Conventionally, in point-to-point t

Conventionally, in point-to-point transmission systems, the signal strength variation is measured by
the path loss describing the range dependence of the signal strength, which is defined as Fig. 3 shows the measured path loss at the static measurements points. Also shown is a comparison
with the free space loss and the path loss given by ITU-R Recommendation P.1546-3 [1], which
provides a method for point-to-area radio propagation predictions for terrestrial services in the
frequency range 30 MHz to 3 000 MHz. At some points in our scenario there are major obstacles to
the signal from the main transmitter (Sumaré), which is located near by the top but on the eastern side
of the highest hills in the region, as indicated in Fig. 4. Due to the obstruction of the signal transmitted
by this main source, we observed higher losses in the measured points that are closer to the main site.
Although ITU-R P.1812 [2] could provide more accurate results for this type of environment, it
requires detailed information about the terrain profile that is not available in this case.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามอัตภาพ ในระบบส่งกำลังแบบจุดต่อจุด การเปลี่ยนแปลงความแรงของสัญญาณจะถูกวัดโดยการสูญเสียของเส้นทางที่อธิบายการพึ่งพาการช่วงของความแรงของสัญญาณ เป็นรูป 3 แสดงการสูญเสียเส้นทางวัดที่จุดวัดไฟฟ้าสถิต แสดงเป็นการเปรียบเทียบการสูญเสียเนื้อที่และการสูญเสียของเส้นทางที่กำหนดโดย ITU-R แนะนำ P.1546-3 [1], ซึ่งแสดงวิธีการสำหรับการคาดการณ์พื้นที่จุดวิทยุเผยแพร่บริการภาคพื้นดินในการช่วงความถี่ 30 MHz 3 000 MHz บางจุดในสถานการณ์ของเรา มีอุปสรรคที่สำคัญสัญญาณจากตัวส่งหลัก (Sumaré), ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ด้านบน แต่ด้านตะวันออกภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาค ตามที่ระบุไว้ในรูปที่ 4 เนื่องจากการอุดตันของส่งสัญญาณโดยแหล่งนี้หลัก ที่เราสังเกตเห็นขาดทุนสูงในจุดวัดที่อยู่ใกล้กับเว็บไซต์หลักแม้ว่า ITU-R P.1812 [2] สามารถให้ผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้นสำหรับสภาพแวดล้อม ชนิดนี้มันต้องการข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับโปรไฟล์ของภูมิประเทศที่ไม่มีอยู่ในกรณีนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อัตภาพในจุดหนึ่งไปยังจุดที่ระบบส่งการเปลี่ยนแปลงความแรงของสัญญาณที่วัดโดย
สูญเสียในเส้นทางอธิบายการพึ่งพาอาศัยช่วงของความแรงของสัญญาณซึ่งถูกกำหนดให้เป็นรูป 3 แสดงให้เห็นถึงการสูญเสียเส้นทางวัดที่จุดตรวจวัดแบบคงที่ ยังแสดงให้เห็นคือการเปรียบเทียบ
กับการสูญเสียพื้นที่ว่างและสูญเสียในเส้นทางที่กำหนดโดย ITU-R คำแนะนำ P.1546-3 [1] ซึ่ง
มีวิธีสำหรับจุดหนึ่งไปยังพื้นที่การคาดการณ์คลื่นวิทยุสำหรับการให้บริการภาคพื้นดินใน
ช่วงความถี่ 30 MHz ถึง 000 MHz 3 ในบางจุดในสถานการณ์ของเรามีอุปสรรคที่สำคัญในการ
ส่งสัญญาณจากเครื่องส่งสัญญาณหลัก (Sumaré) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้โดยด้านบน แต่ทางด้านตะวันออก
ของภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคตามที่ระบุไว้ในรูป 4. เนื่องจากการอุดตันของสัญญาณที่ส่ง
จากแหล่งที่มาหลักนี้เราสังเกตเห็นการสูญเสียที่สูงขึ้นในจุดที่วัดที่มีความใกล้ชิดกับเว็บไซต์หลัก.
แม้ว่า ITU-R P.1812 [2] สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องมากขึ้นสำหรับประเภทนี้ สภาพแวดล้อมก็
ต้องมีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดภูมิประเทศที่ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยทั่วไป ในระบบส่งจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง , ความแรงของสัญญาณการเปลี่ยนแปลงเป็นวัดโดยเส้นทางการสูญเสียอธิบายช่วงขึ้นอยู่กับความแรงของสัญญาณ ซึ่งหมายถึง รูปที่ 3 แสดงวัดเส้นทางการสูญเสียที่การวัดแบบจุด ยังแสดงการเปรียบเทียบกับการสูญเสียพื้นที่ฟรีและให้คำแนะนำเส้นทางการสูญเสีย itu-r p.1546-3 [ 1 ] ซึ่งให้วิธีการสำหรับการชี้ไปยังพื้นที่การแพร่กระจายคลื่นวิทยุคาดคะเนสำหรับการบริการภาคพื้นดินในช่วง 30 MHz ถึง 3 , 000 MHz ความถี่ ที่บางจุดในสถานการณ์ของเรามีอุปสรรคใหญ่เพื่อสัญญาณจากเครื่องหลัก ( sumar é ) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ด้านบน แต่ด้านตะวันออกของภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาค แสดงในรูปที่ 4 เนื่องจากการอุดตันของสัญญาณที่ส่งตามแหล่งที่มาหลักนี้ เราพบว่าขาดทุนสูงในวัดจุดที่ใกล้ชิดกับเว็บไซต์หลักแม้ว่า itu-r p.1812 [ 2 ] จะให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องสำหรับสภาพแวดล้อมชนิดนี้ต้องการข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับภูมิประเทศโปรไฟล์ที่ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีนี้