Archaeological evidence has establi

Archaeological evidence has established the earliest known production of wine from fermented grapes during the late Neolithic site of Hajji Firuz in the northern Zagros Mountains or early Chalcolithic in the northern edge of the Middle East.[13] The earliest chemically attested grape wine was discovered at Hajji Firuz in the northwestern Zagros Mountains of Kurdistan, ca. 5400 BC. Both archaeological and genetic evidence suggest that the earliest production of wine may slightly predate this, with the earliest wine-making likely having taken place in Trans-Caucasia (including Armenia, Azerbaijan, Georgia), through the region between Eastern Turkey, and Northwest Iran.[14][15]

The earliest form of grape-based fermented drink was found in northern China, where archaeologists discovered 9000-year-old pottery jars,[9] while the earliest archaeological evidence of wine particles found has been in Georgia, where archaeologists discovered evidence of wine residue inside ceramic jars that were dated back some 8000 years[3][16][17] and Iran (c. 5000 BC).[5] The earliest evidence of wine production was discovered in Armenia within the Areni-1 winery in 2007 and is at least 6100 years old, making it the oldest winery in the world.[18] The development of a winery implies wine had started being produced much earlier.[7][8][19]


Georgian Kvevri ancient wine vessel
A 2003 report by archaeologists indicates a possibility that grapes were mixed with rice to produce mixed fermented beverages in China in the early years of the seventh millennium BC. Pottery jars from the Neolithic site of Jiahu, Henan, contained traces of tartaric acid and other organic compounds commonly found in wine. However, other fruits indigenous to the region, such as hawthorn, cannot be ruled out.[20][21] If these beverages, which seem to be the precursors of rice wine, included grapes rather than other fruits, they would have been any of the several dozen indigenous wild species in China, rather than Vitis vinifera, which was introduced there 6000 years later.[20]

The spread of wine culture westwards was most probably due to the Phoenicians who spread outward from a base of city-states along the Lebanese, Syrian and Israeli coasts.[22] The wines of Byblos were exported to Egypt during the Old Kingdom and then throughout the Mediterranean. Evidence includes two Phoenician shipwrecks from 750 BC discovered by Robert Ballard, whose cargo of wine was still intact.[23] As the first great traders in wine (cherem), the Phoenicians seem to have protected it from oxidation with a layer of olive oil, followed by a seal of pinewood and resin, similar to retsina.


Detail of a relief of the eastern stairs of the Apadana, Persepolis, depicting Armenians bringing their famous wine to the king.
The earliest remains of Apadana Palace in Persepolis dating back to 515 BC include carvings demonstrating soldiers from Achaemenid Empire subject nations bringing gifts to the Achaemenid king, among them Armenians bringing their famous wine.

Literary references to wine are abundant in Homer (8th century BC, but possibly relating earlier compositions), Alkman (7th century BC), and others. In ancient Egypt, six of 36 wine amphoras were found in the tomb of King Tutankhamun bearing the name "Kha'y", a royal chief vintner. Five of these amphoras were designated as originating from the king's personal estate, with the sixth from the estate of the royal house of Aten.[24] Traces of wine have also been found in central Asian Xinjiang in modern-day China, dating from the second and first millennia BC.[25]


Wine boy at a symposium

Pressing wine after the harvest; Tacuinum Sanitatis, 14th century
The first known mention of grape-based wines in India is from the late 4th-century BC writings of Chanakya, the chief minister of Emperor Chandragupta Maurya. In his writings, Chanakya condemns the use of alcohol while chronicling the emperor and his court's frequent indulgence of a style of wine known as madhu.[26]

