ประการที่สอง หากมองในแง่ผลกระทบต่อส

ประการที่สอง หากมองในแง่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้ว จะเห็นว่า การที่ปล่อยให้ใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น จะมีการปล่อยก๊าซพิษออกสู่บรรยากาศมากขึ้น โดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิด มลพิษ ที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมจากการเกิดฝนกรด หรือการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก ที่จะมีผลต่อความผันผวนของฤดูกาล แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วจะไม่มีก๊าซต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น นอกจากนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินจะเหลือขี้เถ้าตกค้างในปริมาณมาก โดยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะมีกากเชื้อเพลิงใช้แล้วในปริมาณที่น้อยกว่า และสามารถจัดเก็บไว้ในโรงไฟฟ้าได้นานถึง 30 ปี ตลอดชั่วชีวิตการใช้งานของโรงไฟฟ้า โดยไม่เกิดปัญหาส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม.
Secondly, if you look in terms of environmental impact, it is agreed that allowing the use of coal increases. The emissions released into the atmosphere. The carbon Sulfur Dioxide And nitrogen Which cause pollution to the environment from acid rain. The Greenhouse That will affect the volatility of the season. However, when compared to the use of nuclear power plants, no other gases. These are In addition, coal ash residues are left in large quantities. The nuclear waste is spent fuel in smaller quantities. And can be stored in the plant for 30 years, lifetime use of the plant. Without problems of environmental impact.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประการที่สองหากมองในแง่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วจะเห็นว่าการที่ปล่อยให้ใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้นจะมีการปล่อยก๊าซพิษออกสู่บรรยากาศมากขึ้นโดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมจากการเกิดฝนกรดหรือการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกที่จะมีผลต่อความผันผวนของฤดูกาลแต่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วจะไม่มีก๊าซต่าง ๆ ตลอดชั่วชีวิตการใช้งานของโรงไฟฟ้านอกจากนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินจะเหลือขี้เถ้าตกค้างในปริมาณมากโดยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะมีกากเชื้อเพลิงใช้แล้วในปริมาณที่น้อยกว่าและสามารถจัดเก็บไว้ในโรงไฟฟ้าได้นานถึง 30 ปี
ประการที่สอง ถ้าคุณมองในแง่ของสิ่งแวดล้อม มันจะตกลงที่อนุญาตให้ใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้น ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ คาร์บอนซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนซึ่งทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากฝนกรด เรือนกระจกที่จะมีผลต่อความผันผวนของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก๊าซไม่ นอกจากนี้มี ตกเถ้าถ่านหินที่เหลือในปริมาณมาก กากนิวเคลียร์ที่ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณขนาดเล็ก และสามารถเก็บไว้ในโรงงาน 30 ปี อายุการใช้งานใช้ของโรงงาน โดยไม่มีปัญหาของสิ่งแวดล้อม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประการที่สองหากมองในแง่ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแล้วจะเห็นว่าการที่ปล่อยให้ใช้โรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้นจะมีการปล่อยก๊าซพิษออกสู่บรรยากาศมากขึ้นโดยมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดมลพิษที่จะทำลายสิ่งแวดล้อมจากการเกิดฝนกรดหรือการเกิดปรากฏการณ์เรือนกระจกที่จะมีผลต่อความผันผวนของฤดูกาลแต่เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แล้วจะไม่มีก๊าซต่างๆนอกจากนี้โรงไฟฟ้าถ่านหินจะเหลือขี้เถ้าตกค้างในปริมาณมากโดยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะมีกากเชื้อเพลิงใช้แล้วในปริมาณที่น้อยกว่าและสามารถจัดเก็บไว้ในโรงไฟฟ้าได้นานถึงตลอดชั่วชีวิตการใช้งานของโรงไฟฟ้า 30 .
ประการที่สอง ถ้าคุณมองในแง่ของผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จะตกลงกันว่าให้ใช้เพิ่มถ่านหิน การปล่อยมลพิษออกสู่บรรยากาศ คาร์บอน ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนที่ทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมจากฝนกรด เรือนกระจกจะส่งผลต่อความผันผวนของฤดูกาล อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่มีก๊าซอื่น ๆเหล่านี้นอกจากนี้เถ้าถ่านหินที่ตกค้างเหลืออยู่ในปริมาณมาก ขยะนิวเคลียร์ที่ใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่เล็กลง และสามารถเก็บไว้ในโรงงานเป็นเวลา 30 ปี อายุการใช้ของพืช ปราศจากปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม