Search Engine OptimizationWhen the

Search Engine Optimization

When the web first rose to popularity in the 1990s, people spoke of browsing or surfing the web, and users located interesting sites primarily by finding and clicking on links listed on major web directory sites like Yahoo! and Netscape. As the size of the web has exploded over the past decade (Google now indexes well over twenty billion web pages), browsing through sites by following web links has become an increasingly inefficient means to initiate a search for new or very specific information. You may still browse the home page of the New York Times or a personal portal page like iGoogle or MyYahoo!, but if you need anything more specific, you will probably go straight to a search engine such as Google.

The way your pages appear to the automated “spider” software that search engines use to “crawl” links between web pages and create search indexes has become the most important factor in whether users will find the information you publish on the web. Search engine optimization isn’t difficult and will make your site better structured and more accessible. If your site uses proper html structural markup, you’ve already done 80–90 percent of the work to make your site as visible as possible to search engines.

Search optimization techniques are not the magic sauce that will automatically bring your site to the top of Google’s page rankings, however. seo isn’t a cure-all for an ineffective site—it can increase the traffic volume to your site and make things easier to find, but it can’t improve the quality of your site content. seo techniques ensure that your site is well formed and lessen the possibility that you have inadvertently hidden important information while constructing your site. Over the long run, though, only good content and many reference links from other highly ranked web sites will get you to the first page of Google search results and keep you there.

The long tail of web search

Most patterns of web site use follow what is widely known as long-tailed distribution. That is, a few items are overwhelmingly popular, and everything else gets relatively little attention. If you ranked the popularity of every web page in your site, you will typically see a long-tailed curve, in which the home page and a few other pages get lots of views and most others get much less traffic. This long-tailed distribution pattern in popularity is true for products in stores, books for sale at Amazon, songs to download on iTunes, or dvds for sale at Wal-Mart.

Although Wired magazine’s Chris Anderson popularized the concept of the long tail on the Internet, interface expert Jakob Nielsen first used Zipf curves (the formal mathematical term for long-tailed phenomena) to describe the distribution patterns seen in web site usage. Long-tailed usage patterns are fundamental to explaining why web search has become the most popular tool for finding information on the web, whether you are making a general Internet search or merely searching your company’s internal web site. Once users get past the home page and major subdivisions of a large site, they are unlikely to browse their way through all the links that may be required to find a specific page, even if every link is well organized, intuitively labeled, and working properly (fig. 5.8).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา

เมื่อเว็บแรกโรสให้ความนิยมในทศวรรษที่ 1990 คนพูดเรียกดู หรือท่องเว็บ และผู้ใช้อยู่ละแวกเป็นหลัก โดยการค้นหา และคลิกที่การเชื่อมโยงอยู่ในเว็บไซต์ไดเรกทอรีเว็บหลักเช่น yahoo!และ Netscape ขณะที่มีขยายขนาดของเว็บกว่าทศวรรษ (Google ขณะนี้ดัชนีดีกว่ายี่สิบล้านเว็บเพจ), เรียกดูผ่านเว็บไซต์ โดยลิงค์เว็บต่อไปนี้ได้กลายเป็น วิธีต่ำมากเพื่อเริ่มต้นการค้นหาข้อมูลใหม่ หรือเฉพาะเจาะจงมาก นอกจากนี้คุณยังสามารถดูโฮมเพจของเดอะนิวยอร์กไทมส์หรือหน้าเว็บไซต์ส่วนบุคคลเช่น iGoogle หรือ MyYahoo !, แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น คุณอาจจะไปที่ตรงกับเครื่องมือค้นหาเช่น Google ได้

ความของซอฟต์แวร์อัตโนมัติ "แมงมุม" ค้นหาที่ใช้เครื่องยนต์ "ตระเวน" เชื่อมโยงระหว่างเว็บเพจ และสร้างดัชนีการค้นหาได้กลายเป็น ปัจจัยสำคัญในการว่าผู้ใช้จะค้นหาข้อมูลที่คุณเผยแพร่บนเว็บ ค้นหาไม่ยาก และจะทำให้ไซต์ของคุณดีกว่าโครงสร้าง และเข้าถึงได้ ถ้าไซต์ของคุณใช้มาร์กอัปโครงสร้าง html เหมาะสม คุณได้ทำแล้ว 80–90 เปอร์เซ็นต์ของงานที่จะทำให้ไซต์ของคุณที่มองเห็นเป็นการค้นหาเครื่องยนต์

