The importer's tariff must result i

The importer's tariff must result in a reduction in national welfare for the exporting country.• The net national welfare effect for the importing country can be either positive or negative. a tariff implemented by a "large" importing country may raise national welfare.• Whenever a "large" country implements a small tariff, it will raise national welfare.• If the tariff is set too high, national welfare will fall.• There will be a positive optimal tariff that will maximize national welfare.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราภาษีของผู้นำเข้าจะต้องส่งผลให้สวัสดิการของประเทศผู้ส่งออกลดลง • ผลสวัสดิการสุทธิสุทธิของประเทศผู้นำเข้าอาจเป็นได้ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ  ภาษีที่ดำเนินการโดยประเทศผู้นำเข้า "ขนาดใหญ่" อาจเพิ่มสวัสดิการของชาติ • เมื่อใดก็ตามที่ประเทศ "ใหญ่" กำหนดอัตราภาษีศุลกากรเล็กน้อย ก็จะเพิ่มสวัสดิการของชาติ • หากกำหนดอัตราภาษีไว้สูงเกินไป สวัสดิการของชาติจะลดลง • จะมีอัตราภาษีศุลกากรเชิงบวกที่จะเพิ่มสวัสดิการของชาติให้สูงสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาษีศุลกากรของผู้นำเข้าต้องลดสวัสดิการแห่งชาติของประเทศผู้ส่งออก
•ผลกระทบสวัสดิการแห่งชาติสุทธิของประเทศผู้นำเข้าสามารถเป็นบวกหรือลบ
 ภาษีศุลกากรที่บังคับใช้โดยประเทศผู้นําเข้า "ใหญ่" อาจเพิ่มสวัสดิการของประเทศ
• เมื่อใดก็ตามที่ "ประเทศใหญ่" บังคับใช้ภาษีศุลกากร สวัสดิการของชาติก็จะเพิ่มขึ้น
• หากกําหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงเกินไป สวัสดิการของชาติก็จะลดลง
•จะมีอัตราภาษีที่ดีที่สุดในเชิงรุกเพื่อเพิ่มสวัสดิการแห่งชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัตราภาษีศุลกากรของประเทศผู้นําเข้าย่อมส่งผลให้สวัสดิการแห่งชาติของประเทศผู้ส่งออกลดลง
ผลกระทบด้านสวัสดิการแห่งชาติสุทธิของประเทศผู้นําเข้าอาจเป็นบวกหรือลบ
อัตราภาษีศุลกากรที่ดําเนินการโดยประเทศผู้นําเข้า"ใหญ่"อาจเพิ่มสวัสดิการของประเทศ
เมื่อใดก็ตามที่ประเทศ"ใหญ่"ใช้ภาษีศุลกากรต่ําสวัสดิการของชาติจะเพิ่มขึ้น
หากอัตราภาษีศุลกากรสูงเกินไปสวัสดิการแห่งชาติจะลดลง
จะมีอัตราภาษีศุลกากรที่ดีที่สุดเชิงบวก เพื่อเพิ่มสวัสดิการของชาติให้มากที่สุด.