RESULTSTuber yield was higher in 19

RESULTS
Tuber yield was higher in 1999 early season planting
than in 2000 late season planting by 28 percent. Late planted cassava tuber yields were reduced by 44% in NR
8082, 45% in TMS 000447 and 15 % TMS 00033. It was,
however, increased in the lowest yielding variety TMS
91/453 by 17%. Tuber yield differ significantly between
varieties (Table 2). Yields were highest from NR 8082
and TMS 00033 planted early or late. The yield reduced
from 44 t/ha to 25 t/ha in NR 8082 due to late planting
but TMS 00033 was stable and varied from 36 to 31 t/ha.
Varietal differences in number of tubers per plant was
significant for early planting with TMS 91/453 having the
lowest number of tubers and yield during this period. For
late planting, the numbers of tubers were similar among
the varieties and ranged between 5 and 6 per plant. The
incidence of tuber rot in 1999 early plating was 17 and
20% in TMS 00447 and TMS 91/453, respectively. For
the 2001 late planting, TMS 00447 had the highest
incidence of rot (17.60%) but in both periods of planting,
NR 8082 and TMS 00033 had the lowest tuber rot of 8 -
11%.
The addition of fertilizer did not improve the tuber yield
of early-planted cassava varieties but the late cultivation
showed negative yield response to fertilizer. Reduction in
tuber yield was significant with the addition of 400 and
800 kg NPK per hectare. Fertilizer application did not
have influence on the number of tubers per plant and the
incidence of tuber rot (Tables 2 and 3). Across the
fertilizer rates, number of tubers per plant was between 5
and 6 and the incidence of rot varied from 12-17% and
11-15% of tuber harvested in early and late planted
cassava, respectively. Severity of rot was mild for variety and fertilizer in both early and late planting despite the
significant interaction observed during late planting. At
this period, NR8082 showed higher resistance to rot than
other varieties except TMS 00033 at 800 kg/ha fertilizer
rate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์หัวผลตอบแทนสูงในปี 1999 ต้นฤดูปลูกกว่า 2000 สายฤดูกาลปลูก 28 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตหัวมันสำปะหลังที่ปลูกล่าช้าได้ลดลง 44% ใน NR8082, 15% และ 45% ใน TMS 000447 TMS 00033 มันเป็นอย่างไรก็ตาม เพิ่มขึ้นในความหลากหลายต่ำสุดบริษัท TMS91/453 โดย 17% ผลผลิตหัวแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างพันธุ์ (ตารางที่ 2) อัตราผลตอบแทนได้สูงสุดจาก NR 8082และ TMS 00033 ปลูกต้น หรือปลาย ผลผลิตที่ลดลงจาก 44 t/ha ไป 25 t/ha ใน NR 8082 เนื่องจากสายปลูกแต่ TMS 00033 ไม่มั่นคง และแตกต่างกันจาก 36 ถึง 31 t/haความแตกต่างของพันธุ์จำนวน tubers ต่อพืชได้สำคัญสำหรับการเพาะปลูกต้นกับ TMS 91/453 มีการหมายเลขที่ต่ำสุดของ tubers และผลผลิตในช่วงเวลานี้ สำหรับปลูกล่าช้า จำนวน tubers คล้ายกันระหว่างพันธุ์ และอยู่ในช่วงระหว่าง 5 และ 6 ต่อพืช ที่อุบัติการณ์ของ rot หัวในปี 1999 ก่อนชุบเป็น 17 และ20% ใน TMS 00447 TMS 91/453 ตามลำดับ สำหรับในปี 2001 ปลายปลูก TMS 00447 ได้ที่สูงที่สุดจากอุบัติการณ์ ของ rot (17.60%) แต่ ในรอบสองของการปลูกNR 8082 และ TMS 00033 มีเน่าหัวต่ำของ 8-11%การเพิ่มปุ๋ยไม่ได้เพิ่มผลผลิตหัวพันธุ์มันสำปะหลังก่อนปลูกแต่ปลูกปลายแสดงให้เห็นว่าผลตอบแทนติดลบการตอบสนองต่อปุ๋ย ลดลงหัวผลผลิตสำคัญแห่ง 400 และกิโลกรัม 800 NPK ต่อ hectare ไม่มีการใส่ปุ๋ยมีอิทธิพลต่อจำนวน tubers ต่อพืชและอุบัติการณ์ของ rot หัว (ตารางที่ 2 และ 3) ข้ามราคาปุ๋ย จำนวน tubers ต่อพืชได้ระหว่าง 5และอุบัติการณ์ของ rot และ 6 แตกต่างกันจาก 12-17% และ11-15% ของหัวเก็บเกี่ยวในช่วงต้น และปลายปลูกมันสำปะหลัง ตามลำดับ ความรุนแรงของ rot ได้อ่อนหาปุ๋ยในช่วงต้น และปลายปลูกแม้มีการติดต่อที่สำคัญสังเกตในระหว่างการปลูกล่าช้า ที่เวลานี้ NR8082 ได้แสดงให้เห็นว่าความต้านทานสูงจะเน่ากว่าพันธุ์อื่น ๆ ยกเว้น TMS 00033 ที่ 800 กก./ฮา ปุ๋ยอัตรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลผลผลิตหัวที่สูงขึ้นในปี 1999 ช่วงต้นฤดูกาลเพาะปลูกกว่าในปี2000 การปลูกปลายฤดูร้อยละ 28 ปลายปลูกมันสำปะหลังหัวอัตราผลตอบแทนลดลง 44% ใน NR 8082, 45% ใน TMS 000,447 และ 15% TMS 00033. มันเป็นแต่ที่เพิ่มขึ้นใน TMS หลากหลายที่ให้ผลผลิตต่ำสุด91/453 17% ผลผลิตหัวแตกต่างระหว่างพันธุ์ (ตารางที่ 2) อัตราผลตอบแทนสูงที่สุดจาก NR 8082 และ TMS 00,033 ปลูกเร็วหรือช้า อัตราผลตอบแทนที่ลดลงจาก 44 ตัน / เฮกตาร์ถึง 25 ตัน / เฮกตาร์ใน NR 8082 เนื่องจากการปลูกปลาย แต่ TMS 00033 มีเสถียรภาพและแตกต่างกัน 36-31 ตัน ​​/ เฮกตาร์. ความแตกต่างพันธุ์ในจำนวนของหัวต่อต้นเป็นอย่างมีนัยสำคัญสำหรับการเพาะปลูกในช่วงต้นที่มีเหตุผล91/453 มีจำนวนต่ำสุดของหัวและผลผลิตในช่วงเวลานี้ สำหรับการเพาะปลูกในช่วงปลายตัวเลขของหัวมีความคล้ายคลึงกันในหมู่สายพันธุ์และอยู่ระหว่าง5 และ 6 ต่อต้น อุบัติการณ์ของเน่าหัวในปี 1999 ชุบต้นที่ 17 และ20% ใน TMS 00,447 และ TMS 91/453 ตามลำดับ สำหรับปี 2001 ปลูกปลาย TMS 00447 ได้สูงสุดอุบัติการณ์ของโรคโคนเน่า(17.60%) แต่ในช่วงเวลาที่ทั้งสองปลูกNR 8082 และ TMS 00033 มีเน่าหัวต่ำสุดของที่ 8 -. 