Cher gained popularity in 1965 as o

Cher gained popularity in 1965 as one-half of the folk rock husband–wife duo Sonny & Cher after their song "I Got You Babe" reached number one on the record charts. She began her solo career simultaneously, releasing in 1966 her first million-seller song, "Bang Bang (My Baby Shot Me Down)". Goldmine magazine's Phill Marder described her as the leader of an effort in the 1960s to "advance feminine rebellion in the rock world [and] the prototype of the female rock star, setting the standard for appearance [and] attitude".[1] She became a television personality in the 1970s with her shows The Sonny & Cher Comedy Hour, watched by over 30 million viewers weekly during its three-year run, and Cher. She emerged as a fashion trendsetter by wearing elaborate outfits on her television shows. While working on television, she established herself as a solo artist with the number-one singles "Gypsys, Tramps & Thieves", "Half-Breed", and "Dark Lady". After her divorce from Sonny Bono in 1975, Cher launched a comeback in 1979 with the disco-oriented album Take Me Home and earned $300,000 a week for her 1980–1982 residency show in Las Vegas.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นี่ได้รับความนิยมในปี 1965 เป็นครึ่งหนึ่งของโฟล์กร็อกสามี – ภรรยา duo ซอนนี่นี่หลังจากที่เพลงของพวกเขา "ผมคุณ Babe" ถึงหนึ่งในแผนภูมิการบันทึก เธอเริ่มทำอาชีพเดี่ยวกัน ปล่อยเป็นเพลงของเธอขายล้านแรก "บางบาง (ขี่ม้ายิงฉันลง)" Phill Marder โกลเด้นไมน์นิตยสารอธิบายเธอเป็นผู้นำของความพยายามในปี 1960 "กบฏผู้หญิงในโลกร็อค [และ] ต้นแบบของดาวหินหญิง มาตรฐานลักษณะ [และ] ทัศนคติล่วงหน้า" [1] เธอเป็นบุคลิกภาพโทรทัศน์ในทศวรรษ 1970 มี Sonny เธอแสดง และ ชั่วโมงตลกดี ดู โดยผู้ชมกว่า 30 ล้านรายสัปดาห์ปีสามวิ่ง และดี เธอเกิดเป็นรนด์แฟชั่น โดยสวมใส่ชุดอย่างประณีตบนโทรทัศน์ของเธอ ทำงานบนโทรทัศน์ เธอก่อตั้งตัวเองเป็นศิลปินเดี่ยวกับโสดหมายเลข 1 "Gypsys, Tramps และขโมย" "Half-Breed" และ "เลดี้มืด" หลังจากที่เธอหย่าจาก Sonny Bono ใน 1975 นี่กลับมาเปิดตัวในปีค.ศ. 1979 มีแนวดิสโก้อัลบั้มใช้เวลาฉันกลับบ้าน และได้รับ $300,000 ต่อสัปดาห์สำหรับการแสดงของเธอซี่ 1980 – 1982 ในลาสเวกัส

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Cher ได้รับความนิยมในปี 1965 เป็นครึ่งหนึ่งของลูกทุ่งร็อกสามีภรรยาคู่ซันนี่ & แชหลังจากเพลง "ผมคุณไร้เดียงสา" ถึงอันดับหนึ่งในชา​​ร์ตบันทึก เธอเริ่มอาชีพเดี่ยวของเธอพร้อมกันในปี 1966 ปล่อยเพลงแรกล้านขายของเธอ "ปังปัง (ลูกของฉันลง)" Goldmine นิตยสาร Phill ร์เดอร์บอกว่าผู้นำของความพยายามในปี 1960 ที่จะ "ก้าวไปสู่​​การก่อจลาจลของผู้หญิงในโลกหิน [และ] ต้นแบบของดาวร็อคหญิง, การตั้งค่ามาตรฐานสำหรับการปรากฏตัว [และ] ทัศนคติ". [1] เธอ กลายเป็นโทรทัศน์บุคลิกภาพในปี 1970 แสดงให้เห็นกับเธอที่ซันนี่และเพื่อนตลกชั่วโมง, ดูกว่า 30 ล้านผู้ชมทุกสัปดาห์ในระหว่างการทำงานในปีที่สามของตนและเพื่อน เธอกลายเป็นเทรนด์แฟชั่นด้วยการสวมชุดที่ซับซ้อนในรายการโทรทัศน์ของเธอ ขณะที่การทำงานบนจอโทรทัศน์ที่เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นศิลปินเดี่ยวที่มีจำนวนหนึ่งเดียว "Gypsys เร่ร่อน & โจร", "ครึ่งพันธุ์" และ "เลดี้มืด" หลังจากหย่าขาดจากเธอซันนี่ Bono ในปี 1975, Cher เปิดตัวการกลับมาในปี 1979 กับอัลบั้มดิสโก้ที่มุ่งเน้น Take Me Home และได้รับ $ 300,000 ต่อสัปดาห์สำหรับการแสดง 1980-1982 ถิ่นที่อยู่ของเธอในลาสเวกั

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฌอได้รับความนิยมในปี 1965 เป็นครึ่งหนึ่งของสามี - ภรรยาคู่ ซันนี่ ชาวบ้านหิน& Cher หลังจากเพลง " ของพวกเขาฉันมีคุณที่รัก " เป็นจำนวนถึงหนึ่งในบันทึกแผนภูมิ เธอเริ่มอาชีพเดี่ยวของเธอพร้อมกัน ปล่อยใน 1966 แรกของเธอล้านผู้ขายเพลง " ปังปัง ( ลูกของฉัน ) "นิตยสาร goldmine ของฟิลมาร์เดอร์อธิบายของเธอในฐานะผู้นำของความพยายามใน 1960s ล่วงหน้า " กบฏผู้หญิงในหินโลก [ และ ] ต้นแบบของดาราร็อคหญิง , การตั้งค่ามาตรฐานสำหรับลักษณะและทัศนคติ " [ 1 ] เธอกลายเป็นบุคลิกภาพโทรทัศน์ในปี 1970 กับเธอแสดง&ซันนี่ Cher Comedy ชั่วโมงจับตามองมากกว่า 30 ล้านคน ในช่วง 3 สัปดาห์ของการเรียกใช้และแชร์ ที่เธอเกิดเป็นเทรนด์แฟชั่นสวมใส่ชุดที่ซับซ้อนทางโทรทัศน์ของเธอแสดง ในขณะที่ทำงานบนโทรทัศน์ เธอยอมรับตัวเองในฐานะศิลปินเดี่ยวกับหมายเลขหนึ่ง " gypsys เร่ร่อน&โจร " , " ลูกครึ่ง " และ " สุภาพสตรีมืด " หลังจากที่เธอหย่าจาก ซอนนี่โบโน่ในปี 1975เฌอเปิดอัลบั้ม 1979 กับดิสโก้วางอัลบั้มพาฉันกลับบ้านและได้รับ $ 300000 สัปดาห์เธอ 1980 – 2525 ทำเนียบแสดงในลาสเวกัส