โกโก้มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโ

โกโก้มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้ แต่ก็ยังคงถกเถียงกันอยู่มากเกี่ยวกับผลในการช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจ เนื่องจากมันมีพวกไขมัน น้ำตาล และให้พลังงานสูง อย่างไรก็ตามข้อมูลการรายงานผลการศึกษาล่าสุดจากวารสาร Archives of Internal Medicine ระบุว่ามันช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างชัดเจนค่ะ โดยคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุด จะส่งผลให้มีความดันโลหิตลดลง และยังพบว่ากลุ่มคนที่รับประทานโกโก้ มีจำนวนผู้ป่วยโรคหัวใจน้อยกว่ากลุ่มคนที่ไม่ได้รับประทานอีกด้วย ทั้งนี้น่าจะมาจากผลของสารต้านอนุมูลอิสระ และสารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในโกโก้ ที่จะช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของเซลสิ่งมีชีวิตทำงานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลของระบบหลอดเลือดต่าง ๆ และมันยังช่วยลดผลกระทบจากพวกไขมันคอเลสเตอรอลและสารเคมีอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ มะเร็ง และโรคปอด สารฟลาโวนอยด์นี้ยังสามารถพบได้ในผักหลาย ๆ ชนิด รวมทั้งพวก ชาเขียวและไวน์แดง

งานวิจัยชิ้นนี้เขาได้ทำการศึกษามานานกว่า 15 ปี ในชายอายุระหว่าง 65-84 ปี จำนวนเกือบ 500 คนที่อาศัยในเมือง Zutphen ประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่า 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับประทานโกโก้ ขณะที่ค่าเฉลี่ยมัธยฐานของกลุ่มของการรับประทานโกโก้จะอยู่ที่ 4.2 กรัมต่อวัน ในจำนวนอาสาสมัครกลุ่มนี้พบว่า ในช่วงระหว่างปี พ.ศ.2528-2543 มีอาสาสมัครเสียชีวิตลง 314 คน ซึ่งพบว่าคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุด มีความเสี่ยงลดลงครึ่งหนึ่งของคนที่ไม่ได้รับประทาน

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะสรุปได้อย่างชัดเจนว่า การรับประทานโกโก้ช่วยให้อายุยืนยาว ก็ต้องมีการศึกษาวิจัยในจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่านี้ และเป็นที่น่าสังเกตว่าการทดลองนี้ทำขึ้น โดยใช้อาสาสมัครที่เป็นผู้ชายเท่านั้น และทุกคนล้วนเป็นคนสูงอายุทั้งสิ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โกโก้มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้แต่ก็ยังคงถกเถียงกันอยู่มากเกี่ยวกับผลในการช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจเนื่องจากมันมีพวกไขมันน้ำตาลและให้พลังงานสูง หอจดหมายเหตุแห่งกรรมระบุว่ามันช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างชัดเจนค่ะโดยคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุดจะส่งผลให้มีความดันโลหิตลดลงและยังพบว่ากลุ่มคนที่รับประทานโกโก้ ทั้งนี้น่าจะมาจากผลของสารต้านอนุมูลอิสระและสารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในโกโก้ที่จะช่วยให้ระบบการทำงานต่างๆ ของเซลสิ่งมีชีวิตทำงานได้ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลของระบบหลอดเลือดต่างๆ ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจมะเร็งและโรคปอดสารฟลาโวนอยด์นี้ยังสามารถพบได้ในผักหลายๆ สิ่งรวมทั้งพวกชาเขียวและไวน์แดง

งานวิจัยชิ้นนี้เขาได้ทำการศึกษามานานกว่า 15 ปีในชายอายุระหว่าง 65-84 ปีจำนวนเกือบ 500 คนที่อาศัยในเมือง Zutphen ประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับประทานโกโก้ 4กรัมต่อวัน 2 ในจำนวนอาสาสมัครกลุ่มนี้พบว่าในช่วงระหว่างปีคนมีอาสาสมัครเสียชีวิตลง พ.ศ.2528-2543 314 ซึ่งพบว่าคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุดมีความเสี่ยงลดลงครึ่งหนึ่งของคนที่ไม่ได้รับประทาน

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะสรุปได้อย่างชัดเจนว่าการรับประทานโกโก้ช่วยให้อายุยืนยาวก็ต้องมีการศึกษาวิจัยในจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่านี้และเป็นที่น่าสังเกตว่าการทดลองนี้ทำขึ้น และทุกคนล้วนเป็นคนสูงอายุทั้งสิ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เนื่องจากมันมีพวกไขมันน้ำตาลและให้พลังงานสูง คลังเก็บของอายุรศาสตร์ โดยคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุดจะส่งผลให้มีความดันโลหิตลดลง และสารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในโกโก้ที่จะช่วยให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ของเซลสิ่งมีชีวิตทำงานได้ดีขึ้น ๆ ๆ ที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจมะเร็งและโรคปอด ๆ ชนิดรวมทั้งพวก 15 ปีในชายอายุระหว่าง 65-84 ปีจำนวนเกือบ 500 คนอาศัยในเมือง Zutphen ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับประทานโกโก้ 4.2 กรัมต่อวันในจำนวนอาสาสมัครกลุ่มนี้พบว่าในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2528-2543 มีอาสาสมัครเสียชีวิตลง 314 คน และทุกคนล้วนเป็นคนสูงอายุทั้งสิ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โกโก้มีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยลดความดันโลหิตได้แต่ก็ยังคงถกเถียงกันอยู่มากเกี่ยวกับผลในการช่วยลดโอกาสเกิดโรคหัวใจเนื่องจากมันมีพวกไขมันน้ำตาลและให้พลังงานสูงเก็บของอายุรศาสตร์ระบุว่ามันช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลงอย่างชัดเจนค่ะโดยคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุดจะส่งผลให้มีความดันโลหิตลดลงและยังพบว่ากลุ่มคนที่รับประทานโกโก้ทั้งนี้น่าจะมาจากผลของสารต้านอนุมูลอิสระและสารฟลาโวนอยด์ที่มีมากในโกโก้ที่จะช่วยให้ระบบการทำงานต่างจะไม่มีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลของระบบหลอดเลือดต่างของเซลสิ่งมีชีวิตทำงานได้ดีขึ้นจะที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจมะเร็งและโรคปอดสารฟลาโวนอยด์นี้ยังสามารถพบได้ในผักหลายจะชนิดรวมทั้งพวกชาเขียวและไวน์แดง

งานวิจัยชิ้นนี้เขาได้ทำการศึกษามานานกว่า 15 . ในชายอายุระหว่าง 65-84 . จำนวนเกือบ 500 คนที่อาศัยในเมืองประเทศเนเธอร์แลนด์พบว่า 1 the 3 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับประทานโกโก้ซุทเฟน4 .2 กรัมต่อวันในจำนวนอาสาสมัครกลุ่มนี้พบว่าในช่วงระหว่างปีพ . ศ . 2528-2543 มีอาสาสมัครเสียชีวิตลง 314 คนซึ่งพบว่าคนที่รับประทานโกโก้มากที่สุดมีความเสี่ยงลดลงครึ่งหนึ่งของคนที่ไม่ได้รับประทาน

แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะสรุปได้อย่างชัดเจนว่าการรับประทานโกโก้ช่วยให้อายุยืนยาวก็ต้องมีการศึกษาวิจัยในจำนวนกลุ่มตัวอย่างที่มากกว่านี้และเป็นที่น่าสังเกตว่าการทดลองนี้ทำขึ้นและทุกคนล้วนเป็นคนสูงอายุทั้งสิ้น