MNNA status was first created in 19

MNNA status was first created in 1989 when section 2350a, otherwise known as the Nunn Amendment, was added to Title 10 (Armed Forces) of the United States Code by Congress.[1] It stipulated that cooperative research and development agreements could be enacted with non-NATO allies by the Secretary of Defense with the concurrence of the Secretary of State. Initial MNNAs were Australia, Egypt, Israel, Japan, and South Korea.

In 1996, major non-NATO allies received additional military and financial benefits when section 2321k was added to Title 22 (Foreign Relations) of the U.S. Code (also known as section 517 of the Foreign Assistance Act of 1961), which added MNNAs to many of the same exemptions from the Arms Export Control Act that were enjoyed by NATO members. It also authorized the President to designate a nation as an MNNA thirty days after notifying Congress.[2] When enacted, the statute designated Australia, Egypt, Israel, Japan, Jordan, New Zealand, and South Korea as major non-NATO allies.

U.S.-New Zealand strategic and military cooperation suffered a setback after the breakdown of the ANZUS alliance in 1984 over nuclear ship entry. The designation of New Zealand as an MNNA reflected the warming of relations between the two. In June 2012 New Zealand signed a partnership arrangement with NATO further strengthening and consolidating relations.

In 2014, a bill was introduced to the United States Congress to grant major non-NATO ally status to Georgia, Moldova and Ukraine.[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สถานะ MNNA แรกสร้างในปี 1989 เมื่อส่วน 2350a หรือที่เรียกว่าแก้ไข Nunn เพิ่ม 10 ตำแหน่ง (กองทัพ) ของสหรัฐอเมริการหัส โดยรัฐสภา[1] ได้กำหนดว่า ข้อตกลงการวิจัยและพัฒนาสหกรณ์สามารถบัญญัติกับพันธมิตรนอกนาโต โดยการป้องกันของเลขานุการกับ concurrence ของเลขานุการของรัฐ MNNAs เริ่มต้นออสเตรเลีย อียิปต์ อิสราเอล ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ในปี 1996 พันธมิตรนอกนาโตหลักประโยชน์ทางทหาร และทางการเงินเพิ่มเติมเมื่อมีเพิ่มส่วนเค 2321 ถึง 22 เรื่อง (ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) ของสหรัฐอเมริการหัส (เรียกอีกอย่างว่าส่วน 517 ของพระราชบัญญัติการช่วยเหลือต่างประเทศของ 1961), ซึ่งเพิ่ม MNNAs มาย exemptions เดียวจากอาวุธส่งออกควบคุมการกระทำที่ไม่ชอบ โดยสมาชิกนาโต้ รับ นอกจากนี้ยังได้อนุญาตประธานเพื่อกำหนดประเทศ MNNA มีเป็นสิบวันหลังจากแจ้งให้สภา[2] เมื่อบัญญัติ กฎหมายที่กำหนดให้ออสเตรเลีย อียิปต์ อิสราเอล ญี่ปุ่น Jordan นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้เป็นพันธมิตรนอกนาโตใหญ่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ และการทหารสหรัฐนิวซีแลนด์ประสบการพิจารณาหลังจากการแบ่งของพันธมิตร ANZUS ใน 1984 ผ่านรายการเรือนิวเคลียร์ กำหนดของนิวซีแลนด์เป็น MNNA ที่สะท้อนภาวะโลกร้อนของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ในเดือน 2012 มิถุนายน นิวซีแลนด์ลงนามจัดร่วมกับนาโต้ที่เข้มแข็ง และการรวมความสัมพันธ์เพิ่มเติมในปี 2014 รายการถูกนำไปรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาให้พันธมิตรนอกนาโตหลักสถานะจอร์เจีย มอลโดวา และยูเครน[3]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

mnna สถานะถูกสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1989 เมื่อส่วน 2350a หรือที่เรียกว่าการแก้ไขนัน ถูกเพิ่มชื่อ ( ทหารอากาศ ) รหัสของสหรัฐอเมริกาโดยรัฐสภา . [ 1 ] มันกำหนดว่าข้อตกลงการวิจัย และพัฒนาสหกรณ์อาจเป็นไปด้วยไม่ใช่นาโตพันธมิตร โดยรัฐมนตรีกลาโหมด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีของรัฐ mnnas เริ่มต้นออสเตรเลีย อียิปต์อิสราเอล ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ในปี 1996 พันธมิตรนาโตทหารหลักและไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางการเงินเพิ่มเติมเมื่อส่วน 2321k ถูกเพิ่มชื่อ ( ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ) ของสหรัฐอเมริการหัส ( ที่รู้จักกันว่า มาตรา 112 ของความช่วยเหลือจากต่างประเทศพระราชบัญญัติ 1961 ) ซึ่งเป็น mnnas หลายสำหรับเดียวกัน แขนควบคุมการส่งออกพระราชบัญญัติที่ถูกชอบโดยสมาชิกนาโตนอกจากนี้ยังอนุมัติให้แต่งตั้งประธานประเทศเป็น mnna สามสิบวันหลังจากแจ้งรัฐสภา [ 2 ] เมื่อประกาศใช้ กฎหมายเขตออสเตรเลีย อียิปต์ อิสราเอล ญี่ปุ่น จอร์แดน นิวซีแลนด์ และเกาหลีใต้เป็นพันธมิตรนาโต้ที่สำคัญไม่

ความร่วมมือทางทหารและยุทธศาสตร์สหรัฐ - นิวซีแลนด์ประสบความล้มเหลว หลังจาก รายละเอียดของพันธมิตรแอนซัสในปี 1984 กว่าเรือนิวเคลียร์รายการชื่อใหม่ของนิวซีแลนด์เป็น mnna สะท้อนให้เห็นภาวะของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ในเดือนมิถุนายน 2012 นิวซีแลนด์ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับนาโต้เพิ่มเติม เพิ่ม และรวบรวมความสัมพันธ์

ใน 2014 , บิลแนะนำให้รัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อให้สาขาโนนนาโตพันธมิตรสถานะจอร์เจีย มอลโดวา และ ยูเครน [ 2 ]