The design of typography has develo

The design of typography has developed alongside the development of typesetting systems.[31] Although typography has evolved significantly from its origins, it is a largely conservative art that tends to cleave closely to tradition.[32] This is because legibility is paramount, and so the types that are the most readable are often retained. In addition, the evolution of typography is inextricably intertwined with lettering by hand and related art forms, especially formal styles, which thrived for centuries preceding typography,[32] and so the evolution of typography must be discussed with reference to this relationship.

In the nascent stages of European printing, the type (blackletter, or Gothic) was designed in imitation of the popular hand-lettering styles of scribes.[33] Initially, this type was difficult to read, because each letter was set in place individually and made to fit tightly into the allocated space.[34] The art of manuscript writing, whose origin was in Hellenistic and Roman bookmaking, reached its zenith in the illuminated manuscripts of the Middle Ages. Metal types notably altered the style, making it "crisp and uncompromising", and also brought about "new standards of composition".[32] Claude Garamond, during the Renaissance period, was partially responsible for the adoption of Roman typeface in France, which supplanted Gothic (blackletter) fonts, which were more common.[35] Roman type was also based on hand-lettering styles.[36]

The Roman typeface’s development can be traced back to Greek lapidary letters. Although Greek lapidary letters are not examples of typography, since they were carved into stone, they were nonetheless "one of the first formal uses of Western letterforms"; after that, Roman lapidary letterforms transitioned into the monumental capitals, which laid the foundation for Western typographical design, especially serif typefaces.[35] There are two styles of Roman typography: the old style, and the modern. The former is characterized by its similarly-weighted lines, while the latter is distinguished by its contrast of light and heavy lines.[33] These styles are often combined.

