The previous section talked about t

The previous section talked about the address and data buses, as well as the RD and WR lines. These buses and lines connect either to RAM or ROM -- generally both. In our sample microprocessor, we have an address bus 8 bits wide and a data bus 8 bits wide. That means that the microprocessor can address (28) 256 bytes of memory, and it can read or write 8 bits of the memory at a time. Let's assume that this simple microprocessor has 128 bytes of ROM starting at address 0 and 128 bytes of RAM starting at address 128.
ROM stands for read-only memory. A ROM chip is programmed with a permanent collection of pre-set bytes. The address bus tells the ROM chip which byte to get and place on the data bus. When the RD line changes state, the ROM chip presents the selected byte onto the data bus.
RAM stands for random-access memory. RAM contains bytes of information, and the microprocessor can read or write to those bytes depending on whether the RD or WR line is signaled. One problem with today's RAM chips is that they forget everything once the power goes off. That is why the computer needs ROM.
By the way, nearly all computers contain some amount of ROM (it is possible to create a simple computer that contains no RAM -- many microcontrollersdo this by placing a handful of RAM bytes on the processor chip itself -- but generally impossible to create one that contains no ROM). On a PC, the ROM is called the BIOS (Basic Input/Output System). When the microprocessor starts, it begins executing instructions it finds in the BIOS. The BIOS instructions do things like test the hardware in the machine, and then it goes to the hard disk to fetch the boot sector (see How Hard Disks Work for details). This boot sector is another small program, and the BIOS stores it in RAM after reading it off the disk. The microprocessor then begins executing the boot sector's instructions from RAM. The boot sector program will tell the microprocessor to fetch something else from the hard disk into RAM, which the microprocessor then executes, and so on. This is how the microprocessor loads and executes the entire operating system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนก่อนหน้านี้พูดคุยเกี่ยวกับรถที่อยู่และข้อมูล รวมทั้งถนนและเกิดจากบรรทัด รถบัสและบรรทัดเหล่านี้เชื่อมต่อ RAM หรือ ROM - โดยทั่วไปทั้ง ในหน่วยประมวลผลตัวอย่างของเรา เรามีรถบัสที่อยู่กว้าง 8 บิตและบัสข้อมูลทั้ง 8 บิต ซึ่งหมายความ ว่า หน่วยประมวลผลสามารถ (28) 256 ไบต์ของหน่วยความจำ และสามารถอ่าน หรือเขียนหน่วยความจำ 8 บิตครั้ง ลองสมมติว่า หน่วยประมวลผลอย่างนี้มีราคาเริ่มต้นรอมที่อยู่ 0 และเริ่มต้นที่อยู่ 128 RAM 128 ไบต์ 128 ไบต์ROM ย่อมาจากสำหรับรอม ชิรอมเป็นโปรแกรมถาวร มีไบต์ที่ตั้งไว้ล่วงหน้า รถอยู่บอกชิรอมไบต์ที่ได้รับ และวางบนบัสข้อมูล เมื่อบรรทัด RD เปลี่ยนสถานะ ชิรอมแสดงไบต์ที่เลือกไปยังบัสข้อมูลRAM หมายถึงหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม RAM ประกอบด้วยไบต์ของข้อมูล และหน่วยประมวลผลสามารถอ่าน หรือเขียนไปที่ไบต์ขึ้นอยู่กับว่าสัญญาณ RD หรือเกิดจากบรรทัด ปัญหาเดียวกับ RAM วันนี้ ชิคือ ว่า พวกเขาลืมทุกสิ่งทุกอย่างเมื่ออำนาจลงไป นั่นคือเหตุผลที่คอมพิวเตอร์ต้องการ ROM.