In the strict "teacher-tell" model

In the strict "teacher-tell" model of traditional educational approaches, teachers who sought to become friends with their students were outside the norm. In some cases, this kind of behavior was actually seen as a breach of ethics. Teachers were the experts and students were the novices and the gap between them was to be maintained to preserve both order in the class and the respect for authority needed for learning to occur.
Recent research on how the brain learns has turned that view upside down in many educational environments. Although there is still some disagreement about brain-based research, it does appear to indicate students learn best that which is relevant to their lives.
How can teachers structure their content and presentation methods to reflect relevance if they have little, if any, understanding of their individual students and the way contemporary students live their lives?
And what better way to learn than to make efforts to be on friendly terms with as many students as possible? Hours spent searching the Internet might provide insight as to the likes and dislikes of students in your educational environment, but they cannot give you an understanding of the needs and wants of the specific individuals for whom you are responsible.
For some teachers, befriending students is a simple matter of being available to them as often as possible and sharing experiences. Teachers arrive early and remain after class to chat with students as frequently as possible. Attendance at all school extracurricular activities and formal functions provides additional opportunities to engage in life-centered conversations with students.
There are many things to talk about that bridge the age gap. Students may be surprised to learn teachers were equally enthralled by the musical stars of their day. Tales of struggling with homework and final examinations humanizes a teacher, and makes students feel like he or she is "one of them." Anything that narrows the perception gap where students see teachers as out of touch with their world promotes friendship.
Befriending students is not a problem.
However, given the fact we are only human, it is possible to become friendlier with some students than others. Indeed, it is possible that attempts to befriend students may lead to the discovery that some are simply hard to like at all! And those positive and negative preferences can begin to influence classroom behavior on the part of both teacher and student.
Fairness is critical in teaching and if your behavior towards certain students with whom you are especially friendly even hints at favored treatment in any way, the other students will sense the favoritism and react accordingly.
The fairness principle applies to all educational environments - elementary education, graduate education, and industrial education. If the trainer is on a company sponsored athletic team with a few participants and appears partial to them in the class setting, that can cause problems.
This presents a real ethical dilemma for many modern teachers. Ethics is about principles of right and wrong. Certainly it is not wrong to befriend students and in fact can be beneficial. But how far can one go before friendship extends to favoritism in the class?