The ancient Romans planted vineyards near garrison towns so wine could be produced locally rather than shipped over long distances. Some of these areas are now world-renowned for wine production.[27] The Romans discovered that burning sulfur candles inside empty wine vessels kept them fresh and free from a vinegar smell.[28] In medieval Europe, the Roman Catholic Church supported wine because the clergy required it for the Mass. Monks in France made wine for years, aging it in caves.[29] An old English recipe that survived in various forms until the 19th century calls for refining white wine from bastard—bad or tainted bastardo wine.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลักฐานทางโบราณคดีได้สร้างแรกรู้จักผลิตไวน์จากองุ่นหมักในช่วงปลายยุคหินใหม่ไซต์การ Hajji Firuz ในภูเขา Zagros เหนือหรือ Chalcolithic ต้นในขอบด้านเหนือของตะวันออกกลาง [13] แรกสุดทางเคมียึดไวน์องุ่นถูกค้นพบที่ Hajji Firuz ในตะวันตกเฉียงเหนือภูเขา Zagros ของเคอร์ดิสถาน ca. 5400 BC หลักฐานทางโบราณคดี และพันธุกรรมแนะนำว่า การผลิตแรกของไวน์อาจเล็กน้อย predate นี้ กับการแรกไวน์ทำแนวโน้มที่เกิดขึ้นในทรานส์-Caucasia (รวมอาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจาน จอร์เจีย), ผ่านภูมิภาคระหว่างตุรกีตะวันออก ตะวันตกเฉียงเหนือของอิหร่าน [14] [15]แบบแรกสุดของเครื่องดื่มหมักจากองุ่นพบในภาคเหนือของจีน ที่นักโบราณคดีค้นพบขวดเครื่องปั้นดินเผาปี 9000, [9] ในขณะที่หลักฐานทางโบราณคดีเก่าแก่ที่สุดของไวน์อนุภาคพบได้ในจอร์เจีย ซึ่งหลักฐานโบราณคดีที่ค้นพบจากไวน์ในขวดเซรามิกที่วันกลับบาง 8000 ปี [3] [16] [17] และอิหร่าน (c. พ.ศ. 5000) [5]หลักฐานแรกของการผลิตไวน์ถูกค้นพบในอาร์เมเนียในโรงไวน์ Areni 1 ใน 2007 และเป็นน้อย 6100 ปี ทำไวน์เก่าแก่ที่สุดในโลก [18] การพัฒนาของไวน์ที่หมายถึงไวน์ที่ได้เริ่มต้นผลิตมากก่อนหน้านี้ [7] [8] [19]Kvevri จอร์เจียโบราณเรือไวน์รายงาน 2003 โดยนักโบราณคดีบ่งชี้ความเป็นไปได้ที่องุ่นที่ผสมกับข้าวให้ผสมเครื่องดื่มหมักในประเทศจีนในปีแรกของสหัสวรรษเจ็ด BC เครื่องปั้นดินเผาขวดจากไซต์ของ Jiahu เหอหนาน ยุคหินใหม่ประกอบด้วยร่องรอยของฟอร์กรดและสารอินทรีย์อื่น ๆ ที่พบในไวน์ อย่างไรก็ตาม อื่น ๆ ผลไม้พื้นเมืองภูมิภาค เช่นฮอว์ทอร์น ไม่สามารถปกครองออก [20] [21] ถ้าเครื่องดื่มเหล่านี้ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสารตั้งต้นของไวน์ข้าว