พญา ลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัย ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยา การแปล - พญา ลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัย ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยา ไทย วิธีการพูด

พญา ลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งก

พญา ลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัย ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางัวนำถม จากหลักฐานในศิลาจารึกวัดพระมหาธาตุ พ.ศ. 1935 หลักที่ 8 ข. ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2499 ได้กล่าวว่า เมื่อพระยาเลอไทสวรรคต ใน พ.ศ. 1884 พระยางัวนำถมได้ขึ้นครองราชย์ ต่อมาพระยาลิไทยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า พระเศรีสุริยพงสรามมหาธรรมราชาธิราช ในศิลาจารึกมักเรียกพระนามเดิมว่า "พระยาลิไท" หรือเรียกย่อว่า พระมหาธรรมราชาที่ 1

พญาลิไททรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก ทรงผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วง นอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก ทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชใน กรุงสุโขทัย เผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้น ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง รวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมาก เช่น พระพุทธชินสีห์ พระศรีศาสดา และพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือ พระพุทธชินราช ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

พญาลิไท ทรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนา ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎก พระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎก ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบท ด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพ ราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"

นอกจากศาสนาพุทธแล้ว พญาลิไทยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาพราหมณ์ด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลก

ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้ เจริญหลายประการ เช่น สร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุม สร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นเมืองลูกหลวง

ด้านอักษรศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย


พระราชกรณียกิจที่สำคัญ



- การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ เพราะสุโขทัยหลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว บ้านเมืองแตกแยกแคว้นหลายแคว้นในราชอาณาจักรแยกตัวออกห่างไป ไม่อยู่ในบังคับบัญชาสุโขทัยต่อไป

- พญาลิไททรงคิดจะรวบรวมสุโขทัยให้กลับคืนดังเดิม แต่ก็ทรงทำไม่สำเร็จ นโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนาเป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักใน รัชสมัยนี้

- ทรงสร้างเจดีย์ที่นครชุม (เมืองกำแพงเพชร) สร้างพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก

