there was no significant effect of

there was no significant effect of cage type. However,
the number of cracked eggs significantly increased with
increasing days in lay (Table 1). Percentage cracked egg
was higher in the second half of the production cycle,
periods 6 to 10, than the first half of the production
cycle, periods 1 to 5. The percentage of soft-shelled
eggs was not affected by cage design. The influence of
the housing system on percentage of soft-shelled eggs
was only observed in periods 4 (CON = 0.10; ENR
= 0.02) and 9 (CON = 0.11; ENR = 0.22), in which
the number of soft-shelled eggs was higher and lower,
respectively, in conventional cages than in the enriched
cages. Consequently, these observed differences were
unable to elicit a cage × period interaction effect. As
with the percentage of cracked eggs, incidence of softshelled
eggs gradually increased with age (Table 1). The
overall percentage of dirty eggs, unlike the other egg
quality measurements, differed markedly between cage
designs (P < 0.0001; Table 2). The percentage of dirty
eggs in the conventional cages was consistently lower
throughout the laying cycle. There was a significant
(P < 0.0001) period effect for percentage of dirty eggs
(Table 1). Percentage of dirty eggs in enriched cages
remained relatively constant from period 1 to 2 but
increased steadily from period 3 to 10. A cage × period
interaction was brought about by the higher increase in
percentage of dirty eggs in period 3 and a more rapid
decline in period 6 in enriched cages.
At 37 and 61 wk, overall plumage condition was not
affected by cage type (Table 3). However, in the wing
region, feather score was higher in birds in conventional
cages than enriched cages. The mean score for each of
the other 5 individual body parts did not differ between
cages. The tail region consistently scored the lowest
(worst), wings, neck, and vent regions having intermediate
scores and the back and breast regions the highest
(best) score among all body regions (Table 3). Bone
mineral density of tibia and humerus of birds housed
in enriched cages was significantly higher (P < 0.05)
than birds in conventional cages (Table 4). A similar
but nonsignificant pattern was observed for bone mineral
content, ash weight, and percentage of calcium
and phosphorus of tibia and humerus. Mean values of
plasma corticosterone and antibody production (log2
antibody titer against NDV vaccine) before and after
vaccination for NDV (Table 5) and H/L ratio for laying
hens housed in conventional and enriched cages were
not affected by cage design (Table 6). Plasma corticosterone
level remained the same after NDV vaccination.