รวมองุ่นมากกว่าผลไม้อื่น ๆ พวกเขาจะได้รับของหลายโหลพื้นเมืองป่าสายพันธุ์ในประเทศจีน แทน Vitis vinifera ซึ่งถูกนำมาใช้มี 6000 ปี [20]การแพร่กระจายทางวัฒนธรรมไวน์ถูกสุดอาจจะเนื่องจากฟืที่แพร่กระจายออกจากฐานของ city-states ตามชายฝั่งเลบานอน ซีเรีย และอิสราเอล [22]ไวน์บายบลอสถูกส่งออกไปยังประเทศอียิปต์ ระหว่างอาณาจักรเก่า แล้ว ทั่วเมดิเตอร์เรเนียน หลักฐานมีสองตั้งลำจาก 750 BC ที่ค้นพบ โดย Robert บัล ขนส่งสินค้าที่มีไวน์ก็ยังคงเหมือนเดิม [23] เป็นเทรดเดอร์ดีแรกในไวน์ (cherem), ฟืดูเหมือนจะ ได้ป้องกันมันจากออกซิเดชันด้วยชั้นของน้ำมันมะกอก ตาม ด้วยตราของไพน์วู้ดและเรซิน คล้ายกับ retsinaรายละเอียดของการบรรเทาทุกข์ของบันไดทิศตะวันออกของ Apadana แพร์ซโพลิส ภาพวาดชาวอาร์เมเนียที่นำไวน์ที่มีชื่อเสียงของกษัตริย์เร็วที่สุดของพระราชวัง Apadana ในแพร์ซโพลิสไป 515 BC รวมงานแกะสลักที่เห็นทหารจากสหประชาชาติเรื่องจักรวรรดิอคีเมนียะห์ที่นำของขวัญไปอคีเมนียะห์พระ เขานำไวน์ที่มีชื่อเสียงของชาวอาร์เมเนียอ้างอิงวรรณกรรมกับไวน์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ในโฮเมอร์ (8 ศตวรรษ แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบก่อนหน้า), Alkman (7 ศตวรรษ BC), และอื่น ๆ ในอียิปต์โบราณ หก amphoras กัน 36 ไวน์โดยพบในสุสานของ King Tutankhamun แบกชื่อ "Kha'y", vintner ประธานรอยัล ห้าของ amphoras กันโดยเหล่านี้ได้ถูกกำหนดเป็นเกิดจากทรัพย์ส่วนตัวของกษัตริย์ มีหกจากอสังหาริมทรัพย์ของรอยัลเฮ้าส์ของเอเทน [24] คราบไวน์ยังพบในซินเจียงเอเชียกลางในยุคจีน จากวัดวาอารามสอง และแรก BC [25]เด็กไวน์ในการประชุมสัมมนาทางกดไวน์หลังเก็บเกี่ยว Tacuinum Sanitatis ศตวรรษที่ 14พูดถึงรู้จักกันแรกของไวน์ที่ใช้องุ่นในอินเดียมาจากงานเขียน BC 4 ศตวรรษสาย Chanakya จักรพรรดิรยะรัฐมนตรีประธาน ในงานเขียนของเขา Chanakya พวกใช้แอลกอฮอล์ขณะ chronicling จักรพรรดิและศาลของเขาปลดปล่อยบ่อยของแบบที่เรียกว่าสมชาย [26]โรมันโบราณปลูกไร่องุ่นใกล้เมืองปราการเพื่อไวน์อาจจะผลิตภายใน มากกว่าส่งระยะทางไกล บางส่วนของพื้นที่เหล่านี้อยู่ในขณะนี้โลกสำหรับการผลิตไวน์ [27] ชาวโรมันพบว่า เผาไหม้กำมะถันเทียนภายในเรือไวน์เปล่าเก็บให้สดชื่น และปราศจากกลิ่นน้ำส้มสายชู [28] ในยุโรปยุคกลาง โรมันคาทอลิกสนับสนุนไวน์เนื่องจากคณาธิการจำเป็นสำหรับพระสงฆ์มวล.ฝรั่งเศสทำไวน์ปี อายุในถ้ำ [29] สูตรอาหารภาษาอังกฤษการเก่าที่รอดในรูปแบบต่าง ๆ จนกระทั่งศตวรรษที่ 19 เรียกสำหรับการกลั่นไวน์ขาวจากลูกครึ่ง — ไวน์ดี หรือละติ bastardo

