The Great Barrier Reef is the world

The Great Barrier Reef is the world's largest coral reef system composed of over 2,900 individual reefs and 900 islands stretching for over 2,300 kilometres over an area of approximately 344,400 square kilometres The reef is located in the Coral Sea, off the coast of Queensland, Australia.
The Great Barrier Reef can be seen from outer space and is the world's biggest single structure made by living organisms. This reef structure is composed of and built by billions of tiny organisms, known as coral polyps. It supports a wide diversity of life and was selected as a World Heritage Site in 1981. CNN labelled it one of the seven natural wonders of the world. The Queensland National Trust named it a state icon of Queensland.
A large part of the reef is protected by the Great Barrier Reef Marine Park, which helps to limit the impact of human use, such as fishing and tourism. Other environmental pressures on the reef an its ecosystem include runoff, climate change accompanied by mass coral bleaching, and cyclic population outbreaks of the crown-of-thorns starfish. According to a study published in October 2012 by theProceedings of the National Academy of Sciences, the reef has lost more than half its coral cover since 1985.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกรทเป็นระบบแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของโลกประกอบด้วยแนวปะการังแต่ละ 2,900 กว่า 900 เกาะยืดกว่า 2,300 กิโลเมตรบนพื้นที่ประมาณ 344,400 ตารางกิโลเมตรแนวปะการังอยู่ในปะการัง ปิดชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลียเกรทสามารถมองเห็นจากอวกาศ และโลกที่ใหญ่ที่สุดเดียวโครงสร้างโดยสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ โครงสร้างแนวปะการังนี้ประกอบ และสร้างขึ้น โดยสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ เรียกว่าปะการังเป็นพัน สนับสนุนชีวิตที่มีความหลากหลาย และได้รับเลือกเป็นมรดกโลกในปี 1981 ซีเอ็นเอ็นฉลากมันหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลก เชื่อชาติควีนสแลนด์ตั้งชื่อไอคอนสถานะของรัฐควีนส์แลนด์ แนวปะการังส่วนใหญ่มีป้องกัน โดยการดีอุปสรรคปะการังอุทยาน ซึ่งช่วยจำกัดผลกระทบของมนุษย์ใช้ เช่นตกปลาและท่องเที่ยว แรงกดดันอื่น ๆ สิ่งแวดล้อมในแนวปะการังเป็นระบบนิเวศมีน้ำไหลผ่าน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพร้อมกับมวลปะการังฟอกขาว และประชากรวงจรระบาดของหนาม ตามการศึกษาเผยแพร่ใน 2555 ตุลาคม โดย theProceedings ของสถาบันแห่งชาติวิทยาศาสตร์ แนวปะการังได้หายไปกว่าครึ่งครอบปะการังตั้งแต่ปี 1985

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

The Great Barrier Reef เป็นระบบแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกประกอบด้วยมากกว่า 2,900 แนวของแต่ละบุคคลและ 900 เกาะยืดมานานกว่า 2,300 กิโลเมตรทั่วพื้นที่ประมาณ 344,400 ตารางกิโลเมตรแนวตั้งอยู่ในแนวปะการังทะเลที่นอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ออสเตรเลีย
The Great Barrier Reef สามารถเห็นได้จากพื้นที่รอบนอกและเป็นโครงสร้างเดียวที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่ทำโดยสิ่งมีชีวิต โครงสร้างแนวนี้จะประกอบด้วยและสร้างขึ้นโดยพันล้านของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่รู้จักกันเป็นปะการัง มันสนับสนุนความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 1981 ที่มีป้ายกำกับซีเอ็นเอ็นมันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก รัฐควีนส์แลนด์เนชั่นแนลทรัสต์ชื่อไอคอนรัฐควีนส์แลนด์.
ส่วนใหญ่ของแนวปะการังได้รับการคุ้มครองโดย Great Barrier Reef Marine Park ซึ่งจะช่วยในการ จำกัด ผลกระทบของการใช้งานของมนุษย์เช่นการประมงและการท่องเที่ยว แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ในระบบนิเวศแนวปะการังของมันรวมถึงการไหลบ่าเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศพร้อมด้วยปะการังฟอกขาวมวลและวงจรการระบาดของประชากรของปลาดาวมงกุฎหนาม ตามการศึกษาที่ตีพิมพ์ในเดือนตุลาคม 2012 โดย theProceedings ของ National Academy of Sciences, แนวปะการังได้หายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของปะการังปกคลุมตั้งแต่ปี 1985

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Great Barrier Reef เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดของโลกระบบประกอบด้วยมากกว่า 2900 บุคคลแนวปะการังและ 900 เกาะยืดกว่า 2300 กิโลเมตร บนพื้นที่ประมาณ 344400 ตารางกิโลเมตร ตั้งอยู่ในทะเลแนวปะการัง นอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลียGreat Barrier Reef ที่สามารถเห็นได้จากอวกาศ และเป็นโลกที่ใหญ่ที่สุดเดียวโครงสร้างโดยสิ่งมีชีวิต โครงสร้างแนวปะการังนี้ประกอบด้วยและสร้างโดยพันล้านของสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆที่เรียกว่า polyps ปะการัง . มันสนับสนุนความหลากหลายของชีวิตและได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลกในปี 1981 ซีเอ็นเอ็นระบุเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติของโลก ความน่าเชื่อถือแห่งชาติควีนส์แลนด์ ชื่อมันเป็นไอคอนของรัฐควีนส์แลนด์ขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งของแนวป้องกัน โดย Great Barrier Reef Marine Park , ซึ่งช่วยจำกัดผลกระทบของการใช้ประโยชน์ของมนุษย์ เช่น การประมง และการท่องเที่ยว แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อมตามแนวปะการังเป็นระบบนิเวศของมันประกอบด้วยน้ำท่า การเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศพร้อมด้วยมวลปะการังฟอกขาว และเป็นประชากรการระบาดของดาวมงกุฏหนาม ตามการศึกษาที่เผยแพร่ในเดือนตุลาคม โดย theproceedings ของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ แนวได้หายไปมากกว่าครึ่งหนึ่งของปะการัง ครอบคลุมตั้งแต่ 1985