ผลไม้ไทยนั้นได้ชื่อว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมของผู้คนทั่วไป ไม่ว่าจะในแวดวงคนไทยเอง หรือแม้แต่ชาวต่างชาติ ที่มีโอกาสแวะเวียนมาเยือนบ้านเรา ส่งผลให้ชื่อเสียงในเรื่องความหลากหลาย สดใหม่ ตลอดจนรสชาติที่ยอดเยี่ยมเลื่องลือไปถึงประเทศอื่น ๆ ด้วย แต่ในจำนวนนี้ก็มีผลไม้เปลือกสีเข้มอย่างมังคุด และทำไมมังคุดจึงได้มีการยกย่องได้ว่าเป็น ราชินีผลไม้
ด้วยลักษณะของ "มังคุด" ลักษณะของกลีบเลี้ยงที่ติดอยู่ด้านบนของผลก็คล้ายคลึงกับมงกุฎของพระราชินี ส่วนเนื้อในก็มีสีขาวสะอาด มีรสชาติที่แสนหวาน อร่อยอย่างยากที่จะหาผลไม้อื่นมาเทียบได้ มังคุดมีอยู่พันธุ์เดียวเรียกกันว่าเป็นพันธุ์พื้นเมือง เพราะเป็นพืชที่ปลูกด้วยเมล็ด และเมล็ดมังคุดไม่ได้เกิดจากการผสมเกสร จึงแทบจะไม่มีโอกาสกลายพันธุ์เลย แม้จะพบว่ามังคุดสายพันธุ์จากเมืองนนท์ มีผลเล็กและเปลือกบาง มังคุดปักใต้เปลือกหนา แต่ยังไม่มีการศึกษาเปรียบเทียบให้เห็นชัดเจนพอที่จะแยกเป็นพันธุ์ได้ ส่วนการขยายพันธุ์ทำได้หลายวิธี เช่น การเพาะเมล็ด เสียบยอดและทาบกิ่ง แต่วิธีที่นิยมปฏิบัติกันมาก คือ การเพาะเมล็ด เพราะสามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว ต้นมังคุดที่ได้ไม่กลายพันธุ์ แต่มีข้อเสีย คือ ต้องใช้เวลานานถึง 7-8 ปีกว่าจะได้ผลผลิต
ในทางวิทยาศาสตร์เองก็มีการศึกษาวิจัยเพื่อหาสารสำคัญที่มีฤทธิ์รักษาอาการต่าง ๆ อย่างที่ตำราแพทย์แผนไทยมีการระบุสรรพคุณ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ศึกษาพบว่า ในเปลือกมังคุดมีสารแทนนินและสารเคมีอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์แก้อาการท้องเดิน สมานแผล และยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของหนองด้วย แต่ก็มีข้อควรระวังเรื่องขนาดของการใช้ เพราะสารที่เปลือกมังคุดมีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลางและเพิ่มความดันเลือดได้ นอกจากนี้ ยังมีรายงานการศึกษาพบสารสำคัญจำพวก xanthones ได้แก่ mangostin ซึ่งมีฤทธื์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราได้หลายชนิด เช่น แบคทีเรียอันเป็นสามารถเหตุของท้องเสีย นอกจากนี้สารสกัดจากเปลือกมังคุดยังมีสรรพคุณในการรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น เชื้อกลาก ฮ่องกงฟุต (พะยอม, 2521) ได้ด้วย
ปัจจุบันวงการเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้ให้ความสนใจนำสารสกัด จากเปลือกมังคุดไปใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่เปลือกมังคุด ที่ช่วยดับกลิ่นเต่าช่วยบรรเทาโรคผิวหนัง รักษาสิวฝ้า ซึ่งใช้ได้ผลดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค และที่กล่าวมานั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่าประโยชน์ของมังคุดที่ใช้ได้ทั้งผลโดยไม่ต้องทิ้งกันเลย "มังคุด" จึงได้รับการยกย่องให้เป็น "ราชินีของผลไม้"