However, as expected, a significant increase in antibody
titer was observed in both housing systems postvaccination
(Table 5). Differential leukocyte counts were
similar in conventional and enriched cages except for
the number of lymphocytes, which was higher (P <
0.05) in conventional than in enriched cages (Table 6).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม่มีผลสำคัญชนิดกรงได้ อย่างไรก็ตามจำนวนไข่ที่มีรอยร้าวมากขึ้นด้วยเพิ่มวันเลย์ (ตาราง 1) ไข่แตกเปอร์เซ็นต์สูงขึ้นในครึ่งหลังของวงจรการผลิตรอบระยะเวลา 6-10 กว่าครึ่งแรกของการผลิตรอบ รอบระยะเวลา 1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของ soft-shelledไข่ไม่ได้รับผลกระทบ โดยการออกแบบกรง อิทธิพลของระบบที่อยู่อาศัยในเปอร์เซ็นต์ของไข่ soft-shelledเท่าที่สังเกตในรอบ 4 (คอน = 0.10 ENR= 0.02) และ 9 (คอน = 0.11 ENR =$ 0.22), ที่จำนวนไข่ soft-shelled ถูกสูง และ ต่ำตามลำดับ ในกรงธรรมดามากกว่าในที่อุดมกรง ดังนั้น นี้สังเกตความแตกต่างได้ไม่สามารถบอกผลโต้ตอบรอบซื้อกรง เป็นมีเปอร์เซ็นต์ของไข่รอยร้าว อุบัติการณ์ของ softshelledค่อย ๆ เพิ่มไข่อายุ (ตารางที่ 1) ที่เปอร์เซ็นต์รวมของไข่สกปรก ต่างจากไข่อื่น ๆการประเมินคุณภาพ แตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่างกรงออกแบบ (P < มาก 0.0001 ตาราง 2) เปอร์เซ็นต์ของสกปรกไข่ในกรงแบบเดิมถูกลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวงจร laying มีความสำคัญ(P < มาก 0.0001) ผลรอบระยะเวลาสำหรับเปอร์เซ็นต์ของไข่สกปรก(ตาราง 1) เปอร์เซ็นต์ของไข่สกปรกในกรงค่อนยังคงค่อนข้างคงที่จากรอบระยะเวลาแต่ 1-2เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากระยะเวลา 3-10 ระยะเวลาซื้อกรงโต้ตอบถูกนำมาเกี่ยวกับ โดยเพิ่มสูงขึ้นเปอร์เซ็นต์ของไข่สกปรกใน 3 รอบระยะเวลาและรวดเร็วมากขึ้นลดลงในระยะเวลา 6 ในกรงค่อนที่ 61 และ 37 wk, plumage สภาพโดยรวมไม่รับผลกระทบจากกรงชนิด (ตาราง 3) อย่างไรก็ตาม ในปีกภูมิภาค คะแนนนกสูงในนกทั่วไปกรงกรงอุดมกว่า คะแนนเฉลี่ยสำหรับแต่ละ5 ละร่างกายส่วนอื่น ๆ ได้ไม่แตกต่างกันระหว่างกรง ภูมิภาคหางอย่างสม่ำเสมอคะแนนต่ำที่สุด(เลวร้ายที่สุด), ปีก กะเหรี่ยงคอ และภาคกลางมีระบายคะแนนและหลังและอกขอบเขตสูงสุดคะแนน (ดี) ระหว่างภูมิภาคทั้งหมดในร่างกาย (ตาราง 3) กระดูกความหนาแน่นของกระดูกแข้งและกระดูกต้นแขนของนกห้องพักในกรงค่อนได้อย่างมีนัยสำคัญ (P < 0.05)กว่านกในกรงธรรมดา (ตาราง 4) ความคล้ายคลึงกันแต่รูปแบบ nonsignificant เป็นสังเกตสำหรับแร่กระดูกเนื้อหา น้ำหนักเถ้า และเปอร์เซ็นต์ของแคลเซียมและฟอสฟอรัสกระดูกแข้งและกระดูกต้นแขน ค่าเฉลี่ยของพลาสม่า corticosterone และแอนติบอดีผลิต (log2titer แอนติบอดีกับ NDV วัคซีน) ก่อน และหลังวัคซีนสำหรับ NDV (ตาราง 5) และอัตราส่วน H/L อาคารไก่ในกรงธรรมดา และอุดมได้ไม่มีผลกระทบ โดยการออกแบบกรง (ตาราง 6) พลาสม่า corticosteroneระดับอยู่เหมือนกันหลังจากฉีดวัคซีน NDVอย่างไรก็ตาม เป็นที่คาดหวัง การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในแอนติบอดีtiter ถูกตรวจสอบในระบบทั้งที่อยู่อาศัย