11% นอกจากนี้ปุ๋ยไม่ได้ปรับปรุงหัว ผลผลิตของพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูกในช่วงต้นแต่การเพาะปลูกในช่วงปลายพบว่ามีการตอบสนองในทางลบต่อผลผลิตปุ๋ย การลดลงของผลผลิตพืชอย่างมีนัยสำคัญด้วยนอกเหนือจาก 400 และ 800 กก. ต่อไร่ NPK ใส่ปุ๋ยไม่ได้มีอิทธิพลต่อจำนวนหัวต่อต้นและอุบัติการณ์ของเน่าหัว(ตารางที่ 2 และ 3) ข้ามอัตราปุ๋ยจำนวนหัวต่อต้นเป็นระหว่างวันที่ 5 และ 6 และอุบัติการณ์ของเน่าที่แตกต่างกัน 12-17% และ11-15% ของหัวเก็บเกี่ยวในต้นและปลายปลูกมันสำปะหลังตามลำดับ ความรุนแรงของเน่าเป็นอ่อนสำหรับความหลากหลายและปุ๋ยในการปลูกทั้งต้นและปลายแม้จะมีการทำงานร่วมกันอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่สังเกตปลูกปลาย ในช่วงเวลานี้ NR8082 แสดงความต้านทานสูงเน่ากว่าพันธุ์อื่นๆ ยกเว้น TMS 00,033 ที่ 800 กก. / ไร่ปุ๋ยอัตรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลลัพธ์
หัวผลผลิตสูงกว่าปลูก
กว่า 2000 ปี ปลูกโดย 28 เปอร์เซ็นต์ฤดูปลายฤดูก่อน ปลูกมันสำปะหลังหัวสายผลผลิตได้ลดลงจากร้อยละ 44 ในยางธรรมชาติ
8082 45% ใน TMS 000447 และ 15% 00033 TMS . มันเป็น
แต่เพิ่มขึ้นในหลากหลายให้ผลผลิตต่ำสุดสูงสุด
91 / 453 โดย 17 % ผลผลิตหัวมันแตกต่างระหว่าง
พันธุ์ ( ตารางที่ 2 ) ผลผลิตสูงสุดจากยางธรรมชาติ 8082
• 00033 และปลูกต้นหรือปลาย ผลผลิตลดลงจาก 44 T
T / / ฮ่าฮ่า 25 ในยางธรรมชาติ 8082 เนื่องจากปลายปลูก
แต่ TMS 00033 คงที่และเปลี่ยนแปลงจาก 36 31 T / ฮา
ความแตกต่างพันธุ์จำนวนหัวที่ต่อพืชปลูกด้วยต้น
สําคัญสําหรับงาน 91 / 453 มีจำนวนต่ำสุดของหัว
และผลผลิตในช่วงระยะเวลานี้ สำหรับ
สายปลูกต้นไม้ จำนวนหัวที่เหมือนกันระหว่าง
นานา และอยู่ระหว่าง 5 และ 6 ต่อโรงงาน
อุบัติการณ์ของหัวเน่าใน 2542 ชุบก่อนอายุ 17 และ 20 %
00447 ••และ 91 / 91 ตามลำดับ สำหรับ
2001 สายปลูก , TMS 00447 มีอุบัติการณ์สูงที่สุด
ของเน่า ( 17.60 % ) แต่ในช่วงของการปลูกยางและ 00033
8082 TMS ได้สุดหัวเน่า 8 - 11 %
.
เพิ่มปุ๋ยไม่ได้ปรับปรุงผลผลิต
หัวต้นพันธุ์มันสำปะหลังที่ปลูก แต่ปลูกแล้วผลผลิต
พบลบการตอบสนองต่อปุ๋ย ลด
ผลผลิตหัวก็สำคัญกับการเพิ่มของ 400 และ 800 กิโลกรัม
NPK ต่อเฮกแตร์ การใส่ปุ๋ยไม่ได้
มีอิทธิพลต่อจำนวนหัวที่ต่อพืชและ
อุบัติการณ์ของหัวเน่า ( ตารางที่ 2 และ 3 ) ข้าม
ปุ๋ย จำนวนหัวที่ต่อต้นมีระหว่าง 5
และ 6 และอุบัติการณ์ของโรคแตกต่างกัน ตั้งแต่ 12-17 %
( % ของหัวเกี่ยวในช่วงต้นและปลายปลูก
มันสำปะหลัง ตามลำดับ ความรุนแรงของโรคยังไม่รุนแรงเพื่อความหลากหลายและปุ๋ยในการปลูก ทั้งเร็วและช้าแม้
ปฏิสัมพันธ์สังเกตช่วงปลูก ที่
ช่วงนี้ nr8082 แสดงความต้านทานสูงจะเน่ากว่าพันธุ์อื่น ๆ ยกเว้นงานที่ 00033

800 กิโลกรัม / ไร่ ปุ๋ยอัตรา