โดยวิธีการ คอมพิวเตอร์เกือบทั้งหมดประกอบด้วยจำนวนบางขวาง (เป็นไปได้ที่จะสร้างคอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วย RAM ไม่ — microcontrollersdo ในที่นี้ ด้วยกำมือของไบต์ RAM บนโพรเซสเซอร์ชิเอง - แต่โดยทั่วไปสร้างที่ประกอบด้วย ROM ไม่ ง่าย) บนพีซี ROM จะเรียกว่า BIOS (พื้นฐานอินพุต/เอาท์พุตระบบ) เมื่อหน่วยประมวลผลเริ่มต้น เริ่มต้นดำเนินการตามคำแนะนำที่พบใน BIOS คำสั่ง BIOS ทำสิ่งที่ต้องทดสอบฮาร์ดแวร์ในเครื่อง แล้ว ก็ไปยังฮาร์ดดิสก์เพื่อนำมาใช้บูตเซกเตอร์ (ดูวิธีการทำงานฮาร์ดดิสก์สำหรับรายละเอียด) บูตเซกเตอร์นี้โปรแกรมอื่นเล็ก และ BIOS เก็บไว้ใน RAM หลังจากอ่านจากดิสก์ หน่วยประมวลผลจากนั้นเริ่มดำเนินการคำแนะนำของบูตเซกเตอร์จาก RAM โปรแกรมบูตเซกเตอร์จะบอกหน่วยประมวลผลจะนำมาใช้อย่างอื่นจากฮาร์ดดิสก์เข้าไปใน RAM ซึ่งหน่วยประมวลผลจากนั้นดำเนินการ และอื่น ๆ โหลด และวิธีดำเนินงานทั้งหมดของหน่วยประมวลผลอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

The previous section talked about the address and data buses, as well as the RD and WR lines. These buses and lines connect either to RAM or ROM -- generally both. In our sample microprocessor, we have an address bus 8 bits wide and a data bus 8 bits wide. That means that the microprocessor can address (28) 256 bytes of memory, and it can read or write 8 bits of the memory at a time. Let's assume that this simple microprocessor has 128 bytes of ROM starting at address 0 and 128 bytes of RAM starting at address 128.
ROM stands for read-only memory. A ROM chip is programmed with a permanent collection of pre-set bytes. The address bus tells the ROM chip which byte to get and place on the data bus. When the RD line changes state,ชิปรอมแสดงไบต์เลือกลงข้อมูลรถบัส .
RAM ย่อมาจากหน่วยความจำเข้าถึงโดยสุ่ม รามมีไบต์ของข้อมูลและไมโครโปรเซสเซอร์สามารถอ่านหรือเขียนกับไบต์ขึ้นอยู่กับว่า กขหรือ WR สายสัญญาณ . หนึ่งปัญหากับวันนี้ชิปแรมที่พวกเขาลืมทุกอย่างเมื่ออำนาจไปปิด ทำไมคอมพิวเตอร์ต้องรอม
โดยวิธีเกือบคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะมีปริมาณของรอม ( มันเป็นไปได้ที่จะสร้างง่าย คอมพิวเตอร์ที่มี RAM -- หลาย microcontrollersdo ไม่นี้โดยการวางกำมือของ RAM ไบต์บนชิปประมวลผลเอง แต่โดยทั่วไปจะไม่สามารถที่จะสร้างหนึ่งที่ไม่ประกอบด้วย รอม ) บน PC รอมไบออส ( Basic เรียกว่าระบบอินพุต / เอาต์พุต ) เมื่อไมโครโปรเซสเซอร์เริ่มมันเริ่มรันคำแนะนำที่พบในไบออส ไบออสคำสั่งทำสิ่งที่ต้องการทดสอบฮาร์ดแวร์ในเครื่อง แล้ว มันจะไปฮาร์ดดิสก์ตักบูตเซกเตอร์ ( ดูว่าฮาร์ดดิสก์ทำงานสำหรับรายละเอียด ) นี้บูตเซกเตอร์เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมขนาดเล็กและร้านค้าในไบออสแรมหลังจากอ่านมันออกดิสก์ไมโครโพรเซสเซอร์ก็เริ่มรันคำสั่งบูตเซกเตอร์จากบุรีรัมย์ โปรแกรมบูตเซกเตอร์จะบอกไมโครโปรเซสเซอร์เพื่อดึงบางอย่างจากฮาร์ดดิสก์ลงใน RAM ซึ่งไมโครโพรเซสเซอร์แล้วรัน และอื่น ๆ นี้เป็นวิธีการที่ไมโครโปรเซสเซอร์โหลดและรันระบบปฏิบัติการทั้งหมด .