IntroductionThe species Australopit

Introduction

The species Australopithecus robustus was first discovered and named by the eminent Dr. Robert Broom. Broom made a habit of buying fossil remains from a lime quarry worker, and on a particular visit on June 8, 1938, Broom bought a maxillary fragment containing a first molar. The shape and the size of the molar convinced Broom that this was a different species than A. africanus (Broom’s transvaalensis), and upon further investigation, found that the specimen had been found by a young boy who worked in the cave as a guide on Sundays. Broom searched for the boy (Gert Terblanche) and found him at school. Broom lectured the boy’s class on the cave sites of the area, and was then led to the place of the specimen’s discovery, Kromdraai. Broom found several more cranial and mandibular fragments associated with the original maxillary specimen, and this partial cranium (TM 1517) became the type specimen for A. robustus.

Broom spent some time working on a monograph of the australopithecines, which was published in 1946. This monograph included the description of TM 1517, and was a turning point for the South African australopithecines in the eyes of the world. The monograph received the U.S. National Academy of Sciences award for the most important book of the year in biology, and along with L Gros Clark’s published approval of the South African australopithecines as hominids, was very important in altering the view that the South African specimens were human ancestors and not simply an ape.

Another important find was SK 6, a portion of mandible and several teeth. Another discovery of Broom’s, he originally named a new species for it (Paranthropus crassidens.) However, the specimen is generally accepted as robustus, though it is also considered a type specimen because of this separate species designation. One of the more complete robustus specimens is SK 48, a fairly complete crania of what is probably a female. This specimen – due to its completeness – added much information on the cranial characteristics of the robust australopithecines. One specimen may or may not be robustus, since it was found at Sterkfontein, and the presence of robustus and africanus in the same place at basically the same time would cause some phylogentic attribution of the robust australopithecines major problems. STW 252 is considered by those who see more than one species at Sterkfontein as robustus, and as africanus by those that see one species. The dentition seems to indicate inclusion in robustus, but the uncertainty of the date causes some to view it cautiously.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

IntroductionThe species Australopithecus robustus was first discovered and named by the eminent Dr. Robert Broom. Broom made a habit of buying fossil remains from a lime quarry worker, and on a particular visit on June 8, 1938, Broom bought a maxillary fragment containing a first molar. The shape and the size of the molar convinced Broom that this was a different species than A. africanus (Broom’s transvaalensis), and upon further investigation, found that the specimen had been found by a young boy who worked in the cave as a guide on Sundays. Broom searched for the boy (Gert Terblanche) and found him at school. Broom lectured the boy’s class on the cave sites of the area, and was then led to the place of the specimen’s discovery, Kromdraai. Broom found several more cranial and mandibular fragments associated with the original maxillary specimen, and this partial cranium (TM 1517) became the type specimen for A. robustus.Broom spent some time working on a monograph of the australopithecines, which was published in 1946. This monograph included the description of TM 1517, and was a turning point for the South African australopithecines in the eyes of the world. The monograph received the U.S. National Academy of Sciences award for the most important book of the year in biology, and along with L Gros Clark’s published approval of the South African australopithecines as hominids, was very important in altering the view that the South African specimens were human ancestors and not simply an ape.ค้นหาสำคัญอื่นถูก SK 6 ส่วนของกรรไกร และฟันหลาย อื่นการค้นพบของไม้กวาด เขาเดิมชื่อสายพันธุ์ใหม่สำหรับ (Paranthropus crassidens) อย่างไรก็ตาม สิ่งส่งตรวจโดยทั่วไปยอมรับเป็น robustus แต่ยังถือว่าเป็นสิ่งส่งตรวจชนิดเนื่องจาก มีการรับรองสายพันธุ์ที่แยกต่างหาก Specimens robustus สมบูรณ์อย่างใดอย่างหนึ่งเป็น SK 48, crania ค่อนข้างสมบูรณ์อะไรอาจจะเป็นหญิง ตัวอย่างนี้ – เนื่องจากความสมบูรณ์เพิ่มข้อมูลมากลักษณะ cranial ของ australopithecines แข็งแกร่ง ตัวอย่างหนึ่งที่อาจ หรืออาจไม่ robustus เนื่องจากพบที่ Sterkfontein และสถานะของ robustus และ africanus ใน เดียวกันโดยทั่วไปจะทำให้แสดงบาง phylogentic ของ australopithecines แข็งแกร่งปัญหาสำคัญ STW 252 ถือว่าเป็นผู้ที่ดู robustus และ เป็น africanus สปีชีส์หนึ่งที่ Sterkfontein โดยผู้ที่เห็นชนิดหนึ่ง Dentition ดูเหมือนจะ บ่งชี้รวมใน robustus แต่ความไม่แน่นอนของวันทำให้บางดูเดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำชนิด Australopithecus robustus ถูกค้นพบครั้งแรกและตั้งชื่อโดยโรเบิร์ตที่มีชื่อเสียงไม้กวาด ไม้กวาดทำนิสัยของการซื้อฟอสซิลยังคงอยู่จากคนงานเหมืองมะนาวและในการเข้าชมเฉพาะวันที่ 8 มิถุนายน 1938 ไม้กวาดซื้อชิ้นส่วนขากรรไกรที่มีฟันกรามแรก รูปร่างและขนาดของกรามเชื่อไม้กวาดว่านี่คือสายพันธุ์ที่แตกต่างจากเอ africanus (ไม้กวาด transvaalensis) และเมื่อตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าชิ้นงานที่ได้รับการค้นพบโดยเด็กหนุ่มที่ทำงานอยู่ในถ้ำเป็นในคู่มือ วันอาทิตย์ ไม้กวาดค้นหาเด็ก (เกิร์ต Terblanche) และพบเขาที่โรงเรียน ไม้กวาดสอนในชั้นเรียนของเด็กในเว็บไซต์ถ้ำพื้นที่และถูกนำตัวไปยังสถานที่นั้นของการค้นพบของชิ้นงาน, Kromdraai ไม้กวาดพบหลายชิ้นส่วนกะโหลกศีรษะมากขึ้นและขากรรไกรล่างที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่าง maxillary เดิมและกะโหลกบางส่วนนี้ (TM 1517) กลายเป็นประเภทตัวอย่างสำหรับ robustus ก. ไม้กวาดใช้เวลาอยู่ที่ทำงานเกี่ยวกับเอกสารของ australopithecines ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1946 เอกสารนี้รวมถึงรายละเอียดของ TM 1517 และเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับ australopithecines แอฟริกาใต้ในสายตาของโลก เอกสารที่ได้รับจากสถาบันการศึกษาแห่งชาติของสหรัฐที่ได้รับรางวัลวิทยาศาสตร์สำหรับหนังสือที่สำคัญที่สุดของปีในทางชีววิทยาและพร้อมด้วยความเห็นชอบการตีพิมพ์คลาร์ก L Gros ของ australopithecines แอฟริกาใต้เป็น hominids เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการเปลี่ยนแปลงมุมมองที่ตัวอย่างที่แอฟริกาใต้ได้ บรรพบุรุษของมนุษย์และไม่เพียง แต่ลิง. พบที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ SK 6 ส่วนหนึ่งของขากรรไกรล่างและฟันหลาย การค้นพบของไม้กวาดอีกคนหนึ่งเขาชื่อเดิมสายพันธุ์ใหม่สำหรับมัน (Paranthropus crassidens.) แต่ชิ้นงานที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็น robustus แต่ก็ถือว่ายังเป็นประเภทตัวอย่างเพราะการกำหนดแยกสายพันธุ์นี้ หนึ่งในตัวอย่างที่สมบูรณ์มากขึ้น robustus เป็นเอสเค 48 เป็นกะโหลกค่อนข้างสมบูรณ์ของสิ่งที่น่าจะเป็นเพศหญิง ตัวอย่างนี้ - เนื่องจากการสมบูรณ์ - เพิ่มข้อมูลมากกับลักษณะของกะโหลก australopithecines ที่แข็งแกร่ง ตัวอย่างหนึ่งอาจจะหรืออาจจะไม่ได้ robustus เพราะมันถูกพบใน Sterkfontein และการปรากฏตัวของ robustus และ africanus ในสถานที่เดียวกันที่พื้นในเวลาเดียวกันจะทำให้เกิดการแสดงที่มาบาง phylogentic ของ australopithecines แข็งแกร่งปัญหาที่สำคัญ STW 252 คือการพิจารณาโดยผู้ที่เห็นมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็น Sterkfontein robustus และเป็น africanus โดยผู้ที่เห็นว่าชนิดหนึ่ง ฟันน่าจะระบุรวมอยู่ใน robustus แต่ความไม่แน่นอนของวันที่ทำให้เกิดการบางอย่างเพื่อให้ดูอย่างระมัดระวัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ