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเข้มงวด "บอกครู" รูปแบบของวิธีการศึกษาแบบดั้งเดิม ครูที่ขอเป็น เพื่อนกับนักศึกษาได้อยู่ปกติ ในบางกรณี ชนิดของลักษณะการทำงานนี้ถูกมองว่าเป็นการละเมิดจริยธรรมจริง ครูได้ผู้เชี่ยวชาญ และนักเรียนมีสามเณร และช่องว่างระหว่างพวกเขาต้องรักษาเพื่อรักษาทั้งลำดับชั้นและการเคารพในอำนาจที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้นการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับวิธีการเรียนรู้ของสมองมีคว่ำมุมมองในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาจำนวนมาก แม้ว่ายังมีบางกันเกี่ยวกับวิจัยใช้สมอง มันจะบ่งชี้ว่า นักเรียนส่วนที่ว่าเกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขาวิธีสามารถครูโครงสร้างวิธีการเนื้อหาและนำเสนอถึงความเกี่ยวข้องได้เข้าใจน้อย ถ้ามี นักศึกษาและแบบเรียนสมัยชีวิตและที่ดีกว่าวิธีการเรียนรู้มากกว่าการพยายามให้เงื่อนไขเป็นมิตรกับนักเรียนมากที่สุด ชั่วโมงใช้เวลาค้นหาอินเทอร์เน็ตอาจให้ความเข้าใจเป็นชอบ และไม่ชอบของนักเรียนในระบบการศึกษาของคุณ แต่พวกเขาไม่สามารถให้ความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการ และต้องการของบุคคลเฉพาะที่คุณต้องรับผิดชอบสำหรับครูบาง befriending นักเรียนเป็นเรื่องเรื่องที่ว่างไปบ่อยสุดและประสบการณ์ ครูมาถึงก่อน และอยู่หลังเลิกเรียนสนทนากับนักเรียนบ่อยที่สุด เข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรของโรงเรียนทั้งหมดและฟังก์ชันทางให้โอกาสเพิ่มเติมในชีวิตแปลกบทสนทนากับนักเรียนมีสิ่งต่าง ๆ มากมายเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับที่เชื่อมต่อช่องว่างของอายุ นักเรียนอาจจะประหลาดใจที่เรียนครูได้เท่า ๆ กันติดใจดาวดนตรีของวันของพวกเขา ของการดิ้นรนกับการบ้านและตรวจสอบขั้นสุดท้าย humanizes ครู และทำให้นักเรียนรู้สึกว่าเขาหรือเธอเป็น "หนึ่งในพวกเขา" สิ่งที่จำกัดช่องว่างการรับรู้ที่นักเรียนเห็นครูเป็น out of touch with โลกของพวกเขา ส่งเสริมมิตรภาพBefriending นักเรียนไม่มีปัญหาอย่างไรก็ตาม ให้ความจริงที่เราเป็นเพียงมนุษย์ มันได้กลายเป็นแนะกับนักเรียนบางคนอื่น ๆ แน่นอน เป็นไปได้ว่า พยายามตีนักศึกษาอาจนำไปสู่การค้นพบว่า มีเพียงยากชอบเลย และเริ่มต้นตั้งค่าบวก และลบที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในห้องเรียนในส่วนของครูและนักเรียนยุติธรรมมีความสำคัญในการเรียนการสอน และถ้าคุณทำงานไปเรียนบางที่คุณมีคำแนะนำแม้แต่มิตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่รักษาชื่นชอบในทางใดทางหนึ่ง นักเรียนคนอื่น ๆ จะรู้สึกที่พรรค และตอบสนองตามหลักการยุติธรรมใช้กับทั้งหมดศึกษาสภาพแวดล้อม - ประถมศึกษา บัณฑิตศึกษา และครุศาสตร์อุตสาหกรรม ถ้าพี่เลี้ยงใน บริษัทสนับสนุนทีมกีฬา มีกี่คน และปรากฏบางส่วนไปในการตั้งค่าเรียน ที่สามารถทำให้เกิดปัญหานี้นำเสนอลำบากใจจริงจริยธรรมสำหรับครูหลายสมัย จริยธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลักการไม่ถูกต้อง และเหมาะสม แน่นอนมันไม่ผิดที่ตีนักเรียน และในความเป็นจริงสามารถเป็นประโยชน์ แต่ว่าไกลสามารถหนึ่งไปก่อนขยายมิตรภาพให้พรรคในระดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการที่เข้มงวด "ครูบอก" รูปแบบของวิธีการศึกษาแบบดั้งเดิมครูที่พยายามที่จะเป็นเพื่อนกับนักเรียนของพวกเขาอยู่ข้างนอกบรรทัดฐาน ในบางกรณีชนิดของพฤติกรรมนี้ก็เห็นจริงตามที่ละเมิดจริยธรรม ครูเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการให้นักเรียนได้มีสามเณรและช่องว่างระหว่างพวกเขาก็จะได้รับการรักษาจะรักษาคำสั่งทั้งในชั้นเรียนและการเคารพอำนาจที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น.
การวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับวิธีการทำงานของสมองอย่างมีการเปิดมุมมองที่คว่ำลงใน สภาพแวดล้อมการศึกษาจำนวนมาก แม้ว่าจะยังคงมีความขัดแย้งเกี่ยวกับการวิจัยสมองที่ใช้บางส่วนก็ไม่ปรากฏบ่งบอกให้นักเรียนเรียนรู้ที่ดีที่สุดที่ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขา.
วิธีครูสามารถโครงสร้างเนื้อหาและวิธีการนำเสนอของพวกเขาที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันถ้าพวกเขามีน้อยถ้ามีความเข้าใจใน นักเรียนแต่ละคนของพวกเขาและนักเรียนร่วมสมัยวิธีชีวิตของพวกเขา
และสิ่งที่วิธีที่ดีกว่าที่จะเรียนรู้มากกว่าที่จะทำให้ความพยายามที่จะเป็นมิตรกับนักเรียนมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้หรือไม่ ชั่วโมงใช้เวลาค้นหาอินเทอร์เน็ตอาจจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการชอบและไม่ชอบของนักเรียนในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาของคุณ แต่พวกเขาไม่สามารถให้คุณเข้าใจในความต้องการและความต้องการของบุคคลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับคนที่คุณมีความรับผิดชอบ.
