Practical variations• In the Full A

Practical variations
• In the Full Analytical Criteria Method, the allocation of weighting and scoring numbers is done through comparing each item against all others by using a standard scoring scheme. This requires a matrix to be calculated for both (a) allocating weights for criteria against the objective, as in step 5, and (b) comparing the list of items againsteach criterion, as in step 8. Thus, with three criteria, four matrices must be used (one for weighting the criteria and one for scoring each list against the criteria). The detail in this method makes it useful for critical applications, but it is probably too time-consuming for most normal situations.
The process is described below (and illustrated in Fig. 1):
a. Draw a square matrix, with items both in rows down the left and also in columns along the top.
2. In each square, compare the row item against the column item, using the following scoring scheme:
10 = Row item is much more important than column item
5 = Row item is more important than column item
1 = Row item is equally important to column item
0.2 = Row item is less important than column item
0.1 = Row item is much less important than column item
Squares may be done in diagonally opposite pairs, as if A versus B scores 5 then B versus A must score 0.2. Note that as with other scoring schemes, use of real data will give much better results than subjective guesses.
c. Add up the numbers in each row and convert to a percentage by dividing each one by the total of all row totals.
This final figure is now used for the weight (when comparing criteria against the basic objective) or score (when comparing all items against one criterion).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปแบบการปฏิบัติ•ในเต็มวิเคราะห์เงื่อนไขวิธีการ การปันส่วนของน้ำหนัก และให้คะแนนตัวเลขจะทำผ่านการเปรียบเทียบสินค้าแต่ละรายการกับผู้อื่นทั้งหมดโดยใช้แบบคะแนนมาตรฐาน การเมทริกซ์การคำนวณ (ก) น้ำหนักปันส่วนสำหรับเงื่อนไขวัตถุประสงค์ ในขั้นตอนที่ 5 และ (ข) เปรียบเทียบรายการสินค้า againsteach เงื่อนไข ในขั้นตอนที่ 8 ดังนั้น เกณฑ์สาม สี่เมทริกซ์ต้องจะใช้ (สำหรับน้ำหนักสำหรับแต่ละรายการเทียบกับเกณฑ์การให้คะแนนและเกณฑ์) รายละเอียดในวิธีการนี้ทำให้มีประโยชน์สำหรับโปรแกรมประยุกต์ที่สำคัญ แต่ก็อาจใช้เวลานานเกินไปสำหรับสถานการณ์ปกติมากที่สุดกระบวนการถูกอธิบายไว้ด้านล่าง (และใข Fig. 1):อ.วาดเมทริกซ์จัตุรัส มีสินค้าทั้ง ในแถวล่างด้านซ้าย และ ในคอลัมน์ด้านบน2. ในแต่ละสแควร์ เปรียบเทียบสินค้าแถวกับคอลัมน์รายการ ใช้โครงร่างการให้คะแนนดังต่อไปนี้:10 =แถวสินค้ามีความสำคัญมากขึ้นกว่ารายการคอลัมน์5 =แถวสินค้าเป็นสำคัญกว่ารายการคอลัมน์1 =แถวสินค้าเป็นสิ่งสำคัญรายการคอลัมน์0.2 =แถวสินค้ามีความสำคัญน้อยกว่ารายการคอลัมน์0.1 =แถวสินค้ามีความสำคัญมากน้อยกว่ารายการคอลัมน์สี่เหลี่ยมอาจทำได้ในแนวทแยงมุมตรงข้ามคู่ ว่า A กับ B แล้ว B กับ A ต้องคะแนน 0.2 5 คะแนน หมายเหตุว่า เช่นเดียวกับแผนงานอื่น ๆ ให้คะแนน การใช้ข้อมูลจริงจะให้ผลดีกว่าจากการทายตามอัตวิสัยมาก ค.เพิ่มค่าตัวเลขในแต่ละแถว และแปลงเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยแบ่งแต่ละคน โดยผลรวมของผลรวมแถวทั้งหมดรูปนี้สุดท้ายตอนนี้จะใช้สำหรับน้ำหนัก (เมื่อเปรียบเทียบเงื่อนไขวัตถุประสงค์พื้นฐาน) หรือคะแนน (เมื่อเปรียบเทียบสินค้าทั้งหมดกับหนึ่งเงื่อนไข)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปแบบการปฏิบัติ•ในเกณฑ์การวิเคราะห์เต็มวิธีการจัดสรรน้ำหนักและตัวเลขการให้คะแนนจะกระทำผ่านรายการเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ ทั้งหมดในแต่ละโดยใช้รูปแบบการให้คะแนนมาตรฐาน
นี้ต้องใช้เมทริกซ์จะนำไปคำนวณสำหรับทั้งสอง (ก) การจัดสรรน้ำหนักเกณฑ์กับวัตถุประสงค์เช่นเดียวกับในขั้นตอนที่ 5 และ (ข) การเปรียบเทียบรายชื่อของรายการเกณฑ์ againsteach ในขณะที่ขั้นตอนที่ 8 จึงมีสามเกณฑ์สี่เมทริกซ์ จะต้องใช้ (สำหรับน้ำหนักหลักเกณฑ์และหนึ่งสำหรับคะแนนรายการกับเกณฑ์ที่แต่ละคน) รายละเอียดในวิธีนี้ทำให้มันมีประโยชน์สำหรับการใช้งานที่สำคัญ แต่มันอาจจะเป็นมากเกินไปใช้เวลานานสำหรับสถานการณ์ปกติมากที่สุด.
