Digestive issues: The phenolic comp

Digestive issues: The phenolic compounds in ginger are known to help relieve gastrointestinal irritation, stimulate saliva and bile production and suppress gastric contractions and movement of food and fluids through the GI tract.

Nausea: Chewing raw ginger or drinking ginger tea is a common home remedy for nausea during cancer treatment. Pregnant women experiencing morning sickness can safely use ginger to relieve nausea and vomiting, often in the form of ginger lozenges or candies.

Pain reduction: A study involving 74 volunteers carried out at the University of Georgia found that daily ginger supplementation reduced exercise-induced muscle pain by 25%.

Ginger has also been found to reduce the symptoms of dysmenorrhea (severe pain during a menstrual cycle). In one study, 83% of women taking ginger capsules reported improvements in pain symptoms compared to 47% of those on placebo.

Inflammation: Ginger has been used for centuries to reduce inflammation and treat inflammatory conditions.

A study published in Cancer Prevention Research journal found that a ginger root supplement administered to volunteer participants reduced inflammation markers in the colon within a month. Researchers on the study explained that by decreasing inflammation, the risk of colon cancer is also likely to decrease. Ginger has also shown promise in clinical trials for treating inflammation associated with osteoarthritis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาการย่อยอาหาร: สารประกอบฟีนอในขิงเป็นที่รู้จักกันเพื่อช่วยบรรเทาการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารกระตุ้นน้ำลายและการผลิตน้ำดีและปราบปรามการหดตัวของกระเพาะอาหารและการเคลื่อนไหวของอาหารและของเหลวผ่านทางเดินอาหาร. คลื่นไส้: เคี้ยวขิงดิบหรือดื่มชาขิงเป็นยาที่บ้านที่พบบ่อย สำหรับอาการคลื่นไส้ในระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง หญิงตั้งครรภ์ที่ประสบแพ้ท้องอย่างปลอดภัยสามารถใช้ขิงในการบรรเทาอาการคลื่นไส้อาเจียนมักจะอยู่ในรูปแบบของคอร์เซ็ตขิงหรือลูกอม. ลดอาการปวดศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ 74 อาสาสมัครดำเนินการที่มหาวิทยาลัยจอร์เจียพบว่าการเสริมขิงประจำวันลดลงของกล้ามเนื้อการออกกำลังกายที่เกิดขึ้น ความเจ็บปวด 25%. ขิงยังได้รับพบว่าลดอาการของประจำเดือน (อาการปวดอย่างรุนแรงในระหว่างรอบประจำเดือน) ในการศึกษา 83% ของผู้หญิงที่ใช้แคปซูลขิงรายงานการปรับปรุงในอาการปวดเมื่อเทียบกับ 47% ของผู้ที่ได้รับยาหลอก. อักเสบ: ขิงมีการใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อลดการอักเสบและการรักษาสภาพการอักเสบ. ศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารการป้องกันโรคมะเร็งวิจัยพบว่า ที่เสริมรากขิงบริหารให้กับผู้เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครลดลงบ่งชี้การอักเสบในลำไส้ใหญ่ภายในเดือน ในการศึกษานักวิจัยอธิบายว่าโดยการลดการอักเสบ, ความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้ใหญ่นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะลดลง ขิงยังแสดงให้เห็นสัญญาในการทดลองทางคลินิกสำหรับการรักษาอาการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปัญหาทางเดินอาหาร : สารประกอบฟีนอลในขิงเป็นที่รู้จักกันเพื่อช่วยบรรเทาการระคายเคืองทางเดินอาหาร กระตุ้นการผลิตน้ำลายและท่อน้ำ และยับยั้งการหดตัวของกระเพาะอาหาร และการเคลื่อนไหวของอาหารและของเหลวผ่านทางเดินอาหาร คลื่นไส้ :

เคี้ยวขิงสดหรือดื่มชาขิงเป็นสามัญบ้านแก้สำหรับอาการคลื่นไส้ระหว่างการรักษามะเร็งหญิงตั้งครรภ์มีอาการแพ้ท้องได้อย่างปลอดภัยสามารถใช้ขิงบรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน มักจะอยู่ในรูปแบบของ lozenges ขิงหรือลูกอม

อาการปวด : การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับ 74 อาสาสมัครศึกษาที่มหาวิทยาลัยจอร์เจียพบว่าอาหารเสริมขิงทุกวัน ลด การออกกำลังกล้ามเนื้อโดย 25% .

ขิงยังได้รับการพบเพื่อลดอาการปวดประจำเดือน ( ปวดรุนแรงระหว่างมีรอบเดือน ) ในหนึ่งการศึกษา , 83% ของผู้หญิงพาขิงแคปซูลรายงานการปรับปรุงในอาการปวดเมื่อเทียบกับ 47% ของผู้ที่อยู่ในกลุ่ม

การอักเสบ : ขิงมีการใช้มานานหลายศตวรรษเพื่อลดการอักเสบและรักษาเงื่อนไขการอักเสบ .

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิจัยเพื่อการป้องกันมะเร็งพบว่า ขิงรากเสริมกลุ่มอาสาสมัครผู้เข้าร่วมลดการอักเสบเครื่องหมายในลำไส้ใหญ่ภายใน 1 เดือน นักวิจัยในการศึกษา อธิบายว่า โดยลดการอักเสบ ความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่จะลดลงขิงยังแสดงสัญญาในการทดลองทางคลินิกสำหรับการรักษา การอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้อเข่าเสื่อม