังงานทดแทน จาก
การวิเคราะห์ก็จะพบว่าแต่ละเทคโนโลยีต้องใช้ความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน เมื่อหลัก
5 เทคโนโลยีพลังงานทดแทน ได้แก่ แสงอาทิตย์เอทานอลไบโอดีเซลชีวมวลและก๊าซชีวภาพ
ได้รับการพิจารณาสถาบันที่มีด้านบนสองหุ้นสูงสุดของจำนวนของการวิจัย
สำหรับแต่ละเทคโนโลยีมีดังนี้.
พลังงานแสงอาทิตย์: มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจ ธ ) และนเรศวร
มหาวิทยาลัย (NU) มีไกลโดยหุ้นที่สูงขึ้นของการวิจัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์กว่าที่อื่น ๆ
สถาบันเนื่องจากพวกเขามีห้องปฏิบัติการของตัวเองที่เฉพาะเจาะจงและนักวิจัยที่มีประสบการณ์.
2 สถาบันดำเนินการ 268 ชิ้นของการวิจัย (144 โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ 124 โดย NU) คิดเป็นสัดส่วน
67% ของการวิจัยทั้งหมด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันการศึกษาที่ผลิตที่สาม
จำนวนมากที่สุดของการวิจัย, การบัญชีสำหรับ 11% ของทั้งหมดในการวิจัยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์.
เอทานอล: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสถาบันที่โดดเด่นที่สุดในเรื่องเกี่ยวกับ
การวิจัยเกี่ยวกับเอทานอล มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการ 119 ชิ้นของการวิจัย, การบัญชี
สำหรับ 39% ของการวิจัยทั้งหมดในเอทานอล สถาบันการศึกษาที่มีจำนวนสูงสุดที่สองของการวิจัย
คือมหาวิทยาลัยขอนแก่นซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีการปลูก
พืชพลังงานสำหรับการผลิตเอทานอลรวมทั้งอ้อยและมันสำปะหลัง มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ดำเนินการ 24% ของการวิจัยทั้งหมดในเอทานอล (74 ชิ้นของการวิจัย) ในขณะที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
บัญชีสำหรับ 15% (46 ชิ้นของการวิจัย).
ไบโอดีเซล: แหล่งที่มาของวัตถุดิบหลักสำหรับไบโอดีเซลคือสำหรับ ตัวอย่างเช่น
น้ำมันปาล์มซึ่งตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์เป็นส่วนใหญ่
สถาบันการศึกษาที่ประสบความสำเร็จกับงานวิจัยเกี่ยวกับไบโอดีเซล จากการตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ได้ดำเนินการ 81 ชิ้นของการวิจัยหรือ 29% ของการวิจัยทั้งหมดเกี่ยวกับไบโอดีเซล โดดเด่นอื่น ๆ
สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 53 และ 34 ชิ้น
ของการวิจัย, การบัญชีสำหรับ 19% และ 12% ของการวิจัยทั้งหมดในไบโอดีเซลตามลำดับ.
ชีวมวล: มันถูกค้นพบจากการทบทวนงานวิจัยที่วิจัยเกี่ยวกับชีวมวล
เทคโนโลยี กระจายอยู่ในสถาบันการศึกษาทั่วภูมิภาคกับสถาบันไม่มีโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่โดดเด่น.
อย่างไรก็ตาม 4 สถาบันที่มีจำนวนของการวิจัยรอบ 30-32 ชิ้น ได้แก่
มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี, มหาวิทยาลัยนเรศวร, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ก๊าซชีวภาพ: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถาบันการศึกษาที่มีจำนวนสูงสุดของการวิจัย
ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีก๊าซชีวภาพที่มีความทุ่มเทร่างกายวิจัยก๊าซชีวภาพในมหาวิทยาลัย.
มี 39 ชิ้นส่วนของการวิจัยดำเนินการ (การบัญชีสำหรับ 29% ของ 134 ชิ้น
ของการวิจัยดำเนินการเกี่ยวกับการผลิตก๊าซชีวภาพ) สถาบันการศึกษาที่โดดเด่นอื่น ๆ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และพระจอมเกล้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 21 และ 17 ชิ้นของการวิจัย
ตามลำดับ