postvaccination(ตาราง 5) Leukocyte แตกต่างนับได้เหมือนปกติ และอุดมกรงยกเว้นจำนวน lymphocytes ซึ่งสูงกว่า (P <0.05) ในทั่วไปมากกว่าในกรงค่อน (ตาราง 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญจากประเภทกรง แต่จำนวนไข่แตกอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นกับวันที่เพิ่มขึ้นในการวาง(ตารางที่ 1) ร้อยละไข่แตกเป็นที่สูงขึ้นในช่วงครึ่งหลังของวงจรการผลิต, ระยะเวลา 6-10 กว่าครึ่งแรกของปีการผลิตรอบระยะเวลา1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของนุ่มตะพาบไข่ไม่ได้รับผลกระทบจากการออกแบบกรง อิทธิพลของระบบที่อยู่อาศัยในอัตราร้อยละของไข่อ่อนปอกเปลือกพบว่าเฉพาะในช่วงเวลา4 (CON = 0.10; ENR = 0.02) และ 9 (CON = 0.11; ENR = 0.22) ซึ่งในจำนวนไข่นุ่มเปลือกเป็น สูงขึ้นและลด, ตามลำดับในกรงธรรมดากว่าในที่อุดมด้วยกรง ดังนั้นความแตกต่างที่สังเกตเหล่านี้ไม่สามารถที่จะล้วงเอากรง×ปฏิสัมพันธ์ระยะเวลา ในฐานะที่เป็นที่มีร้อยละของไข่แตกอุบัติการณ์ของ softshelled ไข่ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นกับอายุ (ตารางที่ 1) เปอร์เซ็นต์โดยรวมของไข่ที่สกปรกเหมือนไข่อื่น ๆวัดที่มีคุณภาพโดดเด่นแตกต่างระหว่างกรงออกแบบ (p <0.0001; ตารางที่ 2) ร้อยละของสกปรกไข่ในกรงธรรมดาลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดวงจรการวาง มีอย่างมีนัยสำคัญ(p <0.0001) มีผลบังคับใช้ระยะเวลาในการร้อยละของไข่ที่สกปรก(ตารางที่ 1) ร้อยละของไข่ที่สกปรกในกรงอุดมค่อนข้างคงที่เมื่อเทียบกับช่วง 1-2 แต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากช่วง 3 ถึง 10 กรง x ระยะเวลาการทำงานร่วมกันได้โดยนำเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นที่สูงขึ้นในอัตราร้อยละของไข่ที่สกปรกใน3 ช่วงเวลาและมากขึ้นอย่างรวดเร็วลดลงในงวด 6 ในกระชังอุดม. ที่ 37 และ 61 สัปดาห์สภาพขนนกโดยรวมไม่ได้รับผลกระทบจากชนิดกรง(ตารางที่ 3) อย่างไรก็ตามในปีกภูมิภาคคะแนนสูงขนนกในนกธรรมดาในกรงกว่ากรงอุดม คะแนนเฉลี่ยของแต่ละอื่น ๆ 5 ส่วนร่างกายของแต่ละบุคคลไม่แตกต่างกันระหว่างกรง ภูมิภาคหางอย่างต่อเนื่องทำคะแนนต่ำที่สุด(ที่เลวร้ายที่สุด), ปีก, คอและระบายภูมิภาคกลางมีคะแนนและภูมิภาคกลับมาและเต้านมที่สูงที่สุด(ดีที่สุด) คะแนนในภูมิภาคร่างกายทั้งหมด (ตารางที่ 3) กระดูกความหนาแน่นของกระดูกหน้าแข้งและกระดูกของนกที่ตั้งอยู่ในกรงที่อุดมด้วยอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้น(P <0.05) กว่านกอยู่ในกรงธรรมดา (ตารางที่ 4) คล้ายรูปแบบแต่ไม่มีนัยสำคัญเป็นข้อสังเกตสำหรับแร่ธาตุในกระดูกเนื้อหาน้ำหนักเถ้าและร้อยละของแคลเซียมและฟอสฟอรัสของแข้งและกระดูก ค่าเฉลี่ยของcorticosterone พลาสม่าและการผลิตแอนติบอดี (log2 titer แอนติบอดีต่อต้านวัคซีน NDV) ก่อนและหลังการฉีดวัคซีนสำหรับNDV (ตารางที่ 5) และ H / อัตราส่วน L สำหรับการวางไก่อยู่ในกรงธรรมดาและอุดมถูกไม่ได้รับผลกระทบจากการออกแบบกรง(ตารางที่ 6) . corticosterone พลาสม่าระดับยังคงเหมือนเดิมหลังจากการฉีดวัคซีนNDV. แต่เป็นที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในแอนติบอดีไตเตอร์พบว่าในที่อยู่อาศัยทั้งระบบ postvaccination (ตารางที่ 5) นับเม็ดเลือดขาวที่แตกต่างกันมีความคล้ายคลึงกันในกรงธรรมดาและอุดมยกเว้นสำหรับจำนวนของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นที่สูงขึ้น(P <0.05) ในการชุมนุมกว่าในกรงที่อุดมด้วย (ตารางที่ 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่มีผลของชนิดของกรง อย่างไรก็ตาม