By the twentieth century, computers turned type design into a rather simplified process. This has allowed the number of type styles to proliferate exponentially, as there are now thousands of fonts available.[33]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การออกแบบของพิมพ์มีพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบ typesetting [31] แม้ว่าการพิมพ์มีพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญจากกำเนิด เป็นศิลปะหัวเก่าส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มที่แบะอย่างใกล้ชิดกับประเพณี [32] นี้เป็น เพราะความชัดเจนเป็นหนึ่ง และดัง นั้นมักจะมีรักษาชนิดที่อ่านมากที่สุด นอกจากนี้ วิวัฒนาการของการพิมพ์เป็น inextricably พันกับฟอกขาวมือและศิลปะที่เกี่ยวข้อง ลักษณะเฉพาะทาง การฟื้นตัวของศตวรรษก่อนหน้าพิมพ์, [32] และดังนั้น ต้องอธิบายวิวัฒนาการของการพิมพ์โดยอ้างอิงความสัมพันธ์นี้ในระยะตั้งไข่พิมพ์ยุโรป ชนิด (blackletter หรือ Gothic) ถูกออกแบบมาในเทียมนิยมฟอกขาวมือลักษณะของภาพ [33] เริ่มต้น ชนิดนี้ได้ยากต่อการอ่าน แต่ละตัวอักษรถูกกำหนดในแต่ละ และทำแน่นเข้าพื้นที่จัดสรร [34] ศิลปะการเขียน จุดเริ่มต้นที่มีอยู่ใน bookmaking เฮเลนนิสติค และโรมัน ฉบับถึงความสุดยอดในเป็นสว่างของยุคกลาง ชนิดโลหะยวดเปลี่ยนแปลงรูปแบบ ทำให้ "ชัดเจน และแน่วแน่" และยัง นำมาเกี่ยวกับ "มาตรฐานใหม่ขององค์ประกอบ" [32] โคลด Garamond ช่วงเรอเนสซองซ์ ได้รับผิดชอบบางส่วนของแบบตัวพิมพ์โรมันในฝรั่งเศส ซึ่ง supplanted อักษรโกธิค (blackletter) ซึ่งมีทั่วไป [35] นอกจากนี้ยังขึ้นชนิดโรมันในลักษณะมือฟอกขาว [36]ของแบบตัวพิมพ์โรมันพัฒนาสามารถติดตามกลับไป lapidary อักษรกรีก แม้ว่าอักษรกรีก lapidary ไม่อย่างพิมพ์ เนื่องจากพวกเขาถูกแกะสลักลงในหิน พวกเขากระนั้น "หนึ่งของใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ letterforms ตะวันตก" หลังจากนั้น letterforms โรมัน lapidary transitioned ไปอนุสาวรีย์เมืองหลวง ซึ่งวางรากฐานสำหรับการออกแบบ typographical ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง serif typefaces [35] มีสองลักษณะของพิมพ์โรมัน: แบบเก่า และความทันสมัย เดิมเป็นลักษณะบรรทัดถ่วงน้ำหนักในทำนองเดียวกัน ในขณะที่หลังจะโดดเด่น ด้วยความคมของ เส้นหนักเบา [33] มักจะมีรวมลักษณะเหล่านี้โดยศตวรรษที่ยี่สิบ คอมพิวเตอร์เปิดชนิดออกเป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่าย นี้ได้อนุญาตให้จำนวนชนิดลักษณะการ proliferate สร้าง มีพันตอนนี้ใช้แบบอักษร [33]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การออกแบบของตัวอักษรได้มีการพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบเรียงพิมพ์. [31] แม้ว่าการพิมพ์มีการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญจากต้นกำเนิดของมันก็เป็นศิลปะอนุรักษ์นิยมส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะยึดอย่างใกล้ชิดกับประเพณี. [32] เพราะนี่คือความชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งและ เพื่อให้ชนิดที่สามารถอ่านได้มากที่สุดจะถูกเก็บไว้มักจะ นอกจากนี้วิวัฒนาการของการพิมพ์เป็นพันสัมพันธุ์ด้วยตัวอักษรด้วยมือและรูปแบบศิลปะที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบที่เป็นทางการซึ่งเติบโตมานานหลายศตวรรษก่อนหน้านี้ตัวอักษร [32] และอื่น ๆ วิวัฒนาการของการพิมพ์จะต้องมีการหารือมีการอ้างอิงถึงความสัมพันธ์นี้. ใน ขั้นตอนตั้งไข่ของการพิมพ์ยุโรปประเภท (blackletter หรือกอธิค) ได้รับการออกแบบในแบบจำลองในรูปแบบที่มือตัวอักษรที่นิยมของกราน. [33] ในขั้นต้นประเภทนี้เป็นเรื่องยากที่จะอ่านเพราะตัวอักษรแต่ละตัวที่ตั้งอยู่ในสถานที่ที่เป็นรายบุคคลและทำให้ เพื่อให้พอดีกับแน่นเข้าไปในพื้นที่จัดสรร. [34] ศิลปะการเขียนด้วยลายมือซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ใน bookmaking ขนมผสมน้ำยาและโรมันถึงสุดยอดในต้นฉบับของยุคกลาง ชนิดโลหะมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่โดดเด่นทำให้ "คมชัดและไม่ยอมแพ้" และยังนำเกี่ยวกับ "มาตรฐานใหม่ขององค์ประกอบ". [32] Claude Garamond ในช่วงระยะเวลาที่เรเนซองส์เป็นเพียงบางส่วนที่รับผิดชอบในการยอมรับของอักษรโรมันในฝรั่งเศสซึ่ง แทนที่กอธิค (blackletter) แบบอักษรซึ่งเป็นเรื่องปกติมากขึ้น. [35] ประเภทโรมันก็ยังขึ้นอยู่กับรูปแบบตัวอักษรด้วยมือ. [36] การพัฒนาแบบอักษรโรมันสามารถตรวจสอบกลับไปยังตัวอักษรกรีกช่างเจียระไนพลอย แม้ว่าตัวอักษรกรีกช่างเจียระไนพลอยไม่ได้ตัวอย่างของการพิมพ์เนื่องจากพวกเขาถูกแกะสลักเป็นหินที่พวกเขากระนั้น "หนึ่งของการใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ letterforms ตะวันตก"; หลังจากนั้น letterforms ช่างเจียระไนพลอยโรมันเปลี่ยนเข้าสู่เมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ซึ่งวางรากฐานสำหรับการออกแบบการพิมพ์ตะวันตก serif ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่ง [35] มีสองรูปแบบของตัวอักษรโรมัน:. แบบเก่าและทันสมัย อดีตเป็นลักษณะเส้นน้ำหนักในทำนองเดียวกันในขณะที่หลังจะโดดเด่นด้วยความคมชัดของแสงและเส้นหนัก. [33] ลักษณะเหล่านี้มักจะรวม. โดยศตวรรษที่ยี่สิบคอมพิวเตอร์หันออกแบบที่เป็นกระบวนการที่ค่อนข้างง่าย นี้ได้รับอนุญาตจำนวนรูปแบบประเภทที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นชี้แจงตามที่มีอยู่ในขณะนี้หลายพันแบบอักษรที่มี. [33]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การออกแบบการพิมพ์ได้พัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบเรียงพิมพ์ [ 31 ] แม้ว่าการพิมพ์มีวิวัฒนาการอย่างมากจากต้นกำเนิดของมัน มันเป็นส่วนใหญ่อนุลักษณ์ศิลปะที่มีแนวโน้มที่จะยึดอย่างใกล้ชิดเพื่อประเพณี [ 32 ] นี้เป็นเพราะความชัดเจนคือมหา และชนิดที่มีคนอ่านมากที่สุดมักจะสะสม นอกจากนี้วิวัฒนาการของตัวอักษรเป็นพัน inextricably กับอักษรด้วยมือ และที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบศิลปะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำแนกลักษณะที่ประสบความสำเร็จมานานหลายศตวรรษก่อนการพิมพ์ , [ 32 ] และวิวัฒนาการของการพิมพ์จะต้องมีการหารือกับความสัมพันธ์นี้

