Theories of reinforcement concentra

Theories of reinforcement concentrate
on factors external to the learner and the
assumption that changing the extrinsic
rewards will change behavior. Content
theories focus on human needs and on
identifying why people behave in certain
ways. The premise of content theories
is that people will respond in desirable
ways when their needs are met. The
assumption is that if a teacher can effectively
meet the needs of his or her students,
they will learn. Several theorists,
most notably Abraham Maslow, Clayton
Alderfer, David McClelland, Frederick
Herzberg, and John Atkinson, developed
ways of identifying and prioritizing
human needs.
To motivate a student, Maslow would
recommend that the teacher understand
the student’s level on the hierarchy or the
pyramid of human needs.12 If a student is
not working in class, and his or her homework
is incomplete, the insinuation is that
one of his or her needs is not being met.
Once the teacher identifies the need and
takes steps to fulfil it, the student will be
motivated to achieve the next level, leading
ultimately to self-actualization, which
is a “drive to become what one is capable
of becoming . . . [and] achieving one’s
potential, and self-fulfillment.”13 Rather
than encouraging managers or teachers
to be proactive, Maslow’s theories invite
teachers to be reactive to needs that are
not being met. This negative approach
of looking for physiological or psychological
deficiencies, with a focus on being
Downloaded from mej.sagepub.com at SRINAKHARINWIROT UNIVERSITY on February 28, 2014
www.menc.org 63
reactive to problems rather than looking
for the positive attributes of students, has
met with much criticism.
McClelland and Herzberg both
devised methods of matching personality
types and individual needs to work
preferences. Again, these theories focus
on adjusting a work environment in
reaction to a perceived personality type,
linking job satisfaction to working conditions.
14 Being satisfied with one’s working
environment, however, is not the same
as being motivated.15 Most public school
teachers work with students who are in
early stages of development, in terms of
personality traits. Therefore, one of the
problems of applying content theories
to teaching is that students’ personalities
have not stabilized, and their development
is incomplete during their middle
school or even high school years. Basing
motivation techniques on personality
types is not the most effective method of
finding a stimulus, or of creating that invitation
to the dance. Those who work in
middle school might contend that there
are days when physical needs, driven
by hormonal changes in teenagers, are
primary needs for their age and maturity.
The need for belonging to a social
group is another example of an aspect of
maturation that is unbalanced until a later
age. Content theories seem to apply more
directly to adults in the workforce than to
young students, as the needs of adolescents
are constantly evolving. Teachers
who are effective with this age-group can
assess these shifting priorities and adapt
the dance from a polka one day to a waltz
on another.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการเสริมแรงสมาธิ
อยู่กับปัจจัยภายนอกที่จะเรียนรู้และ
สมมติฐานว่าการเปลี่ยนแปลงภายนอก
ผลตอบแทนจะเปลี่ยนพฤติกรรม เนื้อหา
ทฤษฎีมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของมนุษย์และ
ระบุเหตุผลที่คนทำงานในบาง
วิธี สถานที่ตั้งของทฤษฎีเนื้อหา
คือคนที่จะตอบสนองในการเป็นที่น่าพอใจ
วิธีที่เมื่อความต้องการของพวกเขาจะได้พบกับ
สมมติฐานคือว่าถ้าเป็นครูที่มีประสิทธิภาพสามารถ
ตอบสนองความต้องการของนักเรียนของเขาหรือเธอ
ที่พวกเขาจะได้เรียนรู้ นักทฤษฎีหลาย
สะดุดตาที่สุดอับราฮัมมาสโลว์, เคลย์ตัน
Alderfer เดวิดแมคคลีแลนด์, เฟรเดอริ
Herzberg และจอห์นแอตกินสัน, การพัฒนา
วิธีการในการระบุและจัดลำดับความสำคัญ
ความต้องการของมนุษย์.
เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน Maslow จะ
ขอแนะนำให้ครูเข้าใจ
ระดับของนักเรียนที่อยู่ในลำดับชั้นหรือ
ปิรามิดของ needs.12 มนุษย์ถ้านักเรียนจะ
ไม่ได้ทำงานในชั้นเรียนและการบ้านของเขาหรือเธอ
ไม่สมบูรณ์เสียดสีก็คือ
หนึ่งในความต้องการของเขาหรือเธอไม่ได้ถูกพบ.
เมื่อครูระบุถึงความต้องการและ
ใช้เวลาดำเนินการเพื่อตอบสนองความมัน นักศึกษาจะได้รับ
แรงจูงใจที่จะประสบความสำเร็จในระดับถัดไปที่นำ
ไปสู่ความเชื่อตัวเองซึ่ง
เป็นไดรฟ์ "ที่จะกลายเป็นสิ่งที่มีความสามารถ
ของการเป็น . . [และ] บรรลุหนึ่งของ
ที่มีศักยภาพและตัวเองปฏิบัติตาม. "13 แต่
กว่าการส่งเสริมให้ผู้จัดการหรือครู
ที่จะเป็นเชิงรุกทฤษฎีของ Maslow เชิญ
ครูที่จะมีปฏิกิริยากับความต้องการที่จะ
ไม่ได้พบ วิธีนี้ในเชิงลบ
ของการมองหาทางสรีรวิทยาหรือจิตใจ
บกพร่องให้ความสำคัญกับการถูก
ดาวน์โหลดจาก mej.sagepub.com มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2014
www.menc.org 63
ปฏิกิริยาปัญหามากกว่าที่จะมอง
หาคุณลักษณะที่ดีของนักเรียน ได้
พบกับคำวิจารณ์มาก.
แมคคลีแลนด์และ Herzberg ทั้ง
วิธีการวางแผนของการจับคู่บุคลิกภาพ
ประเภทและความต้องการของแต่ละบุคคลในการทำงาน
การตั้งค่า อีกทฤษฎีเหล่านี้มุ่งเน้น
เกี่ยวกับการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานใน
การตอบสนองต่อลักษณะบุคลิกภาพการรับรู้
การเชื่อมโยงความพึงพอใจกับสภาพการทำงาน.
14 เป็นความพึงพอใจกับการทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งของ
สภาพแวดล้อม แต่จะไม่เหมือนกัน
ในฐานะที่เป็นส่วนใหญ่ motivated.15 โรงเรียนเทศบาล
ครูทำงานกับ นักเรียนที่อยู่ใน
ขั้นตอนแรกของการพัฒนาในแง่ของ
ลักษณะบุคลิกภาพ ดังนั้นหนึ่งใน
ปัญหาของการใช้ทฤษฎีเนื้อหา
การเรียนการสอนก็คือบุคลิกของนักเรียนที่
ยังไม่ได้มีเสถียรภาพและการพัฒนาของพวกเขา
ไม่สมบูรณ์ในช่วงกลางของพวกเขา
ที่โรงเรียนหรือแม้กระทั่งปีที่โรงเรียนมัธยม เบส
เทคนิคการสร้างแรงจูงใจที่เกี่ยวกับบุคลิกภาพ
ประเภทไม่ได้วิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดใน
การหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการสร้างคำเชิญที่
จะเต้น ผู้ที่ทำงานใน
โรงเรียนมัธยมอาจโต้แย้งว่ามี
วันเมื่อความต้องการทางกายภาพแรงหนุน
จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยรุ่นมี
ความต้องการหลักสำหรับอายุและวุฒิภาวะของพวกเขา.
จำเป็นที่จะต้องอยู่ในสังคม
กลุ่มคือตัวอย่างของแง่มุมของอีก
ที่มีการเจริญเติบโต ไม่สมดุลจนต่อมา
อายุ ทฤษฎีเนื้อหาดูเหมือนจะใช้มากขึ้น
โดยตรงกับผู้ใหญ่ในแรงงานมากกว่าที่
เด็กนักเรียนเป็นความต้องการของวัยรุ่น
ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ครู
ที่มีผลบังคับใช้กับกลุ่มอายุนี้สามารถ
ประเมินจัดลำดับความสำคัญขยับเหล่านี้และปรับตัวเข้ากับ
การเต้นจากลายหนึ่งวันที่จะเต้นรำ
อีก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการเสริมแรงสมาธิ
ปัจจัยภายนอกเพื่อผู้เรียน และสมมติฐานที่เปลี่ยนแปลงภายนอก

รางวัลจะเปลี่ยนพฤติกรรม เนื้อหา
ทฤษฎีมุ่งเน้นความต้องการของมนุษย์และในการระบุถึงพฤติกรรมบางอย่าง

วิธี หลักฐานของทฤษฎีเนื้อหา
คือคนที่จะตอบสนองในลักษณะที่พึงปรารถนา
เมื่อความต้องการของพวกเขาจะได้พบกับ
สันนิษฐานว่าถ้าครูสามารถมีประสิทธิภาพ
ตอบสนองความต้องการของนักเรียนของเขา หรือเธอ
พวกเขาจะได้เรียนรู้ นักทฤษฎีหลาย
ส่วนใหญ่ยวด อับราฮัม มาสโลว์ เคลย์ตัน
แอลเดอร์เฟอร์ , David McClelland เฟรดเดอริก
) และ John Atkinson , พัฒนาวิธีการระบุและจัดลำดับความสำคัญ


ต้องการของมนุษย์ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน มาสโลว์จะว่าครูเข้าใจ

แนะนำระดับของนักเรียนในลำดับชั้นของความต้องการของมนุษย์หรือ
พีระมิด .ถ้านักเรียน
ไม่ทำงานในชั้นเรียน และ ของเขาหรือเธอ การบ้าน
ไม่สมบูรณ์ , บอกเป็นนัยว่า
หนึ่งของความต้องการของเขา หรือเธอจะไม่ได้พบ .
เมื่อครูระบุความต้องการและ
ใช้ขั้นตอนที่ต้องทำให้สำเร็จ นักเรียนจะ
แรงจูงใจเพื่อให้บรรลุในระดับถัดไป นำทาง

ในที่สุดเพื่อการเข้าใจตนเอง ซึ่งเป็นไดรฟ์ " เป็นสิ่งที่มีความสามารถ
เป็น . . . . . . . .[ และ ] ความสำเร็จหนึ่งของ
ศักยภาพและเติมเต็มตนเอง . " 13 ค่อนข้างเล็ก ผู้จัดการ หรือครู

กว่าจะเป็นเชิงรุก มาสโลว์ ทฤษฎีเชิญ
ครูเป็นปฏิกิริยากับความต้องการที่
ไม่ได้เจอกัน
วิธีนี้ลบมองหาทางสรีรวิทยาหรือทางจิตใจ
บกพร่อง โดยมุ่งเน้นการ
ดาวน์โหลดจาก mej.sagepub.com มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒกุมภาพันธ์ 28 , 2014
wwwmenc.org 63
ปฏิกิริยากับปัญหาแทนที่จะมองหา
สำหรับคุณลักษณะในเชิงบวกของนักเรียน ได้เจอกับคำวิจารณ์มาก
.
McClelland และความพึงพอใจในการทำงานทั้ง
วางแผนวิธีการจับคู่บุคลิกภาพและความต้องการแต่ละคน

แต่ง อีกทฤษฎีเหล่านี้มุ่งเน้นในการปรับสภาพแวดล้อมการทำงานใน

ปฏิกิริยาการรับรู้บุคลิกภาพประเภทการเชื่อมโยงการปฏิบัติงานสภาพการทำงาน
.
14 ถูกพอใจกับหนึ่งทำงาน
สิ่งแวดล้อม แต่ไม่เหมือนเดิม

motivated.15 ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนรัฐบาล ครูทำงานกับนักเรียนใน
ระยะแรกของการพัฒนาในแง่ของ
บุคลิกภาพ ดังนั้น หนึ่งในปัญหาของการใช้ทฤษฎี

เนื้อหาที่จะสอนคือ บุคลิกภาพของนักเรียน
ไม่มีเสถียรภาพและการพัฒนาของพวกเขาไม่สมบูรณ์ในโรงเรียนกลาง
ของพวกเขาหรือแม้กระทั่งปีโรงเรียนมัธยม อ้างอิง
เทคนิคการจูงใจในบุคลิกภาพ
ไม่ได้เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของ
การกระตุ้น หรือการสร้างบัตรเชิญ
ไปเต้นได้ ผู้ที่ทำงานในโรงเรียนอาจโต้แย้งว่ามี

วัน เมื่อร่างกายต้องการ ขับเคลื่อนโดยการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในวัยรุ่น

มีความต้องการหลักของพวกเขาอายุและวุฒิภาวะ
ต้องเป็นของกลุ่มทางสังคม
เป็นอีกตัวอย่างของลักษณะของ
วุฒิภาวะที่สมดุลจนอายุภายหลัง

ทฤษฎีเนื้อหาเหมือนจะใช้มากขึ้น
โดยผู้ใหญ่ในแรงงานกว่า

นักศึกษาสาวที่เป็นความต้องการของวัยรุ่น
จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ครู
ที่มีประสิทธิภาพกับวัยนี้ สามารถประเมินและปรับเปลี่ยนลำดับความสำคัญเหล่านี้

เต้นรำจากลายวันหนึ่ง waltz
ในอีก