จำนวนไข่แตกเพิ่มขึ้นกับ
เพิ่มวันในการวาง ( ตารางที่ 1 ) เปอร์เซ็นต์ไข่แตก
สูงขึ้นในครึ่งหลังของรอบระยะเวลาการผลิต
6 ถึง 10 กว่าครึ่งปีแรก ของรอบการผลิต
ระยะเวลา 1 ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของนุ่มเปลือก
ไข่ไม่มีผลต่อการออกแบบกรง อิทธิพลของ
ที่อยู่อาศัยระบบเปอร์เซ็นต์ของเปลือกไข่นิ่ม
เพิ่งสังเกตในคาบ 4 ( con = 0.10 ; ENR
= 0.02 ) และ 9 ( con = 0.11 ; ENR = 0.22 ) ซึ่งใน
จำนวนเปลือกไข่นิ่มที่สูงขึ้นและลดลง
ตามลำดับในกรงธรรมดากว่าในอุดม
กรง . ทำให้ความแตกต่างที่สังเกตได้
ไม่สามารถล้วงเอากรง×เวลาปฏิสัมพันธ์ . โดย
กับ ค่าไข่แตก , การ softshelled
ไข่จะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามอายุ ( ตารางที่ 1 )
เปอร์เซ็นต์โดยรวมของไข่สกปรก ซึ่งแตกต่างจากวัดอื่น ๆ คุณภาพไข่
, แตกต่างอย่างเด่นชัดระหว่างการออกแบบกรง
( p < 0.0001 ; ตารางที่ 2 ) เปอร์เซ็นต์ของไข่สกปรก
ในกรงธรรมดาที่เป็นอย่างต่อเนื่องลดลง
ตลอดวางรอบ มีสถิติ
( p < 00001 ) ระยะเวลาผลเปอร์เซ็นต์
ไข่สกปรก ( ตารางที่ 1 ) จำนวนไข่ในกรงสกปรกอุดม
ยังคงค่อนข้างคงที่ จากช่วง 1 - 2 แต่
เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ 3 กับ 10 กรง×ระยะเวลา
ปฏิสัมพันธ์ต้องยกให้สูงเพิ่ม
เปอร์เซ็นต์ของไข่สกปรกในช่วงที่ 3 และลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 6
เพิ่มเติมในอุดมกรง .
ที่ 61 ต่อ 37 ,สภาพขนโดยรวมไม่ได้
ผลกระทบจากประเภทกรง ( ตารางที่ 3 ) อย่างไรก็ตาม ปีกขนนก
ภาค คะแนนสูงกว่านกในกรงธรรมดา
กว่าอุดมสมบูรณ์ กรง คะแนนเฉลี่ยของแต่ละอื่น ๆแต่ละส่วนของร่างกาย 5

ไม่แตกต่างกันระหว่างกรง ภูมิภาคหางเสมอคะแนนต่ำสุด
( เลวร้ายที่สุด ) คอ ปีก และ ภูมิภาคกลาง
ระบายมีคะแนนและหลังและอกภูมิภาคสูงสุด
( ดีที่สุด ) คะแนนระหว่างภาคร่างกายทั้งหมด ( ตารางที่ 3 ) ความหนาแน่นของแร่กระดูก
ของกระดูกหน้าแข้งและกระดูกของนกในกรงอยู่
อุดมสูงกว่า ( P < 0.05 )
มากกว่านกในกรงธรรมดา ( ตารางที่ 4 ) ที่คล้ายกัน แต่ไม่มีแบบแผนเป็นสังเกตสำหรับ

เนื้อหาเถ้ากระดูก , น้ำหนัก , และเปอร์เซ็นต์แคลเซียม
และฟอสฟอรัสของกระดูกหน้าแข้งและกระดูก . หมายถึงค่า
พลาสมาและแอนติบอดีที่ผลิตคอร์ติโคสเตอโรน ( LOG
แอนติบอดีต่อวัคซีน ndv ) ก่อนและหลัง
ฉีดวัคซีน ndv ( ตารางที่ 5 ) และอัตราส่วนของ H / L สำหรับวาง
ไก่ตั้งอยู่ในแบบปกติ และ อุดม กรงถูก
ไม่มีผลต่อการออกแบบกรง ( ตารางที่ 6 ) ระดับคอร์ติโคสเตอโรน
พลาสม่ายังคงเหมือนเดิม หลังการฉีดวัคซีน ndv .
แต่อย่างที่คาดไว้ผลการเพิ่มค่า (
) ทั้งในระบบที่อยู่อาศัย postvaccination
( ตารางที่ 5 ) อันดับ 2 ครั้งถูก
คล้ายคลึงกันในแบบปกติ และ อุดม กรง ยกเว้น
จำนวนเม็ดเลือดขาวซึ่งสูงกว่า ( P <
0.05 ) กว่าในกรงแบบอุดม ( ตารางที่ 6 )