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลักฐานทางโบราณคดีได้มีการจัดตั้งการผลิตแรกที่รู้จักไวน์จากองุ่นหมักในช่วงปลายเว็บไซต์ยุคนมัสการ Firuz ในเทือกเขา Zagros ภาคเหนือหรือต้น Chalcolithic ในเหนือขอบของตะวันออกกลาง. [13] ที่เก่าแก่ที่สุดไวน์องุ่นพิสูจน์ทางเคมีที่ถูกค้นพบ นมัสการ Firuz ในเทือกเขา Zagros ตะวันตกเฉียงเหนือของถานแคลิฟอร์เนีย 5400 ปีก่อนคริสตกาล ทั้งทางโบราณคดีและหลักฐานทางพันธุกรรมชี้ให้เห็นว่าการผลิตที่เก่าแก่ที่สุดของไวน์อาจลงวันที่ก่อนเล็กน้อยนี้มีสถานที่ที่น่าจะต้องเอาทำไวน์ที่เก่าแก่ที่สุดในทรานส์ Caucasia (รวมถึงอาร์เมเนียอาเซอร์ไบจานจอร์เจีย), ผ่านพื้นที่ระหว่างตุรกีตะวันออกและภาคตะวันตกเฉียงเหนืออิหร่าน . [14] [15] รูปแบบที่เก่าแก่ที่สุดของเครื่องดื่มหมักองุ่นตามที่พบในภาคเหนือของจีนที่นักโบราณคดีค้นพบไหเครื่องปั้นดินเผา 9000 ปี [9] ในขณะที่หลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดของอนุภาคไวน์พบได้ในจอร์เจีย ที่นักโบราณคดีค้นพบหลักฐานของสารตกค้างไวน์ภายในขวดเซรามิกที่มีวันที่กลับบาง 8000 ปี [3] [16] [17] และอิหร่าน (ค. พ.ศ. 5000). [5] หลักฐานเก่าแก่ที่สุดของการผลิตไวน์ถูกค้นพบในอาร์เมเนียภายใน Areni-1 โรงกลั่นเหล้าองุ่นในปี 2007 และเป็นอย่างน้อยอายุ 6100 ปีที่ผ่านมาทำให้มันเป็นโรงกลั่นเหล้าองุ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก. [18] การพัฒนาของโรงกลั่นเหล้าองุ่นหมายถึงไวน์ที่ได้เริ่มต้นการผลิตมากก่อนหน้านี้. [7] [8] [19] จอร์เจีย Kvevri เรือไวน์โบราณ2003 รายงานโดยนักโบราณคดีบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ว่าองุ่นผสมข้าวในการผลิตเครื่องดื่มที่หมักผสมในประเทศจีนในช่วงปีแรกของสหัสวรรษที่เจ็ด ไหเครื่องปั้นดินเผาจากเว็บไซต์ยุค Jiahu เหอหนานมีร่องรอยของกรดทาร์ทาริกและสารอินทรีย์อื่น ๆ ที่พบในไวน์ อย่างไรก็ตามผลไม้อื่น ๆ ของชนพื้นเมืองในภูมิภาคเช่น Hawthorn, ไม่สามารถตัดออก. [20] [21] หากเครื่องดื่มเหล่านี้ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสารตั้งต้นของไวน์ข้าวรวมองุ่นมากกว่าผลไม้อื่น ๆ พวกเขาจะได้รับการใด ๆ ของหลายโหลพันธุ์ป่าพื้นเมืองในประเทศจีนมากกว่า Vitis vinifera ซึ่งเป็นที่รู้จักมี 6000 ปีต่อมา. [20] การแพร่กระจายของวัฒนธรรมไวน์ไปทางตะวันตกเป็นส่วนใหญ่อาจเกิดจากการฟืที่แพร่กระจายออกมาจากฐานของเมืองรัฐพร้อม เลบานอนซีเรียและอิสราเอลชายฝั่ง. [22] ไวน์ของ Byblos ถูกส่งออกไปยังประเทศอียิปต์ระหว่างราชอาณาจักรเก่าแล้วทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลักฐานรวมถึงสองซากเรือ Phoenician จาก 750 BC ค้นพบโดยโรเบิร์ตบัลลาร์ดที่มีการขนส่งสินค้าไวน์ก็ยังคงเหมือนเดิม. [23] ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการค้าที่ดีเป็นครั้งแรกในไวน์ (cherem) ฟืดูเหมือนจะได้รับการคุ้มครองจากการเกิดออกซิเดชันด้วยชั้นของน้ำมันมะกอก ตามด้วยตราประทับของไพน์วู้ดและเรซินคล้ายกับ retsina ก. รายละเอียดของการบรรเทาของบันไดตะวันออกของ Apadana, Persepolis เป็นภาพวาดอาร์เมเนียนำไวน์ที่มีชื่อเสียงของพวกเขาเพื่อพระมหากษัตริย์. ซากเก่าแก่ที่สุดของ Apadana พาเลซใน Persepolis ย้อนหลังไป 515 BC ได้แก่ แกะสลักแสดงให้เห็นถึงทหารจาก Achaemenid จักรวรรดิประเทศเรื่องนำของขวัญไป Achaemenid กษัตริย์ในหมู่พวกเขาอาร์เมเนียนำไวน์ที่มีชื่อเสียงของพวกเขา. อ้างอิงวรรณกรรมไวน์มีมากมายในโฮเมอร์ (ศตวรรษที่ 8 แต่อาจจะเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบก่อนหน้า), Alkman (BC ศตวรรษที่ 7 ), และคนอื่น ๆ. ในอียิปต์โบราณหก 36 amphoras ไวน์ถูกพบในหลุมฝังศพของกษัตริย์ตุตันคาเมนแบริ่งชื่อ "Kha'y" หัวหน้าพ่อค้าพระราช ห้า amphoras เหล่านี้ถูกกำหนดให้เป็นเกิดจากทรัพย์ส่วนบุคคลของกษัตริย์กับหกจากที่ดินของราชวงศ์ของ Aten ได้. ร่องรอยของไวน์ได้รับยังพบ [24] ในซินเจียงในเอเชียกลางในวันที่ทันสมัยจีนสืบมาจาก สองพันปีก่อนคริสตกาลแรก [25]. ไวน์เด็กที่การประชุมสัมมนาการกดไวน์หลังการเก็บเกี่ยว; Tacuinum Sanitatis ศตวรรษที่ 14 เป็นครั้งแรกที่กล่าวถึงเป็นที่รู้จักกันของไวน์องุ่นอยู่ในอินเดียจากช่วงปลายศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาลงานเขียนของ Chanakya รัฐมนตรีว่าการกระทรวงหัวหน้าของจักรพรรดิ Chandragupta เมา ในงานเขียนของเขา Chanakya ประณามการใช้งานของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในขณะที่เรื่องราวของจักรพรรดิและศาลของเขาปล่อยตัวบ่อยของรูปแบบของไวน์ที่รู้จักกันเป็นฮาร์ได้. [26] ชาวโรมันโบราณปลูกไร่องุ่นใกล้เมืองป้อมปราการเพื่อให้ไวน์อาจจะมีการผลิตในประเทศมากกว่าการส่งมากกว่ายาว ระยะทาง บางส่วนของพื้นที่เหล่านี้ตอนนี้มีชื่อเสียงระดับโลกสำหรับการผลิตไวน์. [27] ชาวโรมันพบว่าการเผาไหม้เทียนกำมะถันภายในเรือไวน์ว่างเก็บไว้พวกเขาสดและปลอดจากกลิ่นน้ำส้มสายชู. [28] ในยุโรปยุคกลางคริสตจักรโรมันคาทอลิกสนับสนุนไวน์ เพราะพระสงฆ์ที่จำเป็นต้องใช้มันสำหรับมวล. พระสงฆ์ในประเทศฝรั่งเศสทำไวน์มานานหลายปีริ้วรอยในถ้ำ. [29] สูตรภาษาอังกฤษเก่าที่รอดชีวิตมาได้ในรูปแบบต่างๆจนถึง 19 สายศตวรรษกลั่นไวน์ขาวจากไอ้เลวหรือ bastardo ปนเปื้อน ไวน์.