ในปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและครอบคลุมชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เกิดจนตาย ทำให้เกิดนวัตกรรมล้ำสมัยมากมายที่ช่วยแก้ไขปัญหาและปรับปรุงให้ดีขึ้น นับว่าเป็นตัวช่วยของมนุษย์ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีของเทคโนโลยีเช่น การทำให้มนุษย์มีอายุยืนยาวมากขึ้นด้วยเทคโนโลยีด้านการแพทย์ เช่น การเลเซอร์ การผ่าตัด ซึ่งเลเซอร์เปรียบเสมือนมีดที่คมมาก มีความแม่นยำ ทำให้การรักษาได้ผลดีและใช้เวลารักษาระยะสั้น การทำให้คุณภาพชีวิตของมนุษย์ดีขึ้น เช่น ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย การเดินทาง คมนาคม การสื่อาร ซึ่งอำนวยความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ เป็นแหล่งความบันเทิง เช่น อินเตอร์เน็ต การปรับปรุงพันธุ์พืชและสัตว์ เช่น การโคลนนิ่ง การเพาะพันธุ์ การขยายพันธุ์ เทคโนโลยียังช่วยลดแรงงานของคน เช่น ช่วยในการผลิต การคำนวน ได้ผลผลิตที่มีมาตรฐาน ทางด้านการศึกษา ทำให้เกิดสื่อการเรียนการสอนมากมาย ช่วยในการหาความรู้ ทางด้านการทหารทำให้เกิดระบบการป้องกันประเทศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ข้อเสียของเทคโนโลยีเช่น สิ้นเปลืองทรัพยากร เช่น น้ำมัน แก๊ส ถ่านหิน น้ำ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน มลพิษ ทำลายธรรมชาติ ด้านสังคม เปลี่ยนสังคมชาวบ้านให้กลายเป็นวัตถุนิยม ทำให้มนุษย์ขาดการออกกำลังกาย ทำให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน ทำให้เสียเวลาเพราะจดจ่ออยู่กับเทคโนโลยีมากเกินไปและทำให้ผู้ใช้มีโลกเป็นของตนเอง ขาดการติดต่อกับผู้อื่น และยังก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรม การพัฒนาเทคโนโลยีให้ดีขึ้นและส่งผลเสียน้อยที่สุดสามารถทำได้ เช่น ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้น้อยลง เพิ่มงานฝีมือจากแรงงานคน ทำให้เกิดความสามัคคี แลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน จะทำให้ทำลายธรรมชาติน้อยลงและลดการเกิดภาวะโรคร้อน ลดการใช้เทคโนโลยีและดำเนินตามวิถีทางธรรมชาติ เช่นการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ทำให้ได้ออกกำลังกาย เปลี่ยนจากการนั่งแชทอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไปเจอหน้ากัน หรือพูดคุยตัวต่อตัวกันให้มากขึ้น ทำให้เรามีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เปลี่ยนความคิด การยึดติดกับวัตถุนิยม เพราะฉะนั้นเราควรใช้ทฤษฎีความพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการดำเนินชีวิต ซึ่งจะนำไปสู่ความสุข ในเมื่อเทคโนโลยีมีข้อดีมากมากย่อมต้องมีข้อเสีย เราควรพิจารณาเลือกใช้อย่างถูกต้อง เพราะถ้าใช้มากไปมันจะกลับมาทำร้ายเรา แต่ถ้าใช้อย่างมีสติก็จะเกิดประโยชน์ต่อชีวิต