กระบวนการดังนี้ (และแสดงในรูปที่ 1.)
วาดเมทริกซ์สแควร์กับรายการทั้งในแถวลงซ้ายและยังอยู่ในคอลัมน์ด้านบน.
2 ในแต่ละตารางเปรียบเทียบรายการแถวกับรายการคอลัมน์โดยใช้รูปแบบการให้คะแนนดังต่อไปนี้:
10 = รายการแถวเป็นสิ่งที่สำคัญมากขึ้นกว่ารายการคอลัมน์
5 = รายการแถวมีความสำคัญมากกว่ารายการคอลัมน์
1 = รายการแถวเป็นสิ่งสำคัญอย่างเท่าเทียมกันกับรายการคอลัมน์
0.2 = รายการแถวมีความสำคัญน้อยกว่ารายการคอลัมน์
0.1 = รายการแถวมากสำคัญน้อยกว่ารายการที่คอลัมน์สแควร์อาจจะทำในคู่ตรงข้ามแนวทแยงมุมเช่นถ้าเมื่อเทียบกับคะแนน B 5 เมื่อเทียบกับ B แล้วจะต้องได้คะแนน 0.2
โปรดทราบว่าเช่นเดียวกับรูปแบบการให้คะแนนอื่น ๆ การใช้ข้อมูลจริงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าคาดเดาอัตนัย.
ค เพิ่มขึ้นตัวเลขในแต่ละแถวและแปลงเป็นร้อยละโดยการหารแต่ละคนโดยรวมของผลรวมแถวทั้งหมด.
นี้ตัวเลขสุดท้ายถูกนำมาใช้ในขณะนี้สำหรับน้ำหนัก (เมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์กับวัตถุประสงค์พื้นฐาน) หรือคะแนน (เมื่อเปรียบเทียบกับทุกรายการกับ หนึ่งในเกณฑ์)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- วิธีปฏิบัติในรูปแบบ
เกณฑ์วิเคราะห์เต็มรูปแบบ , การจัดสรรน้ำหนักและตัวเลขคะแนนจะทำผ่านการเปรียบเทียบแต่ละรายการกับผู้อื่นโดยใช้มาตรฐานการให้คะแนนโครงร่าง นี้ต้องใช้เมทริกซ์จะคำนวณทั้ง ( ก ) จัดสรรน้ำหนักเกณฑ์กับวัตถุประสงค์ ในขั้นตอนที่ 5 และ ( ข ) การเปรียบเทียบรายการของเกณฑ์ againsteach ในขั้นตอนที่ 8ดังนั้น กับเกณฑ์ที่สาม สี่ เมทริกซ์จะต้องใช้ ( สำหรับน้ำหนักและเกณฑ์การให้คะแนนสำหรับแต่ละรายการต่อเกณฑ์ ) รายละเอียดในวิธีนี้ทำให้มันมีประโยชน์สำหรับการใช้งานที่สำคัญ แต่มันอาจจะต้องใช้เวลามากสำหรับสถานการณ์ปกติที่สุด
กระบวนการที่อธิบายไว้ด้านล่าง ( แสดงในรูปที่ 1 ) :
a วาดเมทริกซ์จัตุรัสกับรายการทั้งในแถวแล้วยังลงในคอลัมน์ตามด้านบน .
2 ในแต่ละตารางเปรียบเทียบสินค้าแถวกับคอลัมน์รายการ โดยใช้คะแนนตามโครงการ :
10 = แถวรายการสำคัญกว่าสินค้า
5 = รายการคอลัมน์แถวสำคัญกว่าข้อ 1 =
คอลัมน์แถวรายการสำคัญอย่างเท่าเทียมกัน
รายการคอลัมน์ 0.2 = แถวรายการสำคัญน้อยกว่ารายการคอลัมน์
01 = แถวสินค้ามีมากน้อยสำคัญกว่าสี่เหลี่ยมสินค้า
คอลัมน์อาจจะทำในแนวทแยงมุม ตรงข้าม คู่ เช่นถ้าเทียบกับ B แล้ว B คะแนน 5 และต้องมีคะแนน 0.2 โปรดทราบว่าคะแนนเป็นกับอื่น ๆรูปแบบการใช้ข้อมูลที่แท้จริงจะให้ผลดีกว่าอัตนัยการคาดเดา
C เพิ่มตัวเลขในแต่ละแถว และแปลงเป็นค่าร้อยละโดยแบ่งแต่ละตัวโดยรวมของผลรวม
แถวทั้งหมดนี่รูปสุดท้ายคือตอนนี้ใช้สำหรับน้ำหนัก ( เมื่อเทียบเกณฑ์กับวัตถุประสงค์พื้นฐาน ) หรือคะแนน ( เมื่อเปรียบเทียบกับรายการทั้งหมด
เกณฑ์ )