บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
เอกสารเนื้อหานี้มีหัวข้อที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
2.1 ประโยชน์ของขนมปัง
2.2 ประโยชน์ของทูน่า
2.3 ประโยชน์ของน้ำสลัด
2.4 ประโยชน์ของเกลือ
2.5 ประโยชน์ของพริกไทย
2.6 ประโยชน์ของข้าวโพดหวาน
2.7 ประโยชน์ของแครอท
2.8 ประโยชน์ของไข่ต้ม
2.9 ประโยชน์ของผักกาดหอม
2.10 ประโยชน์ของมะเขือเทศ
2.1 ประโยชน์ของขนมปัง
ประโยชน์ของขอบขนมปังเคยได้ยินมาว่าส่วนของขนมปังที่มีไฟเบอร์มากที่สุดคือบริ
เวณขอบขนมปัง ทำให้เกิดความสงสัยว่าขนมปังเวลาอบก็ใช้แป้งอบเป็นก้อนเดียวกันไปเลยแต่เหตุไฉน
ไฟเบอร์จึงมีปริมาณสูงแค่บริเวณขอบ ไม่ใช่ไฟเบอร์ แต่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ดร.โทมัส ฮอฟมานน์ นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยมุนสเตอร์เยอรมนีเป็นผู้พบว่าขอบขนมปังเป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระอัน
อุดมสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่นๆของขนมปังงานวิจัยของเขามาจากการตรวจสอบขอบขนมปังเนื้อขนม
ปังและแป้งธรรมดา พบว่าขอบขนมปังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า โพรนีลไลซีน (pronyl-lysine) มากกว่าในส่วนที่เป็นขนมปังขาว 8 เท่าขณะที่แป้งธรรมดาไม่มีเลยหมายความว่าสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่ว่าจะเกิดขึ้นต่อเมื่อขนมปังผ่านกระบวนการอบมาแล้วเท่านั้นสารโพรนิลไลซีน เกิดขึ้นจากปฏิกิริยา
ของกรดอะมิโนแอล-ไลซีน แป้ง และน้ำตาล ในขั้นตอนการอบ เรียกว่าปฏิกิริยาเมลาร์ด (Maliiard reaction) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสีน้ำตาลบนผิวหน้าของขนมปังที่ผ่านการอบแล้วและกระบวนการ
นี้ยังเป็นตัวสร้างสารให้กลิ่น รสชาติให้ขนมปัง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆงานวิจัยบอกด้วย
ว่าขนมปังที่มีสีน้ำตาลเข้ม เช่น ขนมปังโฮลวีท มีสารต้าน อนุมูลอิสระมากกว่าขนมปังสีขาว และสาร
ต้านอนุมูลอิสระจะยิ่งเพิ่มจำนวนหากก้อนขนมปังที่เข้าเตาอบมีขนาดเล็กเพราะชิ้นขนมปังเล็กๆจะมี
พื้นผิวที่มากขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาในกระบวนการนี้ หากเทียบกับขนมปังที่เป็นก้อนใหญ่ หรือเป็น
ปอนด์แต่ฮอฟมานน์เตือนว่าถ้าพยายามอบขนมปังให้เป็นสีน้ำตาลจนเกรียมมากไปสารเคมีที่มีประ
โยชน์ก็จะอันตรายได้ง่ายๆ เหมือนกัน