สำหรับครูบางตีสนิทนักเรียนคือ เป็นเรื่องธรรมดาของการให้บริการให้กับพวกเขาได้บ่อยเท่าที่เป็นไปได้และการแบ่งปันประสบการณ์ ครูมาถึงช่วงต้นและยังคงหลังเลิกเรียนที่จะพูดคุยกับนักเรียนเป็นบ่อยที่สุด ครั้งที่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนนอกหลักสูตรและฟังก์ชั่นอย่างเป็นทางการให้โอกาสเพิ่มเติมในการมีส่วนร่วมในการสนทนาในชีวิตเป็นศูนย์กลางกับนักเรียน.
มีหลายสิ่งที่จะพูดคุยเกี่ยวกับที่สะพานช่องว่างอายุเป็น นักเรียนอาจจะประหลาดใจที่จะเรียนรู้ครู enthralled เท่าเทียมกันโดยดาวดนตรีของวันของพวกเขา นิทานของดิ้นรนกับการบ้านและการสอบครั้งสุดท้าย humanizes ครูและทำให้นักเรียนรู้สึกเหมือนเขาหรือเธอเป็น "หนึ่งของพวกเขา." อะไรที่แคบช่องว่างการรับรู้ที่นักเรียนเห็นครูเป็นออกจากการสัมผัสกับโลกของพวกเขาส่งเสริมมิตรภาพ.
ตีสนิทนักเรียนไม่ได้เป็นปัญหา.
แต่ให้ความเป็นจริงเราเป็นเพียงมนุษย์ก็เป็นไปได้ที่จะเป็นมิตรกับนักเรียนบางกว่าคนอื่น ๆ อันที่จริงก็เป็นไปได้ที่พยายามตีสนิทกับนักเรียนอาจนำไปสู่การค้นพบว่าบางส่วนเป็นเพียงยากที่จะชอบที่ทุกคน! และผู้ที่การตั้งค่าในเชิงบวกและเชิงลบจะเริ่มมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในห้องเรียนในส่วนของทั้งครูและนักเรียน.
ความเป็นธรรมเป็นสิ่งสำคัญในการเรียนการสอนและหากพฤติกรรมของคุณที่มีต่อนักเรียนบางอย่างกับคนที่คุณมีความเป็นมิตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งแม้แต่คำแนะนำที่ได้รับการสนับสนุนการรักษาในทางใดทางอื่น ๆ . นักเรียนจะรู้สึกลำเอียงและตอบสนองตาม
หลักการความเป็นธรรมนำไปใช้กับสภาพแวดล้อมการศึกษาทั้งหมด - การศึกษาระดับประถมศึกษา, การศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาและการศึกษาอุตสาหกรรม หากครูผู้สอนอยู่ใน บริษัท ที่ได้รับการสนับสนุนทีมกีฬาที่มีผู้เข้าร่วมไม่กี่และปรากฏบางส่วนเพื่อให้พวกเขาในการตั้งค่าระดับที่สามารถก่อให้เกิดปัญหา.
นี้นำเสนอภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริยธรรมจริงสำหรับครูผู้สอนที่ทันสมัยมาก จริยธรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับหลักการของถูกและผิด แน่นอนมันไม่ผิดที่จะตีสนิทกับนักเรียนและในความเป็นจริงจะเป็นประโยชน์ แต่วิธีการห่างไกลหนึ่งสามารถไปก่อนที่จะขยายไปถึงมิตรภาพความลำเอียงในชั้นเรียน?

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในครูอย่างเข้มงวด " บอก " รูปแบบของแนวทางการศึกษาแบบดั้งเดิม ครูที่พยายามที่จะเป็นเพื่อนกับนักเรียนของพวกเขานอกบรรทัดฐาน ในบางกรณี พฤติกรรมเช่นนี้ก็ถือเป็นการละเมิดจริยธรรมครูผู้เชี่ยวชาญและนักเรียนสามเณร และช่องว่างระหว่างพวกเขาจะยังคงรักษาทั้งคำสั่งในชั้นเรียนและเคารพในอำนาจที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ที่จะเกิดขึ้น .
ล่าสุดวิจัยเกี่ยวกับวิธีการที่สมองเรียนรู้ได้เปิดมุมมองที่คว่ำลงในสภาพแวดล้อมทางการศึกษามาก แม้ว่ายังคงมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับสมองวิจัยตามมันแสดงถึงนักเรียนเรียนรู้ที่ดีที่สุดที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขา .
แล้วครูโครงสร้างเนื้อหาและวิธีการนำเสนอ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องถ้าพวกเขาได้น้อย ถ้ามีความเข้าใจของนักเรียนแต่ละคนและวิธีที่พวกเขาใช้ชีวิตนักศึกษาร่วมสมัย ?
และสิ่งที่วิธีที่ดีกว่าที่จะเรียนรู้มากกว่าการพยายามที่จะสนิทกับนักเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้หรือไม่ ? ชั่วโมงการใช้จ่ายการค้นหาทางอินเทอร์เน็ตที่อาจให้ข้อมูลเชิงลึก เช่น การชอบและไม่ชอบของนักเรียนในสภาพแวดล้อมทางการศึกษาของคุณ แต่พวกเขาสามารถให้คุณมีความเข้าใจในความต้องการและความต้องการของบุคคลเฉพาะผู้ที่คุณมีความรับผิดชอบ
ครูบ้างตีสนิทกับคนเป็นเรื่องง่ายที่จะใช้พวกเขาได้บ่อยเท่าที่เป็นไปได้และประสบการณ์ร่วมกัน ครูมาถึงช่วงต้นและยังคงอยู่หลังจากเรียนสนทนากับนักเรียนบ่อยเท่าที่เป็นไปได้ การเข้าร่วมในกิจกรรมโรงเรียนนอกหลักสูตรและหน้าที่ทางการเปิดโอกาสเพิ่มเติมเพื่อประกอบในชีวิตเป็นศูนย์กลางการสนทนากับนักเรียน
มีหลายเรื่องที่คุยกันที่สะพานช่องว่างอายุ . นักเรียนอาจจะประหลาดใจที่จะเรียนรู้ครูกัน enthralled โดยดาวดนตรีของวันของพวกเขา นิทานของการดิ้นรนกับการบ้านและการสอบขั้นสุดท้าย humanizes อาจารย์และทำให้นักศึกษารู้สึกว่าเขาหรือเธอเป็น " หนึ่งของพวกเขา" อะไรที่แคบ การรับรู้ช่องว่างที่นักเรียนเห็นครูออกจากการสัมผัสกับโลกของพวกเขาส่งเสริมมิตรภาพ
ตีสนิทกับนักเรียนไม่ใช่ปัญหา .
แต่ได้รับความเป็นจริงเราเป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง มันเป็นไปได้ที่จะกลายเป็น เป็นมิตรกับนักเรียนกว่าคนอื่น ๆ แน่นอนมันเป็นไปได้ที่พยายามตีสนิทกับนักเรียน อาจนำไปสู่การค้นพบว่ามีเพียง ยาก ที่ จะ ชอบ เลย และผู้ที่เป็นบวกและลบการตั้งค่าสามารถเริ่มต้นที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมในชั้นเรียนเป็นส่วนหนึ่งของทั้งครูและนักเรียน
ความยุติธรรมเป็นสำคัญในการสอน และถ้าพฤติกรรมของคุณต่อนักเรียนหนึ่งกับผู้ที่คุณมีคำแนะนำก็เป็นกันเองโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ชื่นชอบการรักษาใด ๆ นักเรียนคนอื่น ๆ จะรู้สึกว่าลำเอียง และตอบสนองตาม .
ความเป็นธรรมหลักการนี้ใช้กับสภาพแวดล้อมทางการศึกษาทั้งระดับประถมศึกษา , การศึกษาและการศึกษาอุตสาหกรรมถ้าผู้ฝึกสอนใน บริษัท ที่สนับสนุนนักกีฬาทีม 2-3 คนและปรากฏบางส่วนกับพวกเขาในห้องเรียนการตั้งค่าที่สามารถทำให้เกิดปัญหา .
นี้นำเสนอจริยธรรมที่แท้จริงสำหรับครูสมัยใหม่มากมาย จริยธรรมเป็นหลักการที่ถูกต้องและผิด แน่นอนมันไม่ผิดที่จะผูกมิตรกับนักเรียนและในความเป็นจริงสามารถเป็นประโยชน์แต่หนึ่งสามารถไป ก่อนขยายไปสู่มิตรภาพผองในชั้นเรียน ?