ไม่มีเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาน้ำวิเศษที่จะโดยอัตโนมัติให้ไซต์ของคุณด้านบนของการจัดอันดับหน้าของ Google อย่างไรก็ตาม seo ไม่ cure-all สำหรับไซต์ผลคือสามารถเพิ่มปริมาณการใช้งานไซต์ของคุณ และทำสิ่งที่ง่ายต่อการค้นหา แต่มันไม่สามารถปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาไซต์ เทคนิค seo ให้เว็บไซต์ของคุณดีขึ้น และช่วยลดความเป็นไปได้ว่า คุณได้ตั้งใจซ่อนข้อมูลสำคัญขณะสร้างไซต์ของคุณ ในระยะยาว แม้ว่า เฉพาะเนื้อหาและเชื่อมโยงอ้างอิงมากจากเว็บไซต์อื่นอันดับสูงจะไปหน้าแรกของ Google ค้นหาผลลัพธ์ และทำให้คุณมี.

หางของเว็บค้นหา

ส่วนใหญ่รูปแบบการใช้งานเว็บไซต์ตามที่เป็นรู้จักกันอย่างกว้างขวางเป็นการแจกแจงลอง นั่นคือ บางรายการได้รับความนิยม overwhelmingly และทุกอย่างอื่นที่ได้รับค่อนข้างน้อยให้ความสนใจ ถ้าคุณการจัดอันดับความนิยมของแต่ละหน้าเว็บไซต์ของคุณ คุณจะโดยปกติเห็นเป็นหางยาวโค้ง ที่หน้าโฮมและหน้าอื่น ๆ กี่ได้มุมมอง และอื่น ๆ ส่วนใหญ่ได้รับการจราจรมากน้อย รูปแบบประเทศกระจายหางยาวนี้เป็นจริงสำหรับผลิตภัณฑ์ในร้านค้า หนังสือขาย Amazon เพลงการดาวน์โหลดบน iTunes หรือดีวีดีขายมินิมาร์ทหยั่นหวอหยุ่น

แม้ว่านิตยสารสายคริสแอนเดอร์สัน popularized แนวคิดของหางบนอินเทอร์เน็ต อินเทอร์เฟซผู้เชี่ยวชาญนีล Jakob ใช้ Zipf โค้ง (ทางคณิตศาสตร์คำว่าสำหรับปรากฏการณ์ที่หางยาว) ก่อนเพื่ออธิบายรูปแบบการกระจายในการใช้งานเว็บไซต์ รูปแบบการใช้หางยาวพื้นฐานอธิบายทำไมค้นหาเว็บได้กลายเป็น เครื่องมือนิยมมากที่สุดสำหรับค้นหาข้อมูลบน web ว่าที่คุณทำการค้นหาอินเทอร์เน็ตทั่วไป หรือเพียงแค่ค้นหาเว็บไซต์ภายในของบริษัทของคุณได้ เมื่อผู้ใช้ที่ได้รับผ่านมาหน้าบ้านและแบ่งย่อยใหญ่ไซต์ใหญ่ พวกเขาจะไม่น่าจะเรียกดูทางผ่านเชื่อมโยงทั้งหมดที่อาจจำเป็นต้องพบหน้าใดหน้าหนึ่ง แม้ว่าลิงค์ทุกดีจัดระเบียบ ป้าย สังหรณ์ใจ และทำงานอย่างถูกต้อง (fig. 5.8)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค้นหาการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต์

เมื่อเว็บแรกเพิ่มขึ้นถึงความนิยมในทศวรรษ 1990 คนเอ่ยเรียก หรือท่องเว็บ และผู้ใช้ที่อยู่เว็บไซต์ที่น่าสนใจเป็นหลักโดยการค้นหาและคลิกที่ลิงก์ที่ระบุไว้ในไดเรกทอรีหลักของเว็บไซต์เช่น Yahoo ! และ Netscape เป็นขนาดของเว็บได้ระเบิดกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ( Google ตอนนี้ดัชนีได้ดีกว่ายี่สิบล้านหน้าเว็บ )การเรียกดูเว็บไซต์โดยต่อไปนี้การเชื่อมโยงเว็บได้กลายเป็นไม่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหมายถึงการเริ่มต้นค้นหาข้อมูลใหม่หรือที่เฉพาะเจาะจงมาก คุณอาจจะเรียกดูหน้าแรกของนิวยอร์คไทม์ หรือพอร์ทัลส่วนบุคคลหน้าเหมือน iGoogle หรือ myyahoo ! แต่ถ้าคุณต้องการอะไรที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น คุณอาจไปที่เครื่องมือค้นหาเช่น Google .

