Problem statement: For many years,

Problem statement: For many years, there has been a problem with regard to the theory–practice gap in nursing students’ clinical education, as indicated in many studies. Purpose: A description of nursing students’ views on the theory–practice gap in clinical learning.Methods: A qualitative content analysis was conducted to describe nursing students’ (n = 21) views of the theory–practice gap in clinical learning. Semi-structured and interactive interviews were used to collect data. All interviews were recorded and transcribed, then analysed using qualitative content analysis and MAXQDA 2010.Findings: From the transcripts, a remarkable number of primary themes, main themes and sub-themes emerged. The main themes consisted of elements related to ‘society and culture’, ‘promotion of theoretical knowledge and clinical skills’, ‘student-related factors’, ‘instructor-related factors’, ‘staff-related factors’, ‘clinical situations’ and ‘learning styles’.Conclusion: In order to reduce the theory–practice gap, various methods are proposed: priority of theoretical over practical courses, curriculum revision, applicability to cases according to theoretical materials already learned, and searching for an innovative curriculum to reconcile students’ theoretical and practical educational content. In addition, nursing education administrators should cooperate with the faculty and staff by adopting interactive and participatory solutions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายงานปัญหา: หลายปี มีปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างในการศึกษาทางคลินิกของนักศึกษาพยาบาล ทฤษฎี – ปฏิบัติการตามที่ระบุในการศึกษามากขึ้น วัตถุประสงค์: คำอธิบายของพยาบาลนักเรียนมุมมองทฤษฎี – ปฏิบัติช่องว่างในการเรียนรู้ทางคลินิกวิธีการ: การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพได้ดำเนินการอธิบายของนักศึกษาพยาบาล (n = 21) มุมมองของทฤษฎี – ปฏิบัติช่องว่างในการเรียนรู้ทางคลินิก สัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบโต้ตอบถูกใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล สัมภาษณ์ทั้งหมดถูกบันทึก และทับศัพท์ แล้ว analysed โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพและ MAXQDA 2010.Findings: จากใบแสดงผล เลขโดดเด่นของรูปแบบหลัก ชุดรูปแบบหลัก และรูปแบบย่อยเกิดขึ้น รูปแบบหลักประกอบด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ "สังคมและวัฒนธรรม" "ส่งเสริมความรู้ทฤษฎีและทักษะทางคลินิก' 'ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน' 'ปัจจัยที่เกี่ยวข้องผู้สอน' 'ปัจจัยที่เกี่ยวข้องพนักงาน' 'สถานการณ์คลินิก' และ 'เรียนรู้ลักษณะ'สรุป: เพื่อลดช่องว่างของทฤษฎี – ปฏิบัติ วิธีการต่าง ๆ มีการนำเสนอ: ความสำคัญของทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติการหลักสูตร หลักสูตรปรับปรุง ความเกี่ยวข้องของกรณีตามทฤษฎีวัสดุแล้วเรียนรู้ และการค้นหาสำหรับหลักสูตรนวัตกรรมการง้อนักทฤษฎีปฏิบัติศึกษาเนื้อหา และการ นอกจากนี้ พยาบาลผู้ดูแลการศึกษาควรร่วมมือกับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ โดยการใช้แบบโต้ตอบ และมีส่วนร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำชี้แจงปัญหา: หลายปีที่ผ่านมาได้มีการปัญหาเกี่ยวกับช่องว่างทฤษฎีปฏิบัติในนักศึกษาพยาบาล 'การศึกษาทางคลินิกที่ระบุไว้ในการศึกษาจำนวนมาก วัตถุประสงค์: คำอธิบายของนักศึกษาพยาบาล 'มุมมองในช่องว่างทฤษฎีปฏิบัติใน learning.Methods คลินิก: การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพได้ดำเนินการในการอธิบายถึงนักศึกษาพยาบาล (n = 21) มองเห็นทิวทัศน์ของช่องว่างทฤษฎีการปฏิบัติในการเรียนรู้ทางคลินิก กึ่งโครงสร้างและการสัมภาษณ์แบบโต้ตอบถูกนำมาใช้ในการเก็บข้อมูล สัมภาษณ์ทั้งหมดถูกบันทึกไว้และคัดลอกแล้ววิเคราะห์โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพและ MAXQDA 2010.Findings: จากการถอดเสียงเป็นจำนวนที่น่าทึ่งของรูปแบบหลักธีมหลักและรูปแบบย่อยโผล่ออกมา ธีมหลักขององค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับการประกอบ 'สังคมและวัฒนธรรม', 'โปรโมชั่นของความรู้ทางทฤษฎีและทักษะทางคลินิก', 'ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับนักเรียน', 'ปัจจัยสอนที่เกี่ยวข้องกับ', 'ปัจจัยพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ', 'สถานการณ์ทางคลินิกและ 'การเรียนรู้ styles'.Conclusion: เพื่อที่จะลดช่องว่างทฤษฎีปฏิบัติวิธีการต่างๆจะนำเสนอ: ลำดับความสำคัญของทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติหลักสูตรปรับปรุงหลักสูตรการบังคับใช้กับกรณีตามวัสดุทฤษฎีเรียนรู้แล้วและค้นหาหลักสูตรนวัตกรรมที่จะคืนดี นักเรียนภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเนื้อหาการศึกษา นอกจากนี้ผู้บริหารการศึกษาพยาบาลควรให้ความร่วมมือกับอาจารย์และบุคลากรโดยการนำโซลูชั่นการโต้ตอบและการมีส่วนร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แจ้งปัญหา : เป็นเวลาหลายปี , มีปัญหาเกี่ยวกับทฤษฎีและการปฏิบัติทางคลินิกของนักศึกษาพยาบาล ช่องว่างในการศึกษา , ตามที่ระบุไว้ในการศึกษามาก วัตถุประสงค์ : รายละเอียดของความคิดเห็นของนักศึกษาพยาบาลเกี่ยวกับทฤษฎีและการปฏิบัติทางคลินิกช่องว่างในการเรียนรู้ วิธีการ :การวิเคราะห์เชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายนักศึกษาพยาบาล ( n = 21 ) มุมมองของทฤษฎีและการปฏิบัติ ช่องว่างในการเรียนทางคลินิก การสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างและแบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูล การสัมภาษณ์ทั้งหมดถูกบันทึกและคัดลอก จากนั้นวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาเชิงคุณภาพและ maxqda 2010 รวบรวมข้อมูลจากบันทึก ตัวเลขที่โดดเด่นของรูปแบบหลักหัวข้อหลักและย่อยรูปแบบเกิดขึ้น ธีมหลักประกอบด้วยองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับ ' สังคม ' , ' การส่งเสริมความรู้ทางทฤษฎี และทักษะทางคลินิกนักศึกษา ปัจจัยด้านผู้สอน ด้าน ' ' , ' ' เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องปัจจัย ' ' สถานการณ์ ' คลินิก ' ' และรูปแบบการเรียนรู้ สรุป : ในทฤษฎีและการปฏิบัติ เพื่อลดช่องว่าง เสนอวิธีการต่าง ๆความสําคัญของทฤษฎีผ่านหลักสูตรปรับปรุงหลักสูตรปฏิบัติประยุกต์ใช้กับกรณี ตามทฤษฎีวัสดุได้เรียนรู้ และค้นหานวัตกรรมที่จะทำให้นักศึกษาหลักสูตรภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ เนื้อหาการศึกษา นอกจากนี้ผู้บริหารการศึกษาพยาบาลควรร่วมมือกับคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ ด้วยการใช้โซลูชั่นแบบโต้ตอบและมีส่วนร่วม .