ชนิดดิสเคาท์ robustus เป็นครั้งแรกที่ค้นพบและตั้งชื่อโดย ที่มี ดร. โรเบิร์ต ไม้กวาด ไม้กวาดทำนิสัยการซื้อซากฟอสซิลซากจากมะนาวคนงานเหมือง และในการเข้าชม โดยเฉพาะวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2481 , ไม้กวาดซื้อชิ้นส่วนที่มีฟันกรามซี่แรก รูปร่างและขนาดของฟันทำให้ไม้กวาดที่เป็นสปีชีส์ที่แตกต่างกว่า .africanus ( ไม้กวาดของ transvaalensis ) และเมื่อสืบสวนต่อไป พบว่า ตัวอย่างที่ถูกพบโดยหนุ่มที่ทำงานอยู่ในถ้ำเป็นคู่มือในวันอาทิตย์ ไม้กวาดหาหนุ่ม ( เกิด terblanche ) แล้วก็เจอเค้าที่โรงเรียน ไม้กวาดสอนชั้นเรียนของเด็กในถ้ำเว็บไซต์ของพื้นที่ และก็นำไปสู่สถานที่ของการค้นพบของตัวอย่าง kromdraai .กะโหลกศีรษะและขากรรไกรบนไม้กวาดพบหลายชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับชิ้นงานบนต้นฉบับและกะโหลกบางส่วน ( TM 1517 ) เป็นประเภทตัวอย่าง . robustus

ไม้กวาดใช้เวลาทำงานในงานเขียนของอ ตราโลพิเธซีน ซึ่งถูกตีพิมพ์ในปี 1946 เอกสารนี้ประกอบด้วยรายละเอียดของ 1517 TM ,และเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับอ ตราโลพิเธซีนแอฟริกาใต้ในสายตาของโลก โดยหนังสือที่ได้รับรางวัลของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐ สำหรับหนังสือที่สำคัญที่สุดของปีในชีววิทยา และตามด้วย L Gros คลาร์กตีพิมพ์อนุมัติของแอฟริกาใต้เป็นโฮมินิดส์อ ตราโลพิเธซีน ,