ทางหน้าเว็บของคุณจะปรากฏให้อัตโนมัติ " แมงมุม " ซอฟต์แวร์เครื่องมือค้นหาใช้เพื่อ " รวบรวมข้อมูล " การเชื่อมโยงระหว่างหน้าเว็บและสร้างดัชนีการค้นหากลายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในไม่ว่าผู้ใช้จะค้นหาข้อมูลที่คุณเผยแพร่บนเว็บ การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหาไม่ยาก และจะทำให้เว็บไซต์ของคุณดีกว่าโครงสร้างและสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นหากเว็บไซต์ของคุณใช้มาร์กอัป HTML โครงสร้างที่เหมาะสม , คุณเคยทำ 80 – 90% ของการทำงานเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณมองเห็นได้ ที่สุดเครื่องมือค้นหา ค้นหาเทคนิคการเพิ่มประสิทธิภาพ

ไม่ใช่เวทมนตร์ ) โดยอัตโนมัติจะนำเว็บไซต์ของคุณไปด้านบนของ Google อันดับของหน้า แต่ซอไม่ได้เป็นรักษาสำหรับประสิทธิภาพเว็บไซต์สามารถเพิ่มปริมาณการจราจรไปยังเว็บไซต์ของคุณและทำให้มันง่ายต่อการค้นหา แต่ไม่สามารถปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณ เทคนิค SEO ให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นอย่างดีขึ้นและช่วยลดความเป็นไปได้ที่คุณจะไม่ได้ตั้งใจซ่อนข้อมูลที่สำคัญในขณะที่การสร้างเว็บไซต์ของคุณ ในระยะยาว , แม้ว่าแต่เนื้อหาดีและหลายอ้างอิงการเชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น ๆคุณจะได้รับการจัดอันดับสูงในหน้าแรกของผลการค้นหา Google และทำให้คุณมี

หางที่ยาวของการค้นหาเว็บ

รูปแบบส่วนใหญ่ของเว็บไซต์ที่ใช้ตามสิ่งที่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย เช่น ยาว หาง การกระจายสินค้า นั่นคือไม่กี่รายการ มีสินค้าที่ได้รับความนิยม และทุกอย่างอื่นที่ได้รับความสนใจค่อนข้างน้อย .ถ้าคุณรับการจัดอันดับความนิยมของทุกหน้าเว็บในไซต์ของคุณ คุณจะพบได้ทั่วไป ยาว หางโค้ง ซึ่งในหน้าแรก และหน้าอื่น ๆไม่กี่ได้รับมากมายมุมมองและผู้อื่นมากที่สุดได้รับการจราจรมากน้อย ยาวหางรูปแบบการกระจายความนิยมเป็นจริงสำหรับผลิตภัณฑ์ในร้าน ขายหนังสือ ขายที่ Amazon , เพลงเพื่อดาวน์โหลดใน iTunes หรือดีวีดีขายที่ Wal Mart .

แม้ว่านิตยสาร wired Chris Anderson popularized แนวคิดหางยาวบนอินเทอร์เน็ต ติดต่อผู้เชี่ยวชาญ จาคอบ นีลเซ่น ก่อนใช้ ซิพฟ์เส้นโค้ง ( อย่างเป็นทางการในระยะยาว ทางคณิตศาสตร์ ตามปรากฏการณ์ ) เพื่ออธิบายรูปแบบการมองเห็นในการใช้เว็บไซต์ยาวหางรูปแบบการใช้เป็นพื้นฐานเพื่ออธิบายว่าทำไมการค้นหาเว็บได้กลายเป็นเครื่องมือที่นิยมมากที่สุดสำหรับการค้นหาข้อมูลบนเว็บ ไม่ว่าคุณกำลังค้นหาอินเทอร์เน็ตทั่วไป หรือค้นหา เพียง บริษัท ของคุณเว็บไซต์ภายใน เมื่อผู้ใช้ผ่านโฮมเพจและเขตการปกครองหลักของเว็บไซต์ขนาดใหญ่พวกเขาไม่น่าที่จะดูวิธีของพวกเขาผ่านการเชื่อมโยงทั้งหมดที่อาจต้องพบหน้าเฉพาะ แม้ว่าทุกลิงค์เป็นดีจัด ทําป้าย และทำงานได้อย่างถูกต้อง ( รูปที่ 8 )