ในขั้นตอนตั้งไข่ของยุโรป ( blackletter การพิมพ์ , ประเภท ,หรือโกธิค ) ถูกออกแบบมาเลียนแบบความนิยมมือตัวอักษรแบบอาลักษณ์ [ 33 ] ตอนแรก ประเภทนี้ยากที่จะอ่านเพราะตัวอักษรแต่ละตัวไว้ในสถานที่ของบุคคลและทำให้พอดีแน่นเข้าจัดสรรพื้นที่ [ 34 ] ศิลปะของการเขียนต้นฉบับ ผู้ที่มาอยู่และโรมันขนมผสมน้ำยา bookmaking , ถึงสุดยอดในต้นฉบับของยุคกลางประเภทโลหะ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงรูปแบบให้มันกรอบ และแน่วแน่ และยังนำเรื่อง " มาตรฐานใหม่ขององค์ประกอบ " [ 32 ] โคลด garamond ในระหว่างสมัย ก็ต้องรับผิดชอบต่อการยอมรับของโรมันตัวอักษรในฝรั่งเศส ซึ่งแทนที่โกธิค ( blackletter ) แบบอักษร ซึ่งทั่วไป [ 35 ] โรมันพิมพ์ยังขึ้นอยู่กับลักษณะตัวอักษรมือ [ 36 ]

การพัฒนาแบบตัวพิมพ์โรมันสามารถ traced กลับไปที่ตัวอักษรลักษณะทางเพศของกรีก แม้ว่าตัวอักษรกรีกตัวอักษรตัวอย่างของโรทาไม่ได้ เนื่องจากพวกเขาถูกแกะสลักในหิน พวกเขากระนั้น " หนึ่งของการใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกของ letterforms ตะวันตก " หลังจากนั้น letterforms โรทาโรมันเปลี่ยนเป็นเมืองหลวงที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งได้วางรากฐานสำหรับการออกแบบการพิมพ์ตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง typefaces serif [ 35 ] มีสองรูปแบบของตัวพิมพ์โรมัน : โบราณและสมัยใหม่ อดีตเป็นลักษณะของมันเหมือนกับน้ำหนักเส้น ในขณะที่หลังมีความโดดเด่นโดยความคมชัดของแสงและเส้นหนัก . [ 33 ] ลักษณะเหล่านี้มักจะรวมกัน

โดยศตวรรษที่ยี่สิบ , คอมพิวเตอร์เปิดโครงการประเภทเป็นค่อนข้างง่ายกระบวนการได้รับหมายเลขของรูปแบบพิมพ์เผยแพร่ชี้แจง เช่น ขณะนี้มีหลายพันตัวอักษรของ [ 33 ]