Weber’s Theory of Rationalization•

Weber’s Theory of Rationalization
• Weber often focused on a theory of the process of rationalization.
• Weber was interested in why institutions in the Western world had grown more rational than the rest of the world.
• He saw the bureaucracy as the classic example of rationalization.
• He differentiated authority into three types: traditional, charismatic, and rational-legal.
• Only the Western world can be rational-legal, and can develop modern bureaucracy.
• (e.g. The U.S. president derives his authority only from the laws of society.)
• The rest of the world remains dominated by traditional or charismatic authority systems.
•Then, Weber also tried to understand why a rational economic system (capitalism) had developed in the West and why it had failed to develop in the rest of the world.
• He focused on religion in this process, and concluded that a rational religious system (Calvinism of Christianity) played the central role in the rise of capitalism in the West.
• In contrast, more irrational religious systems (e.g. Confucianism, Hinduism) is popular in the rest of the world, and they constricted the development of capitalism.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีของเวเบอร์ของ Rationalization•เวเบอร์มักจะเน้นในทฤษฎีของกระบวนการของ rationalization •แบ่งแยกถูกสนใจทำไมสถาบันในโลกตะวันตกได้พัฒนาเหตุผลเพิ่มเติมจากส่วนอื่นของโลก •เห็นข้าราชการที่เป็นตัวอย่างที่คลาสสิกของ rationalization •เขาทั่วประเทศเป็นสามชนิด: แบบดั้งเดิม บารมี และเหตุผลทางกฎหมาย •เฉพาะโลกตะวันตกสามารถเชือดตามกฎหมาย และสามารถพัฒนาระบบราชการที่ทันสมัย • (เช่นประธานาธิบดีสหรัฐมาอำนาจจากกฎหมายของสังคมเท่านั้น)•ส่วนเหลือของโลกยังคง dominated โดยระบบดั้งเดิม หรือนี่•Then แบ่งแยกยังพยายามที่จะเข้าใจเหตุเชือดระบบเศรษฐกิจ (ทุนนิยม) ได้พัฒนาขึ้นในตะวันตกและทำไมถึงได้ล้มเหลวในการพัฒนาในส่วนเหลือของโลก •เน้นศาสนาในกระบวนการนี้ และสรุปว่า ระบบศาสนาเชือด (ความเชื่อแบบคริสเตียน) เล่นบทบาทศูนย์กลางในการเพิ่มขึ้นของทุนนิยมตะวันตก •คมชัด ระบบศาสนาไม่มีเหตุผลมากขึ้น (เช่น Confucianism ศาสนาฮินดู) เป็นที่นิยมในส่วนเหลือของโลก และพวกเขา constricted การพัฒนาของทุนนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีของเวเบอร์ของหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง• Weber มักจะมุ่งเน้นไปที่ทฤษฎีของกระบวนการของการหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง. •เวเบอร์เป็นที่สนใจในเหตุผลที่สถาบันการศึกษาในโลกตะวันตกก็เพิ่มขึ้นมีเหตุผลมากขึ้นกว่าส่วนที่เหลือของโลก. •เขาเห็นระบบราชการเป็นตัวอย่างคลาสสิกของหาเหตุผลเข้าข้างตนเอง . •เขาแตกต่างมีอำนาจออกเป็นสามประเภท:. แบบดั้งเดิมมีเสน่ห์และมีเหตุผลทางกฎหมาย•เฉพาะโลกตะวันตกสามารถมีเหตุผลทางกฎหมายและสามารถพัฒนาระบบราชการที่ทันสมัย. • (เช่นประธานาธิบดีสหรัฐมาผู้มีอำนาจจากกฎหมายของสังคม .) •ส่วนที่เหลือของโลกยังคงโดดเด่นด้วยระบบอำนาจแบบดั้งเดิมหรือเสน่ห์. •Thenเวเบอร์ยังพยายามที่จะเข้าใจว่าทำไมระบบเศรษฐกิจที่มีเหตุผล (ทุนนิยม) มีการพัฒนาในเวสต์และทำไมมันล้มเหลวที่จะพัฒนาในส่วนที่เหลือของ โลก. •เขามุ่งเน้นไปที่การนับถือศาสนาในขั้นตอนนี้และได้ข้อสรุปว่าระบบทางศาสนาที่มีเหตุผล (คาลวินของศาสนาคริสต์) เล่นบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มขึ้นของระบบทุนนิยมในเวสต์. •ในทางตรงกันข้ามระบบทางศาสนาที่ไม่มีเหตุผลมากขึ้น (เช่นขงจื้อศาสนาฮินดู ) เป็นที่นิยมในส่วนที่เหลือของโลกและพวกเขาตีบการพัฒนาของระบบทุนนิยม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เวเบอร์ทฤษฎีของความมีเหตุผล
- เวเบอร์มักเน้นทฤษฎีของกระบวนการของโครงการ
- เวเบอร์สนใจในเหตุผลต่างๆ ในโลกตะวันตกมีการเติบโตที่มีเหตุผลมากกว่าส่วนที่เหลือของโลก
- เขาเห็นระบบราชการเป็นตัวอย่างคลาสสิกของโครงการ
- เขาจากอำนาจออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ แบบมีเสน่ห์ และเหตุผลทางกฎหมาย
- เฉพาะโลกตะวันตกสามารถเหตุผลทางกฎหมาย และสามารถพัฒนาระบบราชการสมัยใหม่
- ( เช่นประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาจากอำนาจจากกฎหมายของสังคมเท่านั้น )
- ส่วนที่เหลือของโลกที่ยังคงโดดเด่นด้วยเสน่ห์แบบดั้งเดิมหรือระบบอำนาจ .
•แล้วเวเบอร์ยังพยายามที่จะเข้าใจถึงระบบเศรษฐกิจที่มีเหตุผล ( ทุนนิยม ) ได้พัฒนาขึ้นในตะวันตก และทำไมมันถึงได้ล้มเหลวที่จะพัฒนาในส่วนที่เหลือของโลก
- เขาเน้นศาสนา ในกระบวนการนี้ และสรุปได้ว่า ระบบศาสนา เหตุผล ( อักษรอาหรับของศาสนาคริสต์ ) มีบทบาทหลักในการขึ้นของทุนนิยมในตะวันตก
- ในทางตรงกันข้าม ระบบทางศาสนาเป็นเหตุผลมากขึ้น ( เช่นขงจื๊อ ฮินดู ) เป็นที่นิยมในส่วนที่เหลือของโลก และจะทำให้การพัฒนาของระบบทุนนิยม