- ทรงออกผนวช เมื่อ พ.ศ. ๑๙๐๕ การที่ทรงออกผนวช นับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้น ดังกล่าวแล้วว่า หลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้ว บ้านเมืองแตกแยก วงการสงฆ์เองก็แตกแยก แต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไป เมื่อผู้นำทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึงขั้นออกบวช พสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์ กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกล พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่างๆ เช่น อโยธยา หลวงพระบาง เมืองน่าน พระเจ้ากือนา แห่งล้านนาไทย ได้นิมนต์พระสมณะเถระไปจากสุโขทัย เพื่อเผยแพร่ธรรมในเมืองเชียงใหม่ พระมหาธรรมราชาที่ ๑ หรือพญาลิไท มีมเหสีชื่อพระนางศรีธรรม ทรงมีโอรสสืบพระราชบัลลังก์ต่อมา คือ พระ มหาธรรมราชาที่สอง ปีสวรรคตของกษัตริย์ พระองค์นี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คงอยู่ในระยะเวลา ระหว่างปี พ.ศ. ๑๙๒๑-๑๙๒๗
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
พญาลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัยขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางัวนำถมจากหลักฐานในศิลาจารึกวัดพระมหาธาตุพ.ศ. 1935 หลักที่ 8 ข. ค้นพบเมื่อพ.ศ. ปี 2499 ได้กล่าวว่าเมื่อพระยาเลอไทสวรรคตในพ.ศ. 1884 พระยางัวนำถมได้ขึ้นครองราชย์ต่อมาพระยาลิไทยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้และขึ้นครองราชย์ในพ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่าพระเศรีสุริยพงสรามมหาธรรมราชาธิราชในศิลาจารึกมักเรียกพระนามเดิมว่า "พระยาลิไท" หรือเรียกย่อว่าพระมหาธรรมราชาที่ 1พญาลิไททรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากทรงผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อพ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วงนอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตกทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัยเผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้นทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่งรวมทั้งการสร้างพระพุทธรูปเป็นจำนวนมากเช่นพระพุทธชินสีห์พระศรีศาสดาและพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือพระพุทธชินราชปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารพญาลิไททรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนาทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกพระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" โดยให้ฝ่ายคามวาสีเน้นหนักการสั่งสอนราษฎรในเมืองและเน้นการศึกษาพระไตรปิฎกส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบทด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพราษฎรจึงถวายพระนามว่า "พระมหาธรรมราชา"นอกจากศาสนาพุทธแล้วพญาลิไทยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาพราหมณ์ด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลกทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการเช่นสร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุมสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) เป็นเมืองลูกหลวงด้านอักษรศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยพระราชกรณียกิจที่สำคัญ -การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติเพราะสุโขทัยหลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้วบ้านเมืองแตกแยกแคว้นหลายแคว้นในราชอาณาจักรแยกตัวออกห่างไปไม่อยู่ในบังคับบัญชาสุโขทัยต่อไป -พญาลิไททรงคิดจะรวบรวมสุโขทัยให้กลับคืนดังเดิมแต่ก็ทรงทำไม่สำเร็จนโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนาเป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักในรัชสมัยนี้ -สร้างพระพุทธชินราชที่พิษณุโลกทรงสร้างเจดีย์ที่นครชุม (เมืองกำแพงเพชร) -ทรงออกผนวชเมื่อพ.ศ. ๑๙๐๕ การที่ทรงออกผนวชนับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้นดังกล่าวแล้วว่าหลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้วบ้านเมืองแตกแยกวงการสงฆ์เองก็แตกแยกแต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไปเมื่อผู้นำทรงมีศรัทธาแรงกล้าถึงขั้นออกบวชพสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกลพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่าง ๆ เช่นอโยธยาหลวงพระบางเมืองน่านพระเจ้ากือนาแห่งล้านนาไทยได้นิมนต์พระสมณะเถระไปจากสุโขทัยเพื่อเผยแพร่ธรรมในเมืองเชียงใหม่พระมหาธรรมราชาที่ ๑ หรือพญาลิไทมีมเหสีชื่อพระนางศรีธรรมทรงมีโอรสสืบพระราชบัลลังก์ต่อมาคือพระมหาธรรมราชาที่สองปีสวรรคตของกษัตริย์พระองค์นี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดแต่คงอยู่ในระยะเวลาระหว่างปีพ.ศ. ๑๙๒๑ - ๑๙๒๗
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
พญาลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัยขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางัวนำถม พ.ศ. 1935 หลักที่ 8 ข ค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2499 ได้กล่าวว่าเมื่อพระยาเลอไทสวรรคตใน พ.ศ. 1884 พระยางัวนำถมได้ขึ้นครองราชย์ และขึ้นครองราชย์ใน พ.ศ. 1890 ทรงพระนามว่า ในศิลาจารึกมักเรียกพระนามเดิมว่า "พระยาลิไท" หรือเรียกย่อว่าพระมหาธรรมราชาที่ ทรงผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อ พ.ศ. 1905 ที่วัดป่ามะม่วงนอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตก กรุงสุโขทัย ทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่ง เช่นพระพุทธชินสีห์พระศรีศาสดา พระพุทธชินราช ทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกพระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย "คามวาสี" และฝ่าย "อรัญวาสี" ราษฎรจึงถวายพระนามว่า เจริญหลายประการเช่น (กำแพงเพชร) บูรณะเมืองนครชุมสร้างเมืองสองแคว (พิษณุโลก) ไม่อยู่ในบังคับบัญชาสุโขทัยต่อไป- แต่ก็ทรงทำไม่สำเร็จ รัชสมัยนี้- ทรงสร้างเจดีย์ที่นครชุม (เมืองกำแพงเพชร) สร้างพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก- ทรงออกผนวชเมื่อ พ.ศ. 1905 การที่ทรงออกผนวช ดังกล่าวแล้วว่า บ้านเมืองแตกแยกวงการสงฆ์เองก็แตกแยก เช่นอโยธยาหลวงพระบางเมืองน่านพระเจ้ากือนาแห่งล้านนาไทยได้นิมนต์พระสมณะเถระไปจากสุโขทัยเพื่อเผยแพร่ธรรมในเมืองเชียงใหม่พระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือพญาลิไทมีมเหสีชื่อพระนางศรีธรรมทรงมีโอรสสืบ พระราชบัลลังก์ต่อมาคือพระมหาธรรมราชาที่สองปีสวรรคตของกษัตริย์พระองค์นี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่คงอยู่ในระยะเวลาระหว่างปี พ.ศ. 1921-1927























การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
พญาลิไทเป็นกษัตริย์องค์ที่ 6 แห่งกรุงสุโขทัยขึ้นครองราชย์ต่อจากพระยางัวนำถมจากหลักฐานในศิลาจารึกวัดพระมหาธาตุพ . ศ . 1935 หลักที่ 8 ข . ค้นพบเมื่อพ . ศ . 2499 ได้กล่าวว่าเมื่อพระยาเลอไทสวรรคต the พ . ศ .1884 พระยางัวนำถมได้ขึ้นครองราชย์ต่อมาพระยาลิไทยกทัพมาแย่งชิงราชสมบัติได้และขึ้นครองราชย์ในพ . ศ .1890 ทรงพระนามว่าพระเศรีสุริยพงสรามมหาธรรมราชาธิราชในศิลาจารึกมักเรียกพระนามเดิมว่า " พระยาลิไท " หรือเรียกย่อว่าพระมหาธรรมราชาที่ 1

พญาลิไททรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมากทรงผนวชในพระพุทธศาสนาเมื่อพ . ศ .1905 ที่วัดป่ามะม่วงนอกเมืองสุโขทัยทางทิศตะวันตกทรงอาราธนาพระสามิสังฆราชจากลังกาเข้ามาเป็นสังฆราชในกรุงสุโขทัยเผยแพร่เพิ่มความเจริญให้แก่พระศาสนามากยิ่งขึ้นทรงสร้างและบูรณะวัดมากมายหลายแห่งเช่นพระพุทธชินสีห์พระศรีศาสดาและพระพุทธรูปองค์สำคัญองค์หนึ่งของประเทศคือพระพุทธชินราชปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร

พญาลิไททรงปราดเปรื่องในความรู้ในพระพุทธศาสนาทรงมีความรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกพระองค์ได้ทรงแบ่งพระสงฆ์ออกเป็น 2 ฝ่ายคือฝ่าย " คามวาสี " และฝ่าย " อรัญวาสี "ส่วนฝ่ายอรัญวาสีเน้นให้หนักด้านการวิปัสสนาและประจำอยู่ตามป่าหรือชนบทด้วยทรงเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนาตลอดพระชนม์ชีพราษฎรจึงถวายพระนามว่า " พระมหาธรรมราชา "

นอกจากศาสนาพุทธแล้วพญาลิไทยังทรงอุปถัมภ์ศาสนาพราหมณ์ด้วยโดยทรงสร้างเทวรูปขนาดใหญ่หลายองค์ซึ่งยังเหลือปรากฏให้ศึกษาในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในกรุงเทพมหานครและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดพิษณุโลก

ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เจริญหลายประการเช่นสร้างถนนพระร่วงตั้งแต่เมืองศรีสัชนาลัยผ่านกรุงสุโขทัยไปถึงเมืองนครชุม ( กำแพงเพชร ) บูรณะเมืองนครชุมสร้างเมืองสองแคว ( พิษณุโลก ) เป็นเมืองลูกหลวง

ด้านอักษรศาสตร์ทรงพระปรีชาสามารถนิพนธ์หนังสือไตรภูมิพระร่วงที่นับเป็นงานนิพนธ์ที่เก่าแก่ที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย






พระราชกรณียกิจที่สำคัญ- การทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติเพราะสุโขทัยหลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้วบ้านเมืองแตกแยกแคว้นหลายแคว้นในราชอาณาจักรแยกตัวออกห่างไปไม่อยู่ในบังคับบัญชาสุโขทัยต่อไป

- พญาลิไททรงคิดจะรวบรวมสุโขทัยให้กลับคืนดังเดิมแต่ก็ทรงทำไม่สำเร็จนโยบายการปกครองที่ใช้ศาสนาเป็นหลักรวมความเป็นปึกแผ่นจึงเป็นนโยบายหลักในรัชสมัยนี้

- ทรงสร้างเจดีย์ที่นครชุม ( เมืองกำแพงเพชร ) สร้างพระพุทธชินราชที่พิษณุโลก

- ทรงออกผนวชเมื่อพ . ศ .๑๙๐๕การที่ทรงออกผนวชนับว่าทำความมั่นคงให้พุทธศาสนามากขึ้นดังกล่าวแล้วว่าหลังรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแล้วบ้านเมืองแตกแยกวงการสงฆ์เองก็แตกแยกแต่ละสำนักแต่ละเมืองก็ปฏิบัติแตกต่างกันออกไปพสกนิกรทั้งหลายก็คล้อยตามหันมาเลื่อมใสตามแบบอย่างพระองค์กิตติศัพท์ของพระพุทธศาสนาในสุโขทัยจึงเลื่องลือไปไกลพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่หลายรูปได้ออกไปเผยแพร่ธรรมในแคว้นต่างๆเช่นอโยธยาหลวงพระบางเมืองน่านแห่งล้านนาไทยได้นิมนต์พระสมณะเถระไปจากสุโขทัยเพื่อเผยแพร่ธรรมในเมืองเชียงใหม่พระมหาธรรมราชาที่๑หรือพญาลิไทมีมเหสีชื่อพระนางศรีธรรมทรงมีโอรสสืบพระราชบัลลังก์ต่อมาความพระมหาธรรมราชาที่สองพระองค์นี้ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดแต่คงอยู่ในระยะเวลาระหว่างปีพ .ศ . ๑๙๒๑